วันพุธ, 18 ธันวาคม 2567

เขาสก…โคตรสนุก 600 บาทต่อคน แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาเกินคุ้ม

เ- ข- า- ส -ก

 

ทุกครั้ง ที่ได้กลับมาเยือนสถานที่แห่งนี้  ไม่เคยมีครั้งไหนที่ไม่มีความสุข

เพราะทุกครั้งที่กลับมาจะเต็มไปด้วยเรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ

แม้ไม่มีแสงสี สิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ แต่ความสุขเกิดขึ้นง่ายๆ เมื่อมีพวกเรา

และความสวยงามที่ธรรมชาติสรรสร้างมาอย่างลงตัว

หากเพียงแต่คุณยอมปล่อยใจ แล้วเอนกายให้ธรรมชาติโอบกอดคุณไว้

นุ้ยเชื่อว่าความสุขอยู่ไม่ได้ไกลจากตัวคุณเลย


ขอบคุณทุกกำลังใจ   ขอบคุณทุกความเห็น  จุ๊ฟๆๆๆ

ปล. อีกหนึ่งช่องทางสำหรับทักทาย พูดคุย สอบถาม และร่วมเดินทางไปด้วยกันค่ะ
https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels

 
 

 

ก่อนอื่นต้องขอบคุณ ห้อง Blue Planet เพราะทริปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมิตรภาพดีๆ  ที่เกิดขึ้นในโลกสีฟ้าใบนี้  

พวกเราทุกคนในทริปนี้ ได้รู้จักกันตอนไปงานมิตติ้งปู๊นๆ ครั้งที่ 2 ที่จังหวัดกาญจนบุรี  หลายคนอาจจะรู้จักกันมาก่อนหน้า แต่สำหรับนุ้ยแล้ว นุ้ยพึ่งรู้จักทุกคนจากการมิตติ้งครั้งนี้  และสานสัมพันธ์กันตลอดมา 

 
 
 

มาถึงเรื่องการเดินทาง ทริปนี้แยกการเดินทางออกเป็น 2 ขบวน เนื่องจากมีสมาชิกจากทุกภาคของประเทศ (เริ่มเว่อร์ นิดหน่อย)  

คือมาจากทางกรุงเทพ 1 ขบวน วิ่งตรงมุ่งหน้าสู่ เขื่อนรัชประภา   ส่วนอีก 1 ขบวนจากทางใต้ โดยมีสาวสวยจากหาดใหญ่ มาค้างที่ภูเก็ต 1 คืน แล้วออกเดินทางไปสบทบที่เขื่อนรัชประภาพร้อมกัน  

สำหรับการเดินทางจากภูเก็ตไม่ยากเลยคะ ส่วนใหญ่ คนที่มาเที่ยวมักจะเดินทางไปยังจังหวัดสุราษฎร์  แล้วต่อรถมาเขื่อน  แต่นุ้ยขอบอกว่า ระยะทางจากสุราษฎร์ไปเขาสก  และจากภูเก็ต ไปเขาสกไม่ได้ต่างกันมากเลยค่ะ  เพราะนุ้ยใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากภูเก็ต เพียงแค่ 2 ชั่วโมงนิดๆ (คำเตือน ความเร็วในการขับของแต่ละคน ไม่เท่ากันนะค่ะ)

 
 

 

นุ้ยออกเดินทางจากภูเก็ต ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง  ถึงเขื่อนเวลาโดยประมาณ 7 โมงกว่าๆ 

 

 

และสิ่งที่นุ้ยไม่เคยรู้ (ไม่แน่ใจว่านุ้ยไปมุดอยู่ที่ไหน)  คือ บริเวณสันเขื่อนมีทะเลหมอก  และสวยซะด้วย

 

 

 
 
 
 

ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ  มีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้า   เมื่อทอดสายตาออกไป 

 

 

เป็นสิ่งที่ทำให้นุ้ยตื่นเต้น เพราะเกินความคาดหวัง 

 

 
 

