2 วัน 1 คืน สนุก มัน ฮา และฟิน ที่นครนายก – ปราจีนบุรี

เอ้าเร่เข้า !!! รีวิวนี้ ดูจะเป็นเหมือนรีวิวสั้นๆ เพราะเพียงแค่ 2 วัน 1 คืนเท่านั้น

แต่เฮ้ย !!! รู้ป่าวว่า 2 วัน 1 คืน เราสามารถเที่ยวได้ทั้งนครนายก และปราจีนเลยนะ

แถมมีอะไรให้ทำเยอะมาก จนอยากจะขอต่อเวลาเพิ่มอีกสัก 2 วัน

และทริปนี้ เป็นทริปที่ #แฟนพาเที่ยว  นุ้ยและต้น ได้พาเพื่อนๆ ในเพจของเรา  5 คนไปร่วมทริปด้วยกัน 

ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้ เป็นการเจอกันครั้งแรกของหลายๆ คน ความสนุกสนานจะมากขนาดไหน

เราไปตะลุย นครนายก – ปราจีนบุรีกันเลย

 

เราออกเดินทางจากกรุงเทพกันตอน 8 โมงเช้า เพราะเป็นทริปที่ไม่ได้เร่งรีบมาก

นครนายกใกล้แค่เนี๊ยะ … นั่งรถไป ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงปลายทางแรกแล้ว

สายกาแฟ สายชิลตั้งแต่หัววันกันเลยทีเดียว เพราะปลายทางแรกของเราคือ ร้านกาแฟกับต้นไม้

ซึ่งร้านกาแฟร้านนี้จะตั้งอยู่ในหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ  เป็นหมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ตั้งอยู่ที่คลอง 15 นครนายก ตลอดเส้นถนนเกือบ 8 กิโลเมตร มีร้านขายต้นไม้ตลอดเส้น และที่สำคัญราคาถูกมากๆ

ใครซื้อบ้าน ตกแต่งบ้าน แนะนำที่นี้เลยค่ะ

แต่ก่อนจะไปดูไม้ดอกไม่ประดับ ขอไปพักสมองที่ร้านกาแฟก่อนน๊า

 

ร้านกาแฟกับบ้านต้น เป็นร้านเล็กๆ แต่น่ารักมากเลยหล่ะ

 

ลักษณะจะเป็นบ้านไม้เก่าๆ

เสน่ห์ของร้านกาแฟนี้ คือเป็นข้อความต่างๆ ที่ผู้มาเยือนอย่างเราๆ

ได้เขียน และติดไว้ที่นั้น  .. ไว้เป็นความทรงจำ

ด้านหน้าจะติดถนน

ส่วนด้านหลังร้าน ติดคลอง  มานั่งมุมนี้ ชิลอย่างบอกใครเลยหล่ะ


ด้านในจะเป็นแบบนี้

สำหรับการสั่งกาแฟร้านนี้ต้องมาสั่งเองทีเคาเตอร์น๊า

เครื่องดื่มมีทั้งร้อน เย็น และปั่น

พวกเราค่อนข้างใช้เวลาในร้านกาแฟเพลินพอสมควร

หรือเรียกอีกย่างก็คือ รู้สึกว่าพวกเราจะนั่งกันนานพอสมควร

รู้สึกตัวอีกที อากาศเริ่มร้อนแล้วสินะ  แต่ไหนๆ ก็มาถึงหมู่บ้านไม้ดอกทั้งที

จะไม่ไปเดินสำรวจ ช้อปกลับบ้านสักหน่อยก็กะไรอยู่

ไม้ดอกไม้ประดับที่นี้ มีหลากหลายและเยอะมาก

ที่สำคัญที่สุดลเลยคงหนีไม่พ้นเรื่องราคาที่ถูกแสนถูก

 

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

 

 

