ศรีพันวา … ปลายทางแห่งฝัน กับที่พักโซนใหม่ The Habita
ความสุขของแต่ละคนมีความต่าง
ความชอบของแต่ละคนแตกต่างกัน
เรื่องความฝันก็เช่นกัน …… ที่เราแต่ละคนต่างฝันใฝ่
…… ความสุขของนุ้ยคือการเดินทางไปเยือนที่ๆต่าง…….
ไม่ว่าที่แห่งนั้นจะสะดวก สบาย จะหรูหรา จะเรียบง่าย หรือจะลำบาก
ล้วนแล้วแต่เป็นความจำที่งดงาม .. เมื่อเราเราคิดถึงมัน
และหากพูดความฝัน …. มีมากมายเหลือเกิน
ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องการเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องเที่ยว
แต่ตอนนี้มีหนึ่งฝัน … ที่นุ้ยทำให้มันเป็นจริง ..เป็นปลายทางแห่งฝันที่นุ้ย เชื่อว่าหลายคนมีปลายทางเดียวกัน
“ศรีพันวา”
ในฤดูที่ภูเก็ตกำลังมีมรสุม
สายลมที่พัดโหมอย่างหนัก …สายฝนที่เทกระหน่ำแบบไม่ขาดสาย
นุ้ยเร่งรีบเก็บกระเป๋า …. เพราะใจมันเรียกร้องเหลือเกิน
เมื่อวันที่ตั้งตารอเดินทางมาถึง
นุ้ยไปถึง ศรีพันวา ในช่วงบ่าย 3 โมงกว่า ๆ เป็นช่วงเวลาที่เมฆครึ้ม ครอบคลุมทุกพื้นที่
ณ ศาลา จุดเช็คอิน นุ้ยนั่งทอดสายตาออกไปยังทะเลจิบ Welcome drink
ก่อนที่จะเริ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ พื้นที่
เป็นล็อบบี้ที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ มีความอบอุ่นเหมือนบ้าน
มีโซฟาขนาดใหญ่ตามจุดต่างๆ วางห่างกัน เพื่อให้แขกที่มาเช็คอินมีความเป็นส่วนตัว
รอบด้านเป็นหน้าต่างบานกระจก ให้เราได้มองเห็นวิวด้านนอก
ในบริเวณศาลา ยังมีห้องสมุด จุดบริการเครื่องดื่ม และช็อปอีกด้วย
ได้เวลาเข้าห้องไปสัมผัสความฝันของเรากันแล้ว
เมื่อก่อนนุ้ยเคยคิดว่าราคาที่นี้มันเกินความสามารถนุ้ยจะเอื้อมถึง
จนมาถึงตอนนี้ ตอนที่ศรีพันวาเปิดโซนใหม่ The Habita แม้ว่ามันจะไม่ใช่ Pool Villas แบบที่วาดภาพไว้
แต่โซนนี้ก็สวยตรึงใจไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อบวกกับราคา ทำให้เงินในกระเป๋าไม่ได้สะทกสะท้านมากนัก
ทำความรู้จักกับ The habita สักนิด
The Habita เป็นที่พักที่ให้เรามีความรู้สึกคล้ายบ้าน
มีเพียงแค่ 30 ห้อง 2 Room Type
แบ่งเป็น
Penthouse จำนวน 10 ห้อง
Pool Suite จำนวน 20 ห้อง
และห้องที่นุ้ยพักวันนี้ คือ Penthous เบอร์ 9
เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้อง
เสียงอุทาน ว๊าวววว ดังขึ้นมาทันใด
เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือห้องอาหาร และห้องนั่งเล่น ที่กว้างมากๆ
และเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะพื้นที่โดยรวมทั้งหมด ขนาด 140 ตารางเมตร
และเป็นส่วนที่เชื่อมไปยังห้องนอน