ยใช้เวลาอยู่กับสายหมอก นานทีเดียว …. อากาศยามเช้าของที่นี้ ช่างสดชื่น จริงๆ 

 

ขับรถไปเรื่อย เพื่อไปยังจุดนัดหมาย   

 

 
 

ทุกหย่อมหญ้า ปกคลุมไปด้วยสายหมอก 

 

 

จุดนั้นหมายของพวกเราคือบริเวณ นี้ค่ะ

 

 

ใช้เวลารอไม่นาน   แต่ก็ยังพอมีเวลา เก็บรูปมาฝากกัน

 

 

 

และเมื่อสมาชิกมากันครบ พร้อมหน้าพร้อมตา  สิ่งที่จะพลาดไม่ได้คือถ่ายรูปร่วมกัน หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา  กันดี

 

 

ปล. รูปนี้ต้องขอบคุณพี่ต้น ข้าวเสาไห้ค่ะ เพราะ มัวแต่วิ่งเข้ากล้องไม่ได้ถ่ายเองเลย

 
 

ถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่ และเมาท์กันเพลิน เพราะไม่ได้เจอกันหลายเดือนเลยทีเดียว  

 

และแล้วก็ได้เวลาไปลงเรือกันแล้วค่ะ  

ไปกันเลย

 

ก่อนไปลงเรือ  ฝากรถกันก่อนค่ะ มีจุดบริการรับฝากรถอยู่ใกล้บริเวณท่าเรือคะ  ราคาค้างคืน 80 บาท

 

 

 

ก่อนลงเรือกัน ต้องชำระค่าบริการอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับอุทยานก่อนนะค่ะ คนละ 40 บาท

 

 

ครั้งนี้เราเดินทางไปยังแพที่พักโดยเรือของป้าพิศค่ะ  ครั้งนี้ป้าพิศได้ช่วยพวกเราไว้หลายอย่างเลยที่เดียวค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่พัก ที่โดนโกง และยังลดราคา ค่าเรือให้พวกเราอีกค่ะ 

 

เรือป้าพิศ 087-2691466

 

 

ขนข้าวของ และสัมภาระลงเรือเสร็จแล้ว  พร้อมไปกันหรือยังค่ะ นุ้ยพร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ

 

 

ที่พักเขาเราในวันนี้คือ   แพเพลินไพรค่ะ  

 

เป็นโชคดีมากๆ ค่ะ วันนี้ท้องฟ้าสดใส  เพราะครั้งก่อนนุ้ยมาเจอแบบบรรยากาศฝนตก  จึงอยากรู้ว่า ถ้าวันที่ฟ้าฝนเป็นใจ  จะเป็นอย่างไร  

 
 

 

แต่สำหรับนุ้ย ไม่ว่าจะฝนตก หรือแดดจ้า  เขาสก ก็ยังมีเสน่ห์ ให้น่าหลงใหลไม่แพ้กัน

 

 

ใช้เวลาเดินทาง จากสันเขื่อนไปยังแพที่พัก ประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง

 

ความรู้สึก คล้ายว่า เราใช้เวลาเดินทางเพียงชั่วครู่  เพราะถ่ายรูปเล่น ชื่นชมธรรมชาติกันเพลินเลยที่เดียว

 

เดี๋ยว เดียว ก็เห็น แพเพลินไพรอยู่ไกลๆ แล้ว

 

 

ครั้งนี้นุ้ยพักที่แพเพลินไพรค่ะ 

 

เบอร์โทรติดต่อ 081-8926321 , 077-346095  

 

เหตุผล ในการนุ้ยให้เบอร์โทร ขอบอกก่อนว่าไม่ได้โฆษณา หรือมีผลตอบแทนใดๆ นะค่ะ แต่อยากให้เพื่อน ติดต่อผ่าน คนให้บริการโดยตรง อย่าผ่านคนกลางเลย  เพราะนุ้ยและเพื่อน ผ่านประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน 

 

 

 

