สูดไอดินกลิ่นหมอก.. ภูทับเบิก..ในวันที่ต้องการแรงบันดาลใจ
.
.
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ในขณะที่เราสองคนต่างวุ่นวายอยู่กับงาน
ที่ทำยังไงก็ไม่เสร็จสักที ..งานเก่าไม่เสร็จ งานใหม่ก็ต้องเคลียร์
ความรู้สึกในตอนนั้น เห้ย ! ทำไมชีวิตมีแต่งานๆ ขอหยุดสักประเดี๋ยว เดียวได้มั๊ย
—– ^ _ ^—-
ทุกอย่างมักมีจุดเริ่มต้น …มันขึ้นอยู่กับว่า
เรารู้หรือไม่ … ว่ามันเริ่มจากอะไร
และนี่คือจุดเริ่มต้น ของทริปนี้
..
นุ้ย : เตงเดือนหน้าเราพอมีเวลาว่าง ไปเที่ยวกันมั๊ย
ต้น : เค้ารู้สึกเหนื่อยๆ เบื่อๆ อยากอยู่บ้านมากกว่า
นุ้ย : แต่เค้าอยากไป >> เป็นเพียงเสียงแผ่วเบาปนเศร้า ที่หลุดออกมาจากปาก
จริงๆ นุ้ยไม่ใช่คนดื้อ และในขณะเดียวกันต้นก็ไม่ใช่คนที่จะขัดใจนุ้ย
แต่ ณ ตอนนั้นต่างคนต่างเหนื่อย ความรู้สึกเดียวคือเราอยากพักเพื่อที่จะชาร์จแบตให้ตัวเอง
ต้องการแรงบันดาลใจในการทำงาน ในการออกเดินทางต่อไป
…. และในที่สุด ทริปนี้ก็เกิดขึ้น แบบไม่ได้ตั้งใจมากนักหรอก…..
แต่มันกลับทำให้รู้สึก… ชีวิต กลับมามีชีวา อีกครั้ง
ภู ทั บ เ บิ ก
เมื่อพูดถึงภูทับเบิก
เป็นสถานที่ ที่เกือบจะลืมเลือนไปจากความรู้สึก
ถ้าจะให้นับคงเกือบ 10 ปีแล้วที่เราสองคนเคยไป
เราจำได้แค่เพียงว่า ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์
เป็นยอดเขาที่เต็มไปด้วยต้นกะหล่ำปลี
มันคือความตื่นเต้นของเด็กน้อยสมัยนั่น ที่ได้เห็นลูกกะหล่ำปลีใหญ่กว่าหัวตัวเอง
นอกจากนั่นเราก็จำอะไรแทบจะไม่ได้เลย
.
ระยะทางจากกรุงเทพ ประมาณ 4 ร้อยกว่ากิโล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง
เก็บกระเป๋าให้พร้อม เตรียมของให้ครบ
จะกล้องถ่ายรูป จะหมวก จะพร็อพต่างๆ หรือแม้แต่พวกเสื้อผ้า ก็ต้องพร้อมนะ
จะเลือกแค่สวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องสวยมีประโยชน์ และพกพาสะดวก
ทริปนี้ขึ้นเขา เจอทั้งแดด ทั้งหมอก ทั้งร้อน ทั้งหนาว
ก็ต้องเลือกเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์เราได้ทุกสถานการณ์แล้วก็ทำให้เราเที่ยวได้แบบไม่มีติดขัด
ก่อนเดินทางแวะไปช้อปที่ยูนิโคล่มา เค้ามีไอเทมสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ
สำหรับทริปนี้นุ้ยเลือก Pocketable parka หรือเสื้อพาร์กาน้ำหนักเบาที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก
เสื้อขนเป็ด Ultra light down แบบคอมแพคพับเก็บได้เล็กจิ๋ว ให้ความอบอุ่นได้อีก
ส่วนวันไหนแดดจัดๆ เราก็มีเสื้อคาร์ดิแกน UV Cut ที่กันแดดได้ดี
และสุดท้ายคือกางเกงตัวเก่ง Ultra stretch jeans ที่ยืดหยุ่นมากเป็นพิเศษ
สำหรับทริปนี้ที่ต้องมีแอคทิวิตี้เยอะๆที่ต้องการความคล่องตัวสูง
..