โทนสีของห้องจะเป็นโทนอบอุ่น ขาว เหลือ เทา เบจ ทำให้ห้องดูซอร์ฟ เหมาะกัยชบวันพักผ่อน
รวมทั้งนำไม้มาผสมผสานดูอ่อนนุ่มมากยิ่งขึ้น
พื้นที่ทั้งหมดถูกแบ่งเป็น 3 โซนใหญ่ ๆ
โซนแรกจะเป็นห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น
โซนที่สองห้องนอน และห้องน้ำห้องแต่งตัว
โซนที่สามสระว่ายน้ำ
แว๊บเข้ามาดูในห้องน้ำกันบ้าง กว้างมาก
มี Bathtub อยู่มุมนึงของให้ เป็นมุมที่ทำให้เราสามารถทอดสายตาออกไปมองวิวด้านนอกได้
มีการแบ่งห้องอาบน้ำ และห้องชำระ ออกจากกัน
อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในห้องน้ำ
ย้อนกลับมาดูในส่วนของห้องนั่งเล่นกันอีกรอบ
เป็น Welcome Fruits ที่อลังการมาก กล้วยหอมมายกหวี
มะม่วงน้ำดอกไม้หวาน และฝรั่งกร๊อบกรอบ
และเป็นที่รู้กันว่าสำหรับศรีพันวาแล้ว ฟรีมินิบาร์ ซึ่งเป็นมินิบาร์ที่จัดเต็มมาก
ทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนม สแน๊ค เครื่องดื่มร้อนเย็น ทานได้ครบทุกอย่างเลยค่ะ
และจะมีการเติมให้วันละ 1 ครั้ง
มาถึงสระว่ายน้ำหลักของ The Habita เป็นสระว่ายน้ำที่ใหญ่มากเลยทีเดียว และมีต้นไม้อยู่บริเวณรอบๆ สระ
ลองเดินลงมาบริเวณสนามหญ้าด้านล่างมี เก้าอี้ และจะให้นั่งพักผ่อน
ในช่วงฤดูมรสุมแบบนี้เป็นช่วงที่ ฟ้ามืดเร็วกว่าปกติ
นุ้ยพากลับมาดูโซนตอนรับของ The Habita เนื่องจากในตอนกลางวันฝนตกหนักเหลือเกิน
หลายคนกลัวความมืด แต่นุ้ยว่า ช่วงเวลากลางคืนเป็นช่วงเวลา ที่มีเสน่ห์
กลับมาดูบรรยกาศในห้องนอนของเรายามค่ำคืนอีกครั้ง
ห้องนั่งเล่นมีโซฟาตัวแอล ขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ของห้อง
นั่งเล่นนอนเล่นกลิ้งไปมาได้สบายเลยทีเดียว
จะมีทีวีทั้งบริเวณห้องนั่งเล่น และห้องนอน… จะนั่งดูนอนดู เลือกตามไลฟ์สไตล์ที่เราเป็น
นั่งมองออกนอกห้อง มุมนี้พนักงานบอกเราว่า เป็นมุมที่เห็นพระอาทิตย์ตกสวยมากๆ
แต่วันนี้ฝนตกชุ่าฉ่ำมากๆ
หลังห้อง penthouse 9 จะมีต้นไม้ค่อนข้างเยอะ
หากใครชอบแบบวิวทะเลเต็มๆ ตา แนะนำห้อง 6 7 8 นะค่ะ
เช้าอีกวันแอบลุ้นให้ฟ้าฝนเป็นใจกับวันพักผ่อน
แม้ว่านุ้ยจะรักฤดูฝนมากแค่ไหน
แต่แน่ล่ะ … มาทะเลก็อยากเจอฟ้าใสๆ จริงมั๊ย
แต่เช้านี้ ตื่นมาพร้อมความสดใส เพียงแค่ลืมตาตื่น ความสดชื่น ที่อยู่ตรงหน้า งดงามนัก
กาแฟร้อนๆ สักแก้ว เติมเต็มให้ช่วงเวลายามเช้าสดใสมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่อีกคน ขอเพิ่มเความกระปรี่กระเปร่า ให้กับร่างกาย
ไม่รู้หรอกนะว่าโลกจะหมุนช้าหรือเร็วแค่ไหน
แต่วันพักผ่อนที่มีเรา … เป็นวันที่มีความสุขเสมอ
เวลาของอาหารเช้าเดินทางมาถึง