…ขอเปลี่ยนอารมณ์ กันสักนิด …หลังจากชิล จิบกาแฟ ท่ามกลางต้นไม้ ริมลำคลอง

มาสู่ความตื่นเต้น แบบที่ไม่เคยได้ทำที่ไหนมาก่อน

เพราะช่วงเวลาต่อจากนี้ เราจะไปยิงซ้อมรบบบบบบ

เฮ้ย !!!  ไม่ใช่  เราแค่จะไปซ้อมยิงปืน ฝึกยิงธนู โหนสลิง  แค่นั้นเอง

ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า หรือ รร.จปร นั่นแหละ

เข้ารถเข้าไปในโรงเรียน  จุดแรกที่เราแวะคือ การแวะ ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน

เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ผ่านมานครนายกแล้วต้องแวะสัการะ

พ่อขุนด่าน ท่านเป็นนายด่านเมืองนครนายกสมัยกรุงศรีอยุธยา

วีรกรรมของท่านคือ การต่อต้านเขมรที่แปรพักตร์ เมื่อปี พ.ศ.2130 ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

หลังจากสักการะ ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน

ขอพรกันเต็มที่แล้ว  เดี๋ยวจะพาไปหานายร้อยกันค่ะ ไม่รู้จะมีหล่อๆ บ้างหรือเปล่า

เอ๊ะ !!  ไม่ใช่ๆ จะพาไปพิพิธภัณฑ์ อาคาร รร.จปร  เป็นที่เก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ

นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ทุกวัน ไม่มีค่าใช้จ่าย

นอกจากเรื่องราวความเป็นมาของโรงเรียน  ยังมีข้าวของเครื่องใช้จริงของนักเรียนนายร้อยในอดีตที่หาดูได้ยาก

และเครื่องใช้ส่วนพระองค์ของรัชกาลที่5

อาคาร 100 ปี รร.จปร แห่งนี้ จะมีทั้งหมด 3 ชั้น

ชั้นที่ 1   เป็นห้องบรรยายสรุปกิจกรรมของ รร.จปร. ด้วยระบบมัลติมีเดีย

และเรื่องราวเกี่ยวกับ นักเรียนนายร้อยหญิง รุ่นแรกและรุ่นเดียวของโรงเรียนายร้อย

 

 

ชั้นที่ 2  เป็นห้องที่เก็บรวบรวมอาวุธต่างๆ ไม่ว่าจะปืน มี จรวด และยังเป็นห้องที่แสดงชุดเครื่องแบบ

ของนักเรียนนายร้อยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

ชั้นที่ 3 พระบรมราชานุสาวรีย์ ( เรซิ่น ) พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์ชุด จอมพลทหารบกพร้อมประวัติย่อจัดสร้างขึ้นพร้อมกับอาคารแห่งนี้ โดยให้พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งที่ อ.ศาลายา เป็นผู้จัดทำความสูง 165 ซม. น้ำหนัก 66 กก.

 

 

เวลาต่อจากนี้สินะ ที่จะเป็นการทดสอบว่า พวกเราแม่นกันขนาดไหน

นุ้ยยังไม่ได้แนะนำสมาชิกเพื่อนรวมทริป หรือแฟนเพจของแฟนพาเที่ยวเลย

คนแรกด้านซ้ายนุ้ยเอง  ใครจำไม่ได้เดี๋ยวมีตี

ถัดจากนุ้ยไปเป็นน้องกุ๊กกิ๊ก น้องเล็กสุดของทริป นางน่ารัก และแอบเขินตลอดเวลา

ต่อมาเป็นพี่แอน สาวนางนี้เฮฮา ตลก และมีอาชีพที่น่าอิจฉามากๆ

ถัดจากพี่แอนคือพี่เอ๋  นางฟ้าจากสายการบินแห่งหนึ่ง

ต่อมาคือพี่อี๊ด  สาวบัญชีหัวใจฟุ้งฟิ้ง

แล้วพี่จ๊ะเอ๋ … ทำอะไรหว๊า นู๋ลืมถาม รู้แค่พี่จ๊ะเอ๋ชอบเที่ยวมากๆ เรารู้จักกันก็เพราะเรื่องเที่ยวนี่แหละ

สุดท้าย ท้ายสุด ตุ๊กตา  สาวสวยของทริป น่ารักยิ้มหวาน แต่อย่าเข้าใกล้นางนะ นางยิงโคตรแม่น

 