ก่อนเก็บข้าวของสัมภาระ อากาศกำลังดี ฟ้ากำลังสวย  เกือบบรรยากาศ หน้า แพก่อนสักหน่อย

 

 

ที่พักของแพเพลินไพร แบ่งออกเป็น 2 โซน

แบบแรก เป็นใบไม้ไผ่ ราคา 600 บาท/คน/คืน   มีทั้งแบบพักห้องละ 2 คน และ พักห้องละ 4 คน

 

แบบที่ 2 เป็นแบบไม้ฝาเชอร่า ราคาต่อ 750 บาท /คน/คืน  มีทั้งแบบห้องพัก พักห้องละ 2 คน  3 คน  4 คน และห้องพักละ 8 คน

 

ราคาดังกล่าว รวมอาหาร 3 มื้อ 

 

 

ครั้งนี้นุ้ย แพไม้ไผ่ ห้องละ 4 คน  

 

บรรยากาศหน้าห้องของนุ้ย เป็นแบบนี้ค่ะ  สวยม๊าา

 
 

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า รีวิวนี้ไม่มีอาหาร ไม่ใช่ว่าอาหารไม่ดี ไม่อร่อยนะ  เพราะความจริงจัดเต็มมาก ๆ อร่อยทุกอย่าง  แต่นุ้ย หิวตาลาย ไม่ได้ถ่ายเลยสักมื้อ ไม่ว่ากันน๊า

 
 

หลังจากทานข้าวทานปลากันเสร็จ พวกเราก็ตกลงกันว่าจะไป ถ้ำปะการัง ห่างจาก แพเพลินไพลแค่นิดเดียว

 

โดยมีค่าใช้จ่ายส่วนของแพ 600 บาท  เพิ่มเติม  

 

มาถึงก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้

 

 

เห็นแบบนี้อย่าพึ่งดีใจคิดว่าถึงแล้วนะค่ะ  หนทางนี้ยังอีกยาวไกลค่ะ กว่าจะถึงถ้ำปะการัง  เพราะยังต้องเดินทางอีกเป็นกิโลๆ เลยค่ะ

 

ตามมาเลย

 

 

นุ้ยสงสัยอยู่อย่างนึงว่า ทำไมตลอดทางเดินจะต้องมีมอไซค์ ที่ใช้งานไม่ได้แล้ว มาจอดอยู่ตลอดทาง

 

 

เย้ๆ เห็นปลายทางของเราแล้วค่ะ

 

ทำเอาเหงื่อตกเหมือนกันน๊า

 

มาถึงแล้ว ก็ต้องรอคิวอยู่นานเลยค่ะ กว่าจะได้นั่งแพไม้ไผ่ ไปยังถ้ำปะการัง 

 
 

และแล้วก็ไม่มีอะไรนานเกินรอ ….  

 
 

นั่งแพไม้ไผ่มาแค่แปบเดียวเอง  ก็ถึงแล้ว

 

มาถึงแล้วก็ลุยกันเลยค่ะ

 

จะมีไกด์นำทางเราเข้าไปในถ้านะค่ะ  นุ้ยได้เก็บภาพบรรยากาศภายในถ้ำมาฝากไม่เยอะเท่าไหร่น๊า

 

ของจริงสวยมากค่ะ แต่นุ้ยไม่สามารถถ่ายให้สวยเหมือนตาเห็นได้ ขออภัยจริงๆ

 

 

 

 

 

 

ได้เวลากลับแพกันแล้ว  ใกล้เวลาพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาเต็มที  

 

หันไปเห็น น้องที่ดูแลพวกเรา  อยากรู้จัง น้องกำลังคิดอะไรอยู่

 

รูปนึงรูป สามารถบอกอะไรได้มากมาย แต่เราไม่อาจรู้ได้เลยว่า …… มีอะไรซ้อนอยู่

 

ขากลับเราก็ยังต้องเดินกลับกันเหมือนเดิม เหนื่อยสุดๆ คนอ้วนก็งี้แหละ  เฮ้อ  

 