เมื่อได้ยินเสียงทักทายจากน้ำย่อย
ห้องอาหารเช้าอยู่ไม่ห่างจาก The Habita มากนัก
ในวันที่ฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจ การนั่งโซนด้านใน เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุด
เป็นห้องอาหารที่ไฟสวยมาก โทนสีจะเป็นฟ้าขาว ให้อารมณ์อยู่ริมทะเล สบายๆ
อาหารเช้าของศรีพันวา มีทั้งแบบบัฟเฟ่ต์ และอลาคาส
เลือกสั่งได้จากเมนูไม่อั้น …และตักบัฟเฟ่ต์ได้เต็มที่เลย
เครื่อดื่มเลือกได้ทั้งร้อนเย็น
เมนูง่ายๆ เช้านี้ egg benedict
สำหรับศรีพันวา มี 2 แบบ คือแบบปกติ และแบบที่เป็นแบบของศรีพันวา เอง อร่อยมากเหมือนกัน
ซอสที่ราดบนไข่จะเป็นซอสเห็ด
มีขนมจีนด้วยน๊าา …. ก็เป็นอาหารขึ้นชื่อของภูเก็ตนี่เนอะ
ต้องมีสิ
เมนูของหวาน ที่ห้ามลืมสั่งนั่นคือ แพนเค้กกล้วยหอม
เป็นแพนเค้กเนื้อนุ่มเสิร์ฟมาแบบร้อนๆ จากเตา
แต่สำหรับวันที่ฟ้าใส ด้านนอกจะเป็นจุดดึงดูดไม่ว่าแดดจะแรงแค่ไหน
ก็ไม่หวั่น … แค่ได้นั่งชิลริมทะเลถือว่าประสบความสำเร็จ
หลังจากทานอาหารเสร็จ นุ้ยเดินเล่นไปเรื่อยๆ จนถึงสระว่ายน้ำอีกหนึ่งสระของศรีพันวา
ต้องบอกว่าสวยมาก เพราะวิวอลังการล้านแปด สระว่ายน้ำจุดนี้มีชื่อว่า Beach pool
เห็นแล้วอยากกระโดดลงไปมากที่สุด
ก่อนกลับไปที่ห้องพัก เดินไปดู Fitness ของที่นี้
อยู่ใกล้ห้องอาหารเช้า
เป็น Fitness ที่มีแทรนเนอร์อารมณ์ดีมากๆ
บริเวณรอบๆ รายล้อมด้วยต้นไม้ สดชื่นไม่น้อยตอนออกำลังกาย
เครื่องออกกำลังกายมีความหลากหลาย มีสนามมวยด้วย
ตอนแรกตั้งใจกลับห้อง แต่พอเดินมาถึง The Habita เป็นช่วงเวลาใกล้เที่ยงพอดี
ไหนๆ ก็ไหน ๆ แล้ว หาของอร่อยๆ หม่ำกันสักหน่อยดีกว่า
The Habita จะมีร้านอาหารอยู่ 2 ร้าน คือ BBQ Hot Box และ Baba Chino
นุ้ยเลือกทาน Baba Hot Box
เป็นห้องอาหารที่ขนาดไม่ใหญ่นัก มีที่นั่งลักษณะเป็นบาร์
และโต๊ะใหญ่เพียงโต๊ะเดียว
จุดเด่นของ Baba Hot Box จะเป็นเนื้อแต่ละชนิดที่สด และคัดสรรมาเป็นอย่างดี
และเตาย่าง ที่นำเข้าจากประเทศสเปน ทำให้เนื้อที่ผ่านการย่าง มีความนุ่ม และน่าทานมากยิ่งขึ้น
มาเริ่มต้นกันที่เครื่องเคียง
ทุกครั้งที่เข้ามาทาน รับจะได้ชุดผักสด ผักกริล ให้ 2 ทาน ต่อ 1 ชุด
วันนี้นุ้ย่ลองสั่งมาทานเพียงไม่กี่อย่าง
หากมากกว่านี้คงเดินกลับไม่ไหวแน่ ๆ
เป็นเนื้อส่วน wagyu kalbi
นุ่มมาก มีความฉ่ำ ย่างได้สุกกำลังดีในแบบที่ชอบ
เป็นกุ้งลายเสือที่ตัวโตมากๆ
สองตัวเกือบเต็มจานเลยทีเดียวค่ะ
ความสด อยู่ริมทะเลไม่ต้องพูดถึงเลยสดมากแน่ๆ
ความกรอบเด้ง หวาน ชนะขาด
จานนี้เป็นไก่ย่าง ส่วนของเนื้อสะโพก โรยด้วยเกลือพริกไทย น้ำเข้าเตาย่าง