ใครเคยยิงปืนยกมือขึ้น

สำหรับนุ้ยนะ บอกเลยว่านี่คือครั้งแรก และครั้งแรกที่ได้จับปืนจริง

เราเข้าไปดูด้านในกันต่อดีกว่า

กิจกรรมนี้เหมาะกับการมาลองมาก นอกจากได้ทำอะไรใหม่ๆ แล้ว

ราคายังไม่สูงอีกด้วย  เจอราคานี้ ชอบ สนุก ท้าทาย ไม่แพง

เราจะต้องเลือกไปก่อนว่าเราจะใช้ปืนอะไร

 

 

นุ้ยเลือกตัวนี้ไป  เพื่อนทุกคนก็เลือกเหมือนกัน

นุ้ยว่าตัวนี้มันดูคาสสิคดี

มาถึงสนามจริง ใจนี่เต้นตุบตับ ตึกตัก ไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว

ปืนก็ใช้ว่าจะเบาๆ นะคุณ น้ำหนักเยอะเอาการ

กว่าจะเหนี่ยวไก กว่าจะใส่กระสุนได้ไม่ง่ายเลย

ในสนามจะมีครูฝึก สอนเราแบบตัวต่อตัว

 

ตอนนี้พร้อมมาก

ดีนะที่เป็นภาพนิ่ง ถ้า VDO จะเห็นได้เลยว่ามือสั่น  …. แต่ใจสู้นะ


ซูมดูคะแนนกันชัดๆ ได้เลยค่ะ

ว่าคนไหนยิงแล้วตายแน่   ส่วนของนุ้ย ไม่ตาย แต่สาหัสนะค่ะ

สำหรับกิจกรรมนี้สนุกมาก บอกเลยห้ามพลาด

ความสนุกยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ

ยิงธนู นี่ก็ครั้งแรกอีกเหมือนเดิม

ราคาน่าคบเหมือนเดิม 50 บาท / คน จะได้ลูกธนู คนละ 10 ดอก

 


งานนี้ไม่เน้นเข้าเป้า เน้นท่าสวยล้วนๆ

มาหารูปโปรไฟล์ใหม่กันชัดๆ


กิจกรรมนี้สนุก ชอบๆ ต้องกลับไปอีกแน่ๆ เพราะท่ายังไม่สวย

ถัดมาเป็นการโหนสลิง  หรือเรียกอีกอย่างคือ เลื่อนข้ามน้ำ  ราคา 40 บาท/ คน

ระยะทางไม่ไกลเท่าไหร่  ก่อนขึ้นไม่น่ากลัวหรอก แต่พอไปยืน ณ จุดปล่อยตัวเท่านั้น

ขาสั่นระรัว อยากวิ่งกลับมาก   แต่จุดที่พีค และเสียวที่สุด ก็ตอนปล่อยตัวนั่นแหละ ที่เหลือชิล ชูนิ้ว ท่าสวยได้เลย

 

นุ้ยผ่านไปทางนครนายกบ่อยพอสมควรเลยนะ แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า มีสถานที่แบบนี้

มีกิจกรรมเจ๋งๆ ราคาเจ๋งๆ แบบนี้ ให้เราได้เล่น

บอกเลยนครนายกไม่ได้มีแต่น้ำตกนะยูว์  ต้องไป … ย้ำว่าต้องไป  “ลอง”

มื้อเที่ยงของเรา  เอ๊ะ ! หรือมื้อบ่ายน๊า  เพราะสนุกกันเพลิน จนบ่ายโมงกว่าเลยทีเดียว

วันนี้เราไปทานอาหารเที่ยงกันที่ เอเดนวิลล่า ออแกนิค รีสอร์ท

ที่นี้เน้นให้บริการห้องพัก และอาหารออแกนิค ถ้าใครอยากทานอาหารที่นี้ต้องโทรสั่งจองล่วงหน้านะค่ะ