วันนี้นุ้ยขับรถไปทางสระบุรี .. ดูเป็นเส้นทางที่ใกล้ที่สุดแล้ว
ระหว่างวันนี้ทุกอย่างดูสวยไปหมด … ทำไมความรู้สึกมันตื่นเต้นแบบนี้
คล้ายกับว่านี่คือการออกไปเที่ยวครั้งแรกในชีวิต
หรืออาจะเป็น..ถนนมันสวยของมันเป็นปกติอยู่แล้ว
ระหว่างทางเต็มด้วยนาข้าวเขียวขจี ดูยังไงก็สบายตา
จนมาสะดุดกับร้านข้างทางร้านหนึ่ง … จนเราต้องไปยูเทิร์นรถกลับมา
ร้านนี้ชื่อว่าร้านไผ่ซ่อนข้าว …
ตั้งอยู่ที่ ตำบล ซับสมอทอด อำเภอ บึงสามพัน เพชรบูรณ์
ลักษณะร้านจะเป็นประมาณนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นโซนร้านอาหาร จัดวางโต๊ะเก้าอี้ไว้อย่างดี
และอีกโซนคือโซนสะพานไม้ไผ่ที่ยื่นออกไปในทุ่งนา และเป็นจุดที่ทำให้เราเลี้ยวรถกลับมาถ่ายรูป
มุมนี้ก็นั่งชิลล์สบาย
เห็นเดินเริงร่าแบบนี้ ใช่ว่าแดดจะไม่แรง อากาศจะไม่ร้อนนะคะ
เที่ยวทั้งทีจะเราต้องเตรียมพร้อม เพราะว่ากลัวผิวจะเสีย
วันนี้นุ้ยเลือกใส่ เสื้อคาร์ดิแกนยูวีคัทของ Uniqlo ที่ป้องกันแสง UV ได้ถึง 90 %
ส่วนด้านใน นุ้ยและต้นเลือกใส่เป็นเสื้อยืด AIRism
บอกเลยว่าเสื้อมันนุ่มลื่น ใส่สบายมากๆ ถึงแดดจะร้อนอบอ้าวตลอดวัน
แต่เราสองคนก็ไม่รู้สึกร้อนและอึดอัดเลย เพราะเสื้อตัวในมีความเบาบางมากๆ
แถมยังช่วยระบายอากาศได้เป็นอย่างดีถึงเหงื่อออกก็แห้งไว ที่สำคัญไม่มีกลิ่นเหงื่อด้วย
ส่วนกางเกงของเราทั้งคู่ เป็นกางเกงยีนส์ Ultra stretch jeans ที่มีคุณสมบัติยืดพิเศษ
เนื้อผ้ายืดหยุ่นเคลื่อนไหวสะดวก ไม่อึดอัดเหมือนใส่ยีนส์ปกติ
ใครที่ต้องเดินเยอะหรือทำกิจกรรมที่เหงื่อออกได้ง่ายต้องมีสองสิ่งนี้ติดกระเป๋าเอาไว้เลย
ถ่ายรูปเล่นเพลินมาก …
กลับมาถึงโต๊ะ อาหารที่สั่งไว้มาวางพอดี ร้านนี้
อาหารที่สั่งวันนี้มีตำถั่วหมูกรอกบ นัวๆ หน่อย
ทอดไม้ไผ่ซ่อนข้าว และปีกไก่ทอดน้ำปลา
กินอิ่มแล้วขึ้นรถมาก็หลับต่อเลยจ้า
เห้ย !!! ไม่ใช่แล้ว มาเที่ยวใครจะหลับลง
ทางขึ้นไปภูทับเบิก ทำให้เราตื่นเต้น
เรายิ้มออกมาแบบที่ไม่ได้ยิ้มมานาน … เราว่ารอยยิ้มของความสุข
มันมักเกิดขึ้นเอง …. เมื่อความสุขเดินทางมาถึงจริง ๆ
การขับรถแบบเปิดกระจก ปิดแอร์ ยื่นใบหน้าออกไปรับลมหนาว
มันทำเอาเราหน้าชา ปากชาอยู่เหมือนกัน …. แต่กลับแปลกที่เราสามารถนั่งแบบนั้นได้ตลอดทาง
เป็นครั้งแรกที่เราเข้าใจความรู้สึกหมาน้อย ที่ยื่นหน้าออกไปนอกกระจกตอนเจ้านายพาไปเที่ยว
เส้นทางวันนี้หมอกลงหนาเหลือเกิน
จนในที่สุดเรามาถึงวิสาหกิจชุมชนภูทับเบิก