ออกมาเป็นแบบนี้ไก่ย่างหนังกรอบ น้ำมันน้อย
น้ำจิ้มมีเสิร์ฟมาให้เราถึง 5 อย่างด้วยกันเลือกจิ้มกันตามใจชอบเลย
และนี่คือทั้งหมดของมื้อนี้ จะเดินกลับห้องไหวมั๊ยหน่อ
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มเจ๋งๆ สักแก้ว
เมื่ออิ่มแล้วต้องเบิร์นค่ะ
มาขยับร่างกาย ด้วยกันลอยคอในสระ
สระของ Penthouse จะกว้าง 10 เมตร สูง 1.2 เมตร
วิวจากสระ เห็นพระอาทติย์ตกในตอนเย็น แต่ห้องนี้ จะมีต้นไม้เยอะ
มันเหมาะ สำหรับความเป็นส่วนตัวค่ะ แต่หากใครชอบแบบทะเลเต็ม ๆ ตามที่บอกไว้ตอนต้นเลย
6 7 8 ดีงาม เห็นวิวสระกลางด้วย
ช่วงเวลาต่อจากนี้คือการรีแล็กซ์ นอนชิล ใช้ชีวิตอยู่ในห้อง ดูหนัง ฟังเพลง
มีหนังให้ยืมด้วยน๊า แต่ถ้าอยากฟังเพลงก็มีไอพอร์ทจ้า
ในช่วงเย็นวันนี้ฝนไม่ตก แม้ฟ้าจะไม่ได้สดใสมากเลย
นุ้ยตรงดิ่งไปยัง Baba nest ไฮไลท์ของที่ศรีพันวาเขาเลยหล่ะ
สิ่งที่เราทำได้ ก็แค่แอบลุ้นให้ตะวันโผล่มาทักทายกันสักแว๊บ
สำหรับจุดนี้ห้ามพลาดค่ะ วิวสวยมาก 360 องศาเลยทีเดียว ถ้าหากวันไหน ฟ้าเปิด
รับรองได้ว่าสวยบาดตาบาดใจแน่ๆ
เป็นอีกหนึ่งที่ที่โรแมนติคมากๆ อย่าลืมพาแฟนมานะ
แต่สำหรับแขกนอก ที่ไม่ได้พักกับทางโรงแรม อาจจะต้องจองกันข้ามเดือนเลยทีเดียวค่ะ
เพราะมีโต๊ะเพียง 12 โต๊ะเท่านั้น และเปิดให้แขกนอกจองเพียงวันละ 2 โต๊ะ (โต๊ะละ 4 คนเท่านั้น
ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำคนละ 500 บาท สำหรับแขกที่พักในโรงแรม
สามารถสั่งอาหาร และเครื่องดื่ม สแน๊คได้ ในราคา 500 บาท หากมากกว่านั้นต้องชำระเพิ่ม
แต่ถ้าหกาเป็นแขกนอก ขั้นต่ำคนละ 1,000 บาทจ้า
เปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่ม
ด้านบนนี้จะนั่งจะนอน จะเดิน หรือจะว่ายน้ำได้หมด
ทุกคนต่างมีมุม มีโมเม้นท์เป็นของตัวเอง
แต่สำหรับเราขอนั่งนิ่งๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าฟ้าจะมืด
จริงอยู่…ที่ว่า ความสุขที่เกิดขึ้นไม่ได้สำคัญว่าเราอยู่ที่ไหน แต่สำคัญว่าเราอยู่กับใคร
แต่เมื่อมีใครอยู่ข้างกาย … เราก็ควรเติมเต็มความหวาน และความสุขให้เพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน
ข้อมูลโรงแรม
ศรีพันวา
http://www.sripanwa.co.th/
เบอร์โทรศัพท์ : +66(0)76 371 000
อีเมล์ : chill@sripanwa.com
https://www.facebook.com/SripanwaPhuket
———————————-
ติดตาม และพูดคุยกับ My Life My Travel ได้ที่
WebSite : http://www.mylifemytravels.com/
Facebook : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels/
Instagram : https://www.instagram.com/mylifemytravel/
View Comments