สอบถามเพิ่มเติมกันได้ที่นี่นะค่ะ https://www.facebook.com/villaaden

โทร 037 385 262


จานแรก สลัดกุ้งทอด

ผักออแกนิคสด ๆ  มาพร้อมกุ้งทอดตัวใหญ่ เด็ดที่น้ำสลัด รสดีมากๆ

ซีฟู๊ดลวกจิ้ม  ความแปลกคือนครนายกไม่น่าจะมีส่วนไหนติดทะเล

แต่ที่นี้อาหารทะเลสดมากๆ

ปีกไก่ทอด

เมนูที่ห้ามพลาดคือ ขนมจีนน้ำยาปลาทู อร่อยสุด ๆ จัดเสิร์ฟ มาได้สวยน่าทานมากๆ เลย

 

 

 

 

 

หนังท้องตึง  …แต่หนังตายังหย่อนไม่ได้

เที่ยวทั้งที ต้องเอาให้สุด  เพราะเรากำลังจะไปต่อกันที่ RATV. นครนายก

วันนี้ทั้งวัน  นุ้ยเจอแต่สิ่งที่ยังไม่เคยทำมาก่อนทั้งนั้น รวมถึงการขับ ATV ด้วย

บอกเลยว่านี่ก็ครั้งแรกอีกแล้ว

สำหรับราคา และข้อมูลถามได้ที่นี่เลย >> http://goo.gl/cDYSR6

โทร  091 331 3409

ตอนนี้พร้อมมาก  แนะนำให้ใส่ขาสั้นนะค่ะ เพราะมีเปียกและเลอะด้วย

 

เรามากันเป็นขบวน   ช่วงแรก เราจะต้องผ่านถนนก่อนจะเข้าสู่เส้นทางชีวิตจริง

ทุกคนบอกว่ามันง่าย

แต่สำหรับนุ้ยทำไมมันยากจัง

แค่ออกตัวเท่านั้น ของนุ้ย ผิดทางเลยค่ะ   หัวรถไม่ไปตามถนน

พอกลับเข้าทางเหมือนเดิม เอาเข้าไป   นุ้ยชนต้นไม้อีกรอบ  แต่ไม่อันตราย เพราะชนเบาๆ

แต่เมื่อความกลัวของเราหายไป  ต่อจากนี้มีแต่ความสนุกล้วนๆ เลยค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

 

ยิ่งเจอช่วงไหนยากๆ ลุยน้ำ ขึ้นเนิน ลงห้วยนะ

ลุ้นมาก ใจนี่เต้นยิ่งกว่าเจอคนที่แอบชอบอีก

 

จุดนี้เป็นจุดที่ยากที่สุด เพราะต้องลงมาจากที่สูง

และลงไปในน้ำ ซึ่งทางมันค่อนข้างแคบ ลุ้นกันตัวโก่่งเลยทีเดียว

 

ดูสีหน้าของน้องกุ๊กกิ๊กซะก่อน ว่าลุ้นหรือไม่ลุ้น

นี่ก็ลุ้น

อย่าเบรคครับอย่าเบรค

 

หน้าแบบนี้ บอกให้รู้ว่าโล่ง

เฮ้อ !! ตรูรอดแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เปียกจริง เลอะริง โคลนจริง  และสนุกจริง

หลังจากที่พวกเราลุยกิจกรรมมันส์ ๆ  กันทั้งวัน มันเป็นอะไรที่สนุกมาก

มันคือสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน  มันท้าทาย   มันเป็นอารมณ์ที่เรารู้สึกว่า การออกมาเที่ยวมันดีแบบนี้นี่เอง

มาเปิดโลก เปิดประสบการณ์ มาเจอเพื่อน มาเก็บเรื่องราวต่างๆ ไปบอกต่อคนอื่น

ล้างเนื้อล้างตัว ทำความสะอาดกันเรียบร้อย

พวกเราปรับโหมดอารมณ์กันแทบไม่ทัน เพราะปิดท้ายวันนี้กันด้วยกันช้อป

ไม่ใช้สิ  ปิดท้ายกันด้วยการไปโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

เริ่มกันที่ตึกสีเหลืองสวยๆ นี่เลย ลักษณะคล้ายๆ บ้านแนวชิโน ที่ภูเก็ตเลย

ตึกนี้ชื่อว่า ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สีเหลืองสไตล์ย้อยนยุคสถาน

ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมยุโรปแบบบาโร้ค (Barogue)เป็นตึกสองชั้น

ด้านในสวยมาก

 

 

 