ครั้งนี้เรานอนเต็นท์กันค่ะ ซึ่งเป็นเต็นท์ของวิสาหกิจชุมชนนี่แหละ
จริงๆ ตอนนี้บนยอดเขาภูทับเบิกแห่งนี้ มีที่พักเยอะมาก มากจนไม่รู้จะนอนที่ไหน
มากจนต้นกะหล่ำปลี ที่เราเคยเห็น เมื่อเกือบสิบปีก่อนแทบจะไม่มี
นี่คือบริเวณกางเต็นท์ของวิสาหกิจชุมชน
สำหรับคนที่นำเต็นท์มาเอง จะมีค่าบริการสถานที่ คนละ 50 บาท
แต่นุ้ยกับต้น เราไม่ได้นำเต็นท์มาเองก็ใช้บริการเต็นท์ของที่นี่ค่ะ ราคา 500 บาทต่อเต็นท์ 1 หลัง
และค่ามัดจำอีก 500 บาท
เต็นท์ขนาดใหญ่พอควร นอนได้ถึง 4 คนนะ เพราะเขาให้เครื่องนอนมา 4 ชุด
แต่ถ้าฝนตก ลมแรง เต็นท์ ละ 2 คน น่าจะกำลังดี เพราะถ้าเรานอนเบียดขอบเต็นท์มาก เปียกแน่นอน
เราขึ้นมาถึงบนยอดภู กันตอน 5 โมงกว่า แดดของวันนี้ยังคงแรง แต่อากาศกลับเย็นสบาย
.
ถึงแม้วันนี้อากาศจะดี มีแดดอยู่บ้าง แต่ก็ค่อนข้างเย็นแถมต้องเดินขึ้นเขาอีกด้วย
ดีที่กางเกง Ultra stretch jeans ตัวนี้ยืดได้เยอะ เลยไม่เป็นปัญหาเวลาต้องก้าวยาวๆ
แล้วนุ้ยก็โชคดีมากที่พกเสื้อพาร์กาตัวนี้มาให้ต้นใส่ วันนี้ต้นเลยดูหล่อเท่กว่าทุกวัน ดูเป็นหนุ่มสปอร์ตๆ
ข้อดีของเสื้อตัวนี้คือพกพาง่าย พับแล้วเหลือตัวนิดเดียวเอง น้ำหนักเบามาก ไม่ค่อยเปลืองเนื้อที่กระเป๋า
แล้วยังป้องกันละอองน้ำได้ดีทีเดียว เวลาโดนน้ำค้างจะได้ไม่เป็นหวัดนะ
อากาศแบบนี้
มากับแฟน ….ก็จะฟีลแบบนี้
นุ้ยกับต้น เคยได้ยินมาบ้างว่าเสน่ห์ของภูทับเบิกลดลง
เพราะมีสิ่งก่อสร้างเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ยังไง อากาศ ต้นไม้ สายหมอก ของภูทับเบิกให้คงทำให้เราสดชื่นและยิ้มได้
ความเป็นธรรมชาติของภูทับเบิก … บำบัดความเครียดของเราได้
ทำให้เรารู้สึกว้าว กับการออกเดินทางอีกครั้ง
ค่ำคืนนั่งดูดาว …
แต่คืนนี้ไม่มีดาว เพราะดูจากสภาพอากาศแล้วฝนตกหนักชัวร์ๆ
ก่อนฝนจะตก เราสองคนไม่พลาดที่จะฟินกับหมูกระทะหน้าเต็นท์
ชุดละ 300 บาท มัดจำอีก 200 บาท ฟินยาวไปคืนนี้ก่อนฝนตก
ตื่นเช้ามาพร้อมกับสายฝนที่ยังคงโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง
มันก็จะแฉะๆ เปียกๆ หน่อย แต่ชุ่มฉ่ำดีนะ
อากาศแบบนี้ทำให้เรารู้ตัวในทันทีว่า … เช้านี้เราจะไม่เห็นทะเลหมอกแน่นอน
แต่ก็มีหมอกลอยๆ โอบกอดเราไว้ .. เพราะเรายืนอยู่ท่ามกลางสายหมอก
แต่เราก็อดไม่ได้ที่จะออกไปเดินเล่นทั้งที่ฝนยังคงตก
และเราก็ได้พระเอก Ultra Light Down ช่วยไว้อีกครั้ง
เพราะให้ความอบอุ่นได้ดีมาก และนุ่มสุดๆ ใส่นอนตั้งแต่ตอนกลางคืน ยันตอนเช้า
