ข้อควรรู้ ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น
1. จำเป็นต้องมีใบขับขี่สากล
สามารถไปทำได้ที่กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานขนส่งประจำจังหวัด ในเขตพื้นที่กรุงเทพ สามารถทำ และรับได้เลย ถ้าหากเป็นต่างจังหวัดจะได้รับในวันถัดไป (ไม่แน่ใจว่าทุกจังหวัดหรือเปล่านะ แต่นุ้ยกับต้นเคยไปทำที่ภูเก็ต 2 ครั้ง และได้รับวันถัดไปทั้งสองครั้ง
ใบขับขี่สากลจะมีอายุ 1 ปี นับจากวันที่ออก ค่าธรรมเนียม 505 บาท
สิ่งที่ต้องเตรียม
1.พาสปอร์ต ทั้งตัวจริง และสำเนา ยังไม่หมดอายุ
2. บัตรประชาชนตัวจริง ยังไม่หมดอายุ
3.ใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล(ชนิด 5 ปี)หรือตลอดชีพ ยังไม่หมดอายุ ฉบับจริง
4.รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ******( รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน ) ถ่ายรูปหน้าตรง ไม่สวมหมวกหรือสวมแว่นตาสีเข้ม, ไม่มีภาพวิวหลังรูป
5.สำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อ- สกุล, ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า
2. เช่ารถกับที่ไหนดี
แนะนำจองผ่านเว็บ Tocoo
จองได้ที่ลิงค์นี้ >>> https://bit.ly/2Ira0z5
มีโค้ดส่วนลดมาฝากกันด้วย
โค้ดคูปอง: BVER15
สำหรับข้อดีของ Tocoo ที่แนะนำให้เลือกใช้เพราะ
3. การเลือกประเภทของรถ
สิ่งที่เราต้องคำนึงตอนเลือกรถเลย คือ จำนวนคนที่เดินทาง จำนวนกระเป๋ากี่ใบ เดินทางกี่วัน และเส้นทางที่ไปไปไหนบ้าง
โดยแต่ละบริษัทเวลาเราเช่ารถ เขาจะบอกว่ารถประเภทไหน นั่งได้กี่คน ใส่กระเป๋าได้ประมาณกี่ใบ
ตอนเช่าให้เลือกแบบนั่งสบายๆ หลวมๆ การเที่ยวของเราจะได้สนุกมากขึ้น ไม่ปวดเมื่อยเมื่อต้องนั่งรถนานๆ และ
4.การซื้อประกันรถ
ตอนเช่ารถ แนะนำว่าควรซื้อประกันรถไว้ด้วยโดยเฉพาะ แบบมีระบบยกเว้นการชดใช้ค่าเสียหายรวมอยู่ด้วย กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายตอนเกิดอุบัติค่อนข้างสูงเลยทีเดียว และสิ่งที่เราต้องรู้คือแม้ว่า เราจะมีประกันรถแบบยกเว้นค่าชดใช้ความเสียหายอยู่แล้วก็ตาม แต่ถ้าเมื่อเกิดอุบัติ ไม่ว่าจะเล็กใหญ่ รอยขีดข่วน หรือจะมีคู่กรณีหรือไม่
สิ่งที่ต้องทำคือ
1. แจ้งตำรวจ ในพื้นที่เกิดเหตุ
2. แจ้งบริษัทประกัน
3. แจ้งบริษัทรถเช่า
ถ้าไม่ทำตาม นี้ แน่นอนว่าต้องเสียค่าปรับ เป็นการเรียกเก็บ เงินค่าเสียหายทางธุรกิจ (NOC) และค่าชดเชยความเสียหาย ไม่มีกรณียกเว้น ตั้งแต่ 70,000 บาท – 150,000 บาท ยกเว้นในกรณีที่ทางบริษัทรถเช่าเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุ
5. บัตร etc / Expressway Pass
บัตร ETC ก็เหมือน Easy pass บ้านเรา ไว้ใช้ตอนขึ้นทางด่วนสะดวกขึ้นเพราะไม่ต้องคอยคำนวณเงิน และหยิบเงินหยอดตู้ทุกครั้ง อีกทั้งประหยัดมากกว่าด้วย
ซึ่งปกติแล้วจะมีเครื่องอ่านบัตรติดตั้งในรถเช่าทุกคันในญี่ปุ่น ตอนรับรถที่สาขาก็เพียงแค่บอกพนักว่าต้องการบัตร ETC
แต่ถ้าหากเป็นกรณีที่เราเดินทางไกลๆ หรือต้องขึ้นทางด่วนเยอะๆ แนะนำว่าให้เราซื้อ Expressway Pass