 

 

 

 

มีร้านขายยาแผนสมุนไพร

กลิ่นอบอวลไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด

มาถึงที่นี้ทั้งที ก็เป็นช่วงเวลาที่พวกเราถนัดกันมาก

นั่นคือการช้อป …แม้ว่าแต่ละคนจะเป็นคนรุ่นใหม่

แต่พวกเราก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่มาจากธรรมชาติ ดีที่สุด

เลือกซื้อกันเพลินเลย ทีเดียว

รู้กันเปล่าว่าในโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร  มีสปาด้วยนะเออ และเป็นสปาที่ได้มาตราฐาน

มีทั้งนวดไทย นวดน้ำมัน สครับ มีครบหมดเลยน๊า

และยังมีให้บริการอาหาร ที่เป็นอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย


 

วันนี้เวลาผ่านไปเร็วมาก ผ่านไปเร็วแบบงงๆ แบบไม่รู้ตัว

มัวแต่สนุก มัวแต่ตื่นเต้น มัวแต่ช้อป

กลับมาถึงที่พักซะมืดเลย  …วันนี้เราพักกันที่กบินทร์บุรีค่ะ

ชื่อโรงแรม  Senerity เป็นโรงแรมที่พึ่งเปิดใหม่ได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

ที่เด็ดของที่นี้ เขาบอกว่ามีออนเซนด้วยนะ ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น

มาเช็คอินกันให้เรียบร้อยก่อน

บริเวณล็อบบี้ ค่อนข้างกว้าง เพดานสูง

ตกแต่งแบบเรียบๆ แต่กลับดูหรูหราเลยทีเดียว

ผ่านล็อบบี้เข้ามาเพื่อที่จะไปห้องพัก มองผ่านจุดนี้เข้าไป โอ้ววว  มันสวยมาก

ห้องพักถูกแบ่งออกเป็น 2 ตึกขนาดกัน จะมีทั้งหมด 3 แบบ

EXECUTIVE POOL VIEW DELUXE และ STANDARD  และจะแบ่งเป็นวิวของแต่ละห้อง

ว่าเป็นวิวสวน หรือวิวสระว่ายน้ำ

สำหรับห้องที่นุ้ยพักวันนี้คือห้อง  EXECUTIVE POOL VIEW

เป็นห้องแบบที่ใหญ่ที่สุดของที่นี้ ราคาคืนละประมาณ 3,600 บาท เท่านั้นเอง

ห้องกว้างเว่อวังมาก ใหม่เอี่ยมอ๋อง ระเบียงนี่กว้างสุด ๆ

ในห้องมีมุมครัวเล็กๆ ให้ด้วยน๊า

จะว่าไปก็ไม่เล็กหรอก เพราะมีอุปกรณ์ครบเลยทีเดียว เตาแก๊ส เตาอบ มีด หม้อ ช้อน จาน

ห้องน้ำก็กว้างมากๆ เกือบครึ่งหนึ่งของห้องนอนะเลยค่ะ มีอ่างให้นอนแช่กันฟินๆ ด้วย

มีการแบ่งโซนเปียกแห้งได้ดี


ได้เวลาของมื้อค่ำ

มีห้อง วีไอพีด้วยนะ สวยมาก ไม่ต้องกลัวเมื่อยนะ เพราะห้อยขาได้

ห้องนี้ มีคาราโอเกะด้วย จำได้ว่า ถ้ามาเกิน 10 คน รีเควชห้องนี้ได้ฟรี ถ้ามาไม่ครบชาร์จเพิ่ม 1000 บาท

อาหารมื้อนี้จัดหนักแบบลืมเรื่องน้ำหนักไว้ข้างหลังเลย

เมนูแรก ปลาทอดอะไรสักอย่าง เสิร์ฟมาพร้อมยำมะม่วง อร่อยสุดๆ

จานนี้กุ้งทอดซอสมะขาม

พิซซ่าก็มีนะเออ เป็นมื้อที่มีความหลากหลาย ใครชอบแบบไหนสั่งแบบนั้น

จานนี้เด็ดมากจำชื่อเต็มๆ ไม่ได้

แต่เป็นซี่โครงหมูบาบีคิว อร่อยมาก เนื้อนุ่มละลายในปากเลย

 