ก่อนมาเราไม่คิดว่าบนนี้จะหนาวได้ขนาดนี้ แต่ด้วยขนาดพับเก็บแล้วเล็ก น้ำหนักก็เบา
หยิบโยนใส่กระเป๋ามาแบบเผื่อ ๆ แต่ได้ใช้งานจริงซะงั้น
และนุ้ยพึ่งรู้ว่า Ultra Light Down
ทีนี้ก็เดินเล่นได้ฟินๆยามเช้าแบบไม่ต้องกลัวน้ำค้างจะเกาะเพราะยังไงด้านในเราก็ไม่เปียกแน่นอน
สุดท้าย เขาว่ากันว่ามาม่าจะอร่อยสุด ก็ตอนเจออากาศแบบนี้นี่แหละ
สายๆ หน่อยไปหากาแฟจิบเพิ่มพลังคาเฟอีนเข้าร่างกายสักนิด
นอกจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่จะทำให้อากาศแบบนี้ฟินขึ้น
ก็มีเจ้านี่แหละ ที่ทำให้นุ้ยฟิน ….. กลิ่นหอมๆ รสชาติหวาน ความอุ่นจากมันเผา คือดีต่อใจ
ฟินเบอร์ไหน ดูได้จากใบหน้า
เราเดินเล่น นั่งเล่น ซึมซับกับบรรยากาศตรงหน้าจนหนำใจ
สถานที่แบบนี้ มันทำให้เรามีเวลาอยู่กับตัวเองมาขึ้น
นุ้ย : เหนื่อยมั๊ย
ต้น : หายเหนื่อยแล้วล่ะ
**มันเป็นคำถามที่เรารู้กันว่า ไม่ได้ถามว่ามาเที่ยวแบบนี้เหนื่อยมั๊ย
แต่เป็นคำถามที่สืบเนื่องก่อนเดินทางมาที่นี่** คนรักกัน ไม่ต้องพูดเยอะก็เข้าใจ
ความเหนื่อยล้าจากงาน ความเครียดๆ หลายๆ อย่าง มันหายวับไปกับสายหมอก
และเราหอบเอาความสุข และแรงบันดาลใจกลับไปทำงานต่อ
ขากลับ บริเวณทางขึ้นวิสาหกิจชุมชน มีชาวเขาตั้งแผงขายพืชผักผลไม้เยอะมาก
สดๆ น่ากินทั้งนั้น ราคาก็ไม่แพงด้วย ชอบๆ ช้อปก่อนกลับ
แม้จะเป็นในตอนเที่ยง หมอกยังคงหนา เพื่อส่งลาพวกเรา
หลายครั้งที่เราเรียนรู้ได้ว่า … ธรรมชาติบำบัดความเครียด และความเหนื่อยได้ดีเหลือเกิน
มันอาจจะดู่เว่อร์ๆ ว่ามาภูทับเบิกแค่นี้ มันจะดีขนาดนั้นเลยเหรอ
จริงๆ นุ้ยว่าที่ไหนก็ได้แหละ แต่สำหรับนุ้ยกับต้น
ขอแค่ที่ที่เหมือนเราหลุดมาอยู่อีกโลก จากที่เราอยู่ปัจจุบัน
เป็นที่ที่ทำให้เรามีความสุขได้ นุ้ยชอบภูเขา
ชอบต้นไม้ ชอบสายหมอก ชอบอากาศหนาวๆ ชอบชีวิตง่ายๆ
.
.
อ๋อ ! ออกทริปครั้งหน้า … เพื่อนๆ อย่าลืมคว้า item จาก Uniqlo ติดกระเป๋าไป
เพราะน้ำหนักมันเบามาก เก็บง่าย ไม่เปลืองเนื้อที่ในกระเป๋า
เวลาไปทริปแล้วต้องเจอสภาพอากาศที่หลากหลายทั้งแดด ลม ฝนปรอย
จะได้เที่ยวได้อย่างเต็มที่ไม่เสียอรรถรสในการเดินทาง
.
.
ติดตามเรา
Fanpage : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels
WebSite : www.mylifemytravels.com
Youtube : https://goo.gl/0bnw9a
Instagram: https://goo.gl/G7qsVC
สนใจติดต่องานได้ที่ mylifemytravels@gmail.com
หรือ โทร. 094-5929142
#แฟนพาเที่ยว #mylifemytravel #NuiKaTon #Coupletravelers