***ต่อมาเป็น Expressway Pass คล้ายกับพาสรถไฟนั่นแหละ แต่เอามาใช้กับทางด่วนของรถยนต์ เป็นแบบเหมาจ่าย เพียงครั้งเดียวเท่านั้น และสามารถใช้ทางด่วนได้ไม่จำกัด! พาสแบบนี้มีประเภทให้เลือกใช้งานเยอะมากๆ โดยจะแบ่งเป็นตามภูมิภาค อย่างฮอกไกโด ชุบู โทโฮคุ หรือแบบเหมาทั้งประเทศก็มีนะ และยังมีจำนวนวันให้เลือกด้วยว่า ช่วงเวลาที่เราเดินทางเหมาะกับแบบกี่วัน
ดูข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ https://www.jnto.or.th/newsletter/driving/
**เมื่อใช่บัตร ETC หรือพาสต่างๆ ตอนผ่านด่านที่มีไม้กั้น ต้องลดความเร็วไม่เกิน 20 กม ./ 1ชม
6. เติมน้ำมัน
ปั๊มน้ำมันจะมีทั้งแบบพนักงานบริการ และต้องบริการตัวเอง แต่สิ่งที่เราต้องรู้คือ ต้องสอบถามพนักงานให้ชัดเจนว่าน้ำมันที่เราต้องเติมคืออะไร
ซึ่งที่ญี่ปุ่นจะมีน้ำมันมี 3 แบบ น้ำมันมีแบบ Regular สีแดง, High Octane สีเหลือง, Diesel สีเขียว สีจะเหมือนกันหมดทั้งประเทศ
**การคืนรถต้องเติมน้ำมันเต็มถัง บริเวณใกล้กับสถานที่คืนรถเท่านั้น เพราะตอนคืน พนักงานจะขอดูใบเสร็จการเติม ว่าตอนตอนกี่โมง เต็มถึงหรือเปล่า
7. รูปแบบการขับรถ
ที่ญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างคล้ายคลึงกับที่เมืองไทย เพราะลักษณะรถนั้นเป็นพวงมาลัยขวาขับเลนส์ซ้ายเหมือน
โดยมีกฏเกณฑ์เรื่องความเร็วดังต่อไปนี้
*ความเร็วในช่วง 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ทางด่วน
*ความเร็ว 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในการขับรถบนถนนใหญ่ระหว่างเมือง
*ความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเขตเมือง
*ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในถนนเส้นเล็กหรือทางแยกถนนใหญ่
8. กรณีขับรถช่วงฤดูหิมะ
** จำเป็นต้องใช้อย่างหิมะ (Snow Tires) เพื่อความปลอดภัย /
** ตั้งแต่เดือนธันวาคม-สิ้นเดือนมีนาคม รถทุกคันจะถูกติดตั้งด้วยยางหิมะฟรี ในเขตหิมะตกหนัก
** จำเป็นต้องใช้รถ ประเภท 4WD (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) ที่ว่างให้เช่าจำนวนมากในภูมิภาคฮอกไกโดและภูมิภาคโฮคุริคุ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีหิมะตกหนัก
9. ญี่ปุ่นไม่สามารถจอดรถในที่สาธารณะ
หรือ ข้างถนนได้ ต้องจอดในสถานที่ที่ให้จอดเท่านั้น และส่วนใหญ่จะเป็นที่จอดแบบจ่ายเงิน ราคาก็ค่อนข้างสูงที่จอดจะมีหลายแบบ ทั้งในอาคาร และลานกว้าง หรือการจอดแบบอัตโนมัติในลิฟต์ ถ้าจอดแบบแปบๆ ก็ประมาณ 500 เยน แต่ถ้าจอดแบบข้ามคืน จะมีแบ่งเป็นงช่วงกลางวันกลางคืน ขึ้นอยู่กับสถานที หรือแม้กระทั่งโรงแรมที่เรายังก็ยังมีค่าบริการที่จอดรถ 500-2000 เยน
10. ค่าปรับ
ค่าปรับแบบคร่าวๆ ที่ดูแล้วค่อนข้างเกี่ยวกับเรา ก็ประมาณนี้เลยค่ะ ราคาสูงไม่เบา
เกิดอุบัติเหตุ 70,000 -150,000 เยน
จอดในที่ห้ามจอด ปรับ 10,000 -27,000 เยน
เมาแล้วขับ 1,000,000 เยน
ใช้โทรศัพท์ระหว่างขับรถ 9,000 เยน
ขับรถเร็วเกินกำหนด 18,000 – 100,000