ทิ้งท้ายถ้ำปะการังกันด้วยภาพบรรยากาศเหล่านี้  

 

กลับมาถึงที่พัก … บรรยากาศดีมาก แดดร่ม ลมตก แบบนี้ไปเล่นน้ำกันดีกว่าค่ะ

 
 

เริ่มจากเขาคนนี้  พี่ชายที่น่ารัก ดูจะมีความสุขกว่าใคร

 

จะท่าไหนบอกมา  พี่จัดให้

 

 

 
 
 

ไม่บอกก็รู้ได้ว่าพี่เขาสุขมากขนาดไหน  

 

 

ทางแพยังมีเรือแคนนูไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย 

 

เป็นกิจกรรมอีกอย่างที่น่าสนใจ 

 

 

 
 

พายแคนูกันเหนื่อย ก็มานั่งพัก เล่นน้ำกันต่อ

ต้องมีการนัดแนะกันก่อน

ปรากฎว่า คนละท่า ฮาๆ 

แล้วนางจะนั่งอยู่เฉยๆ ทำไม

 

รอยยิ้ม เสียงหัวเรา สร้างสีสันได้มากมาย

ภาพเหล่านี้จะไม่มีวันเลือนหายไปจากความทรงจำ

เป็นท่ากระโดดน้ำที่สวยมาก

เฮ้ย….ไม่ใช่  พี่เขาตก 

 
 

ทุกท่วงท่า คือความสุข  

 

 

เมื่อเหนื่อยและใกล้ค่ำเต็มที่ ก็ยัง ไม่ลดละ ไม่ยอมขึ้นจากน้ำ  

นุ้ยว่าทุกคนก็เป็นเหมือนกัน  เพราะทุกครั้งที่ไปที่นี้ นุ้ยมีความสุขที่สุดตอนได้เล่นน้ำ เสียงหัวเราะ จะดังสุดๆ ลืมเรื่องราวต่างๆ ไปได้หมด

 

ยามค่ำคืนของที่นี้ ชั่งเงียบสงบ  

 

และเป็นอีกเหตุผลนึงที่นุ้ยชอบที่นี้มากคือ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์  ซึ่งอาจจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับหลายๆ คน

แต่สำหรับนุ้ย นุ้ยชอบที่ทุกคนได้หันหน้ามาคุย โดยไม่ต้องคุยกันผ่านมือถือ 

เป็นการพักผ่อนจริง ๆ ที่ตัดขาดจากสิ่งรบกวนภายนอก

 

 

เช้าวันที่สองตื่นขึ้นมาแบบงง ๆ ได้ยินเพียงเสียคนพูดว่า สวยๆ สวยจังเลย

 

แค่นั้นแหละ สะดุ้งตื่นแบบไม่ได้ตั้งตัว

 

เมื่อตั้งสติได้ เริ่มสนุกกับการถ่ายรูป

 

 

ไม่ว่ามุมไหนก็สวย

 

บริเวณด้านหลังแพ  สวยไม่แพ้ด้านหน้าเลยค่ะ

 

 

มุมโน๊น

 

มุมนั๊น

 

มุมนี่

 

มุมไหน ๆ ก็สวย

 

กลับมาดูมุมหน้าแพ  เสียงอาทิตย์ เริ่มโผล่พ้น เหลี่ยมเขาแล้ว 

 

 

ชั่งงดงาม เมื่อยามแสงสาดส่อง สู่พื้นผิวน้ำ

 

 

 

พาเดินไปยังฝั่ง ไม้ฝาเชอร่ากันบ้าง  หมอกยังลงหนามาก  

 

อากาศเย็นสบายที่สุด

 

 

มาแวะพักแบรคกันก่อนค่ะ ยามเช้านอกจากอาหารเช้าแล้ว ทางแพยังมีเครื่องดื่มไว้บริการด้วยค่ะ

 

 

 

ติมพลังเสร็จแล้ว  เดินเก็บบรรยากาศกันต่อ  

 