วันที่สอง …ตื่นกันตั้งแต่เช้า รีบลงมาทานอาหารเช้า

เดี๋ยวจะขอแอบไปแช่ออนเซนสักแปบ ก่อนออกเดินทางต่อ

ห้องอาหารเป็นอาหารเดียวกับที่เราทานมื้อค่ำ  ห้องสวยทั้งช่วงกลางวัน และกลางคืน

อาหารเช้าเป็นแบบบัพเฟ่ต์ มีให้เลือกพอสมควรเลย


 

สระว่ายน้ำถือว่าใหญ่เลยทีเดียว นอกจากสระว่ายน้ำที่นี่ยังมีห้องฟิตเนส ห้องโยคะด้วยนะ สปาเขาก็มี

 

แต่จุดประสงค์หลักของเราคือออนเซน

จะแบ่งชายแห่ง ซึ่ง ออนเซนของที่นี้ จะต้องไม่นุ่งผ้าลงแช่นะคะ

แต่ถ้าหากเขินละก็ ที่นี้จะมีเกาะอก และกางเกงใน ไว้ให้ชิ้นละ 10 บาท

บริเวณนี้จะเป็น ส่วนชำระล้างร่างกาย ก่อนลง

บ่อออนเซนจะมี 2 บ่อ

บ่อนี้น้ำจะอุณหภูมิสูงกว่า

 

 

 

 

 

 

 

และยังมีชุดยูกาตะ (ใช่หรือเปล่า ) ให้เราได้เอามาใส่ถ่ายรูปกันด้วยค่ะ

ถ่ายรูปกันเพลินเลย

เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม ปลายทางของวันนี้มันสุดติ่งเลยจะบอกให้

เพราะเราจะไปล่องแก่งกันที่ แก่งหินเพิง   สำหรับการล่องแก่ง อาจจะไม่ใช้ครั้งแรก

แต่ครั้งแรกสำหรับที่นี้ เราเลือกใช้บริการของแก่งหินเพิงรีสอร์ท ราคา 3500 บาท นั่งได้ประมาณ 8 คน

สอบถามกันได้ที่ 089-8288127 / 087-8200001

เดินทางมาถึงปุ๊บ รับชุด หมวก อุปกรณ์ให้พร้อม แล้วขึ้นรถต่อไปด้านในกันเลย

ตอนแรกไอ้เราก็คิดว่า รถจะไปส่ง ณ จุดที่ลงแพยางเลย

แต่ปรากฎว่ายืนท้ายกระบะมาได้นิดเดียว ถึงจุดที่ต้องลงเดิน

 

ในใจก็คิดว่า …  100 เมตร เดี๋ยวก็ถึง

หน้าตาถึงได้เริงร่ากันขนาดนี้

ยังไม่รู้ชะตากรรมว่า … ระยะทางที่ต้องเดินไปลงแพยางไกลมาก

แต่มันก็สนุกนะเออ


 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ชมนกชมไม้กันไปตลอดทาง สะพานไม้หวาดเสียวก็มี

ธารน้ำไหลก็มี เอาซี้  …มีทุกรสจริงๆ

และในที่สุดเราก็มาถึงค่ะ  ณ จุดนี้  อยากให้ทุกคนมาเห็นของจริง มาเห็นภาพเหมือนที่นุ้ยเห็น

มันเหมือนสวรรค์ มันสวยมาก สวยมากจริง ๆ มีกลุ่มผีเสื้อด้วยนะ

และความสนุกความท้าทายก็ได้เริ่มขึ้น

น้ำจะแรงเป็นช่วง ๆ จะมีจุดสนุกๆ ตามจุดแก่งต่างๆ

ให้ได้กรี๊สกันแบบสุดแสง

และจุดที่สนุกที่สุด ก็จุดที่พวกเราโดนปล่อยให้ลงในน้ำนี่แหละ

ไม่ต้องสงสัย  … ว่าแค่ลงน้ำมันสนุกยังไง

ความสนุกมันอยู่ที่ … เราต้องนอนสไลด์ตัวเองไปตามน้ำ

ประมาณเล่นสไลด์เดอร์ยังไงยังงั้นเลยนะแก

กลัวก็กลัว ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น แต่มันไม่ลองไม่ได้ มันเป็นจุดที่พีค และกรี๊ดดังมาก

