เราเป็นคนหนึ่งที่หลงไหลในทะเลหมอกมาก
ทุกปี..นานนับ 10 ปี เราจะเดินทางไปภาคเหนือในช่วงปลายฝนต้นหนาว
เพื่อดูแสงแรกของวัน เพื่อดูทะเลหมอกที่พริ้วไหวไปมา
จนวันหนึ่งมีรูปของใครบางคนผ่านแว๊บเข้ามาในสายตา
และคำยายบอกว่าที่นี้คือ เ ข า ไ ข่ นุ้ ย… จั ง ห วั ด พั ง ง า
มันทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย !!!! คนเราพยายามขวนขวายสิ่งที่อยู่ไกล
แต่ลืมมองหาสิ่งสวยงามที่อยู่รอบตัว ….. และทริปนี้ก็ได้เกิดขึ้นแบบไม่ตั้งใจมากนัก
แต่ดันตกหลุมรักที่นี้เข้าอย่างจัง …..
————————————-
อุปกรณ์ถ่ายภาพ กล้อง Canono 6D และ 55D
เลนส์ Tamron SP 24-70mm F/2.8, Canon EF-S 10-22mm , EF-S 55-250 mm
————————————-
อีกหนึ่งช่องทางสำหรับการแลกเปลี่ยน ทักทายพูดคุย
https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels/
https://www.instagram.com/mylifemytravel/
จุดชมทะเลหมอกเขาไข่นุ้ย ตั้งอยู่ที่ ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
การเดินทางเรา ขอเริ่มการเดินทางจากภูเก็ต เมื่อเข้าสู่จังหวัดพังงา
ให้วิ่งบนถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าไปทางเขาหลัก
เมื่อถึงตำบลทุ่งมะพร้าว จะมีป้ายขนาดใหญ่บอกทาง ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนน 4240
จากนั้นให้ชิดซ้าย ขับผ่าน ” โรงเรียนบ้านฝ่ายทำ ” ประมาณ 1 กิโลเมตร
จะมีซอยเล็กๆ มีป้ายติดไว้ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย
หลังจากนั้นจะเข้าสู่ทางชัน
ซึ่งการเดินทางไปที่นี้ แนะนำควรใช้รถกระบะ โพรวิล
หากเป็นรถเก๋งหมดสิทธิ์นะค่ะ ขึ้นไม่ได้แน่นอน (อย่าลอง สงสารรถ)
เพราะทางบางส่วนชันมาก แทบจะไม่มีพื้นเรียบเลย
หากเราไม่มีรถ ทางชุมชนท่องเที่ยวเขาไข่นุ้ยมีบริการรถ รับ – ส่ง
นี่เป็นลักษณะทางเพียงบางส่วน ที่เราสามารถจอดรถถ่ายได้
เราจะผ่านทางชันเขามาเกือบๆ 3 กิโล จนมาถึงยอดเขาจุดชมวิว
เดินทางมาถึงในช่วงเย็น อย่างที่บอกว่า วันที่เดินทางไปไม่ได้ตั้งใจมากนัก
ไม่หาข้อมูล ไม่เตรียมพร้อม คิดว่าดูเอาข้างหน้าละกัน หากมีที่พักก็พัก ไม่มีก็กลับ
ถือซะว่าไปดูเส้นทางไว้ก่อน …..
ขึ้นไปถึงด้านบนจะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ แต่วันนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่เลย
แต่มีเบอร์โทรไว้ ไม่รู้อะไรที่ดนใจเราไม่ให้ยกโทรศัพท์ขึ้นโทร
อาจะเป็นเพราะ ช่วงเวลานั้น บรรยากาศรอบข้างมันสวย ซะจนไม่อยากละสายตา
เย็นวันนี้เราจะรับคำทักทายจากอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบทะเลอันดามันแน่นอน
วันนี้พระอาทิตย์ลูกกลมโตเลยทีเดียว
แต่เราใช้เวลาอยู่บนนั่นไม่นานนัก พออาทิตย์เริ่มลับ
เราก็เริ่มกลับลงมาด้านล่าง
เช้าอีกวัน เราออกเดินทางตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสาง
ตั้งใจให้ไปถึงยอดเขาตอนตีห้าครึ่ง
ในใจก็อยากถ่ายดาวนะ เพราะดาวเต็มฟ้าเลย
แต่ความสามารถมีน้อย บวกกับฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พลาดไป ณ จุดนี้
แต่ก็มีความสนุกอย่างอื่นมาแทนที่ ระหว่างแสงตะวัน รอทะเลหมอก
อุปกรณ์ง่ายๆ ไฟฉายจากโทรศัพท์เลยค่ะ ปล่อยพลังกันให้เต็มที
ไม่นานนัก เริ่มมีแสงส้มๆ มาทักทาย
และความพริ้วไหวของสายหมอกก็ได้ก่อตัวขึ้น
ช่างนุ่มนวล อ่อนหวาน
พริ้วไหวตามแรงลม
เจอภาพแบบนี้ตกหลุมรักที่นี้เข้าอย่างจัง
ไม่ต้องอดใจรอไปถึงภาคเหนือปีละครั้ง
ขับรถแค่ไม่ถึงชั่วโมง ภาพเหล่านี้ก็จะมาอยู่ตรงหน้า
สายหมอก ดอกไม้ เป็นของคู่กัน
เหมือนฉันที่เกิดมาคู่กับเธอ ฮิ้วววววววว
ในที่สุดก็ออกมาทักทายกันด้วยตัวเอง
แสงสีทองที่สาดส่องลงบนผืนหมอก สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น
ความอ่อนนุ่ม ละมุนละไม
มีเต๊นท์บริการ ราคาหลังละ 300 บาท (มีไฟ หมอแบต หลังคา โต๊ะ ให้ด้วย )
บังกะโล ราคาหลังละ 700 บาท นอนได้ 4 คน ส่วนเกินคิดเพิ่มคนละ 100 บาท (ตอนนี้มีเพียง 1 หลัง ที่เหลืออยู่ระหว่างก่อสร้าง)
———————–
รถรับ-ส่ง
ค่ารถรับส่งราคา 800 บาท นั่งได้ประมาณ 10 คน
———————–
อาหาร
มีอาหารบริการ 2 มื้อ เช้า + เย็น ราคาต่อคน 300 บาท
———————-
ข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 084-3099222
———————————
สุดท้าย และ สุดท้าย
ขอขอบคุณทุกๆ การเดินทางที่สอนให้เราได้เรียนรู้ และรู้สึกรักทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็น
ขอบคุณสำหรับทุกไลค์
ขอบคุณสำหรับทุกแชร์
ขอบคุณสำหรับทุกโหวต
ขอบคุณทุกคนที่แวะเวียนเข้ามา
ขอบคุณพื้นที่การแบ่งปันแห่งนี้
View Comments
ไปช่วงเดือนไหนคะ สวยมากกก
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