สำหรับคนอื่นไม่รู้นะ  แต่สำหรับนุ้ย  การได้ถ่ายรูป ไม่ว่าจะออกเป็นยังไง สวยหรือไม่สวย  แต่ก็ยังชอบถ่ายและมีความสุขที่ได้ถ่าย

 

 
 
 

ชอบมุมนี้ในยามเช้า แสงแดด ที่สาดลงมา ทอประกายกับผืนน้ำ 

 

 

หลังจากทีทุกคน อิ่มก็แล้ว  ถ่ายรูปก็แล้ว  สิ่งที่จะขาดไม่ได้ก่อนกลับบ้านคือการเล่นน้ำ

 

พร้อมกันหรือยัง เอ้า 1 2 3

 

 

 

ใครอยากกระโดด ก็กระโดด

 

ใครอยากแช่ในน้ำก็เชิญ

 

 

ใครมีลีลาใดๆ จะนำเสนอก็จัดไป

 

 

โดยมีผู้ใหญ่ น่ารักคนนี้ นั่งมองหลานๆ แบบชิลๆ 

 

แต่คงไม่มีใครชิล  เท่าชายคนนี้ วันๆ ไม่สนใจใคร นั่งจิบเบียร์อยู่คนเดียว 

 

ปล่อยกายปล่อยใจไปกับธรรมชาติ

 

 

ในที่สุดก็ได้เวลากลับ  เล่นน้ำกันจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ  

 

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา  แต่มิตรภาพจะยังคงอยู่ตลอดไป  

ขอบคุณสมาชิกร่วมทริปทุกคน 

ขอบคุณแพเพลินไพร ที่ทำให้พวกเราได้มีที่ซุกหัวนอน เพราะโดนโกง

ขอบคุณป้าพิศ ที่หาที่พักให้พวกเราได้ 

โอกาศหน้าเจอกันใหม่นะเขาสก  

 

สุดท้ายขอแจ้งเตือนภัยสำหรับเพื่อน ๆ ที่จะจองที่พักผ่านคนกลางนะค่ะ  ลองเข้าไปอ่านกระทู้นี้สักนิด  เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง กับนุ้ยและเพื่อน  โดยมีพี่สาวคนสวย พี่เจิน Miziki เป็นคนตั้งกระทู้ และให้ข้อมูลไว้ 

 

และมีเบอร์โทรแพต่างๆ ในเขื่อนมาฝากกันค่ะ จะได้จองโดยไม่ผ่านคนกลางค่ะ

Cr.Miziki

สำนักงานอุทธยาน  โทร. 077-395139

บ้านพักอุทยาน  โทร. 077-395154

แพเพลินไพร  โทร. 081-8926321  ,  077-561217

พี่นุช  แพสายชล  โทร. 081-8916052

คุณฝน  แพไพรวัลย์  โทร. 081-0917765  ,  077-261217

เรือป้าพิศ  โทร. 087-2691466

แพนางไพร โทร. 081-3567423

แพโตนเตย  โทร.083-3934928

แพคลองคะ  โทร. 077-299078-9

แพภูตะวัน  โทร. 081-6069007  , 086-2819655 

เรือพี่หญิง  โทร.089-8668812

เรือพี่ประยูร  โทร.  082-28996613

รีสอร์ทในฝัน  ภูผาและลำธาร  โทร. 077-913050, 081-2718787

 

 

ขอให้รักในการเดินทาง และมีความสุขในการเดินทางเหมือนกันนะค่ะ

 
 และสามารถติดตามนุ้ยได้กันอีกหนึ่งช่องทางคะ 

1 ความคิดเห็น

ขอบคุณคะคุณนุ้ยสำหรับข้อมูลที่ดีนับว่าคุณได้บุญอย่างมากเลยคะที่มาแชร์ประสบการณ์การโกงของคนเลวให้คนที่ไม่เคยไปได้รับทราบขอบคุณมากคะดิฉันกำลังหาข้อมูลจะไปเขื่อนเชี่ยวหลานอยู่พอดีคะ