เพราะน้ำพัด และพาตัวเราไปแรงและเร็วมาก  แอบกินน้ำไปเกือบอิ่มเลยทีเดียว

แต่บอกเลยว่า ถ้ากลับไปเล่นจุดนี้อีก

ตอนกลับมาถึงปลายถึง แทบจะคลายขึ้นฝั่งกันเลย

เพราะทั้งเหนื่อยและสนุก

วันนี้พวกเราได้เป็นผู้พิชิตแก่งหินเพิงแล้ว

ออกจากแก่งหินเพิง ไปกินอาหารเที่ยงกันระหว่างทาง ก่อนกลับเข้ากรุงเทพ

เราแวะร้านคุณลำไย เป็นร้านเล็กๆ นะ แต่อาหารเด็ดมาก

ถ้าจำไม่ผิดชื่อว่า น้ำพริกแสร้งว่า

จะคล้ายน้ำพริกกะปิกุ้งสด

ไข่เจียวหมูสับ นาทีนี้ ไข่เจียวก็อร่อยค๊า เพราะหิวมาก

ผัดผักกระเฉด

 

ห่อหมกมะพร้าวอ่อนซีฟู๊ด อร่อยหรือไม่ ไม่รู้

รู้แต่เกลี้ยง เหลือไว้แค่คราบน้ำแกง

ไก่ทอดเกลือ

ต้มยำรสเด็ดเลยทีเดียว

สำหรับร้านนี้แม้จะเป็นร้านเล็กๆ ข้างทาง แต่อร่อยมากบอกเลย

ลองแวะทานกันได้

ก่อนกลับ เราแวะซื้อของฝากกันที่ ร้านประชารัฐ สุขใจ

เป็นร้านที่ตั้งอยู่ในปั๊ม ปตท .  ทั่วไทยเลย

เป็นร้านที่รวบรวมของฝาก ของเด่นของดี ในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เราได้ซื้อเป็นของฝาก ติดไม้ติดมือกลับบ้าน


คุ๊กกี้อันนี้อร่อย นุ้ยซื้อกลับมา กินเกลี้ยงเลย ราคาไม่แพงด้วย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ยังๆ ยังช้อปกันไม่พอใจ เราไปแวะที่งานส้มโอหวานประจำปี ที่อำเภอศรีมโหสถ  เพราะรู้ว่า ส้มโอของที่นี่ร่อยมาก

ต้องแวะๆ สักหน่อย

 

ราคาไม่แพง แต่อร่อยมาก พอได้ลองชิมเท่านั้นซื้อกันหลายลูกเลยทีเดียว

เอากลับไปฝากที่บ้าน  โดนดุด้วยว่าทำไมซื้อกลับมาน้อยจัง


นอกจากส้มโอในงานยังมีสินค้าโอท็อป ของดีเมืองปราจีนอีกเพียบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

2 วัน 1 คืน ผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก 

ทริปจบลง แต่ความสัมพันธ์ยังไม่จบ 

เป็นทริปที่สนุกสนานมากที่สุดอีกทริปหนึ่ง  

ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ และได้มิตรภาพดีๆ เพิ่มขึ้น 

สำหรับทริปนี้ ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ผู้ร่วมทริปทุกคนมากๆ ที่ช่วยเติมเต็มให้ทริปนี้เป็นทริปที่สนุกที่สุด 

ขอบคุณ ททท.นครนายก สำหรับการสนับสนุน  และการดูแลดีๆ สำหรับการชวนแฟนเพจเที่ยวในครั้งนี้ 

 

 

ขอบคุณเพื่อนๆ สำหรับการติดตามกันนะค่ะ 

ทักทายกันได้ที่ช่องทางเล่านี้

Facebook : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels/

Instagram : https://www.instagram.com/mylifemytravel/

Website : http://www.mylifemytravels.com/

YouTube : https://goo.gl/Gync7Y

My Life My Travel