เที่ยวซาปา เวียดนาม สักครั้งในชีวิต

ซาปา … ต้องไปให้ได้สักครั้งและนี่คือซาปาครั้งแรกของเรา ที่ทำให้เราอยากกลับไปอีก ซาปาเป็นเมืองกลางหุบเขา ในสายหมอกทางตอนเหนือของเวียดนาม เราไปกันในช่วงปลายเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่นาขั้นบันไดกำลังสวย ส่วนอากาศนั้น ร้อนบ้าง ฝนตกบ้างแต่เมื่อขึ้นยอดเขาก็หนาวแบบขั้นสุด หมอกลงหนาจัดแทบมองอะไรไม่เห็นกันเลยทีเดียว ซึ่งทริปนี้ของเราใช้เวลา 5 วัน 4 คืน นอนในรถไฟ 1 คืน นอนซาปา 2 คืน และนอนฮานอย 1 คืน

แพลนเที่ยวแบบคร่าวๆ

วันที่ 1 วันเดินทาง

– เดินทางด้วยสายการบิน Vietjet ถึง ฮานอย 15.50 น.

– นั่งรถเข้าเมืองฮานอย เดินหาของกินทานระหว่างรอเวลารถไฟ

– นั่งรถไฟจากฮานอย สู่ ซาปา

วันที่ 2

– เข้าที่พัก Viettreking ฝากของ อาบน้ำ กินข้าวเช้า

– Moana Sapa

– มื้อเที่ยง BUN BO Hue

– CONG CA PHE

– กลับไปเช็คอินที่พัก และพักผ่อน

– มื้อเย็น Hotpot Center

วันที่ 3

– Tavan Village

– คาเฟ่ Sailing Cafe

– มื้อเที่ยง NHA HANG SANG MEO

– CONG CA PHE

– ช่วงบ่าย Fansipan Mountain

– Rooftop Hotel de la coupole-MGallery

วันที่ 4 กลับเมืองฮานอย

– เช็คอินที่พักเมืองฮานอย

– Cafe Giang- Hanoi Train Street

– เดินเล่นย่านเมืองเก่า

– มื้อเย็น NEM NUONG XUAN DAN อร่อยมาก

วันที่ 5 เดินทางกลับ

– Cafe Camy

– ร้านข้าวราดแกง COM TAM TU MAP

– NYNA Coffee

– กลับไทย

***การเดินทาง จากไทย – เวียดนาม

ซึ่งการเดินทางของทริปนี้ เราเดินทางด้วยสายการบิน Vietjet ไปลงที่สนามบิน Noi Bai เมืองฮานอย ซึ่งมีไฟลท์บินไปกลับทุกวัน วันละ 2 ไฟลท์ ให้เราเลือกเวลาที่สะดวกกันได้เลย และใช้เวลาในการเดินทางเพียงแค่ 1.50 ชั่วโมงเท่านั้น เข้าไปเช็ครายละเอียดเวลาบินและจองกันได้เลย www.vietjetair.com

***การเดินทางภายในเวียดนาม จากฮานอย – ซาปา

สามารถทำได้หลายแบบเลยนะคะ จะรถบัสนอน เหมารถไป หรือรถไฟนอนก็ได้ค่ะ ซึ่งครั้งนี้นุ้ยเลือกเดินทางด้วยรถไฟช่วงกลางคืน จะได้ไปถึงซาปาช่วงเช้าๆ ซึ่งเราซื้อผ่านเอเจ้นท์ บริษัท vietexpresstravel หรือที่หลายคนน่าจะรู้จักกันในชื่อ คุณเฮือง Huong Nguyen เขาจะมีบริการรถรับ-สนามบิน ด้วยซึ่งเวลาที่เราเดินทางไปถึง จะเป็นช่วงเย็น ทางบริษัทจะรับเราไปส่งไว้ที่ออฟฟิศ เพื่อฝากกระเป๋า อาบน้ำแต่งตัวใหม่ได้ มีห้องน้ำ ห้องรับรอง ผ้าเช็ดตัว เตรียมไว้ให้ และเราก็ออกไปหาอาหารในเมืองฮานอยทานกันระหว่างระเวลารถไฟ ซึ่งใกล้ๆ ออฟฟิศมีร้านเยอะมากเลยค่ะ หลังจากกินเสร็จอาบน้ำเสร็จ จะมีรถไปส่งเราที่สถานีรถไฟ และเดินไปส่งจนถึงขบวนที่เราขึ้นเลย เมื่อมาถึงสถานีรถไฟซาปา จะมีรถตู้มารอรับเพื่อไปส่งที่พัก

วันที่ 2 ของทริป

#ที่พัก

ที่พักในทริปนี้ที่พักที่ซาปาของเราคือ Viettreking เป็นที่พักที่เราว้าวมากเพราะเห็นรถรถรางวิ่งผ่านจากห้องนอนเลย ถ้าใครไปซาปาเราแนะนำที่นี่เลย พนักงานก็น่ารักสื่อสารได้ดี ราคาห้องพัก็น่ารักน่าคบหา

ตอนเราไปถึงช่วงเช้ายังไม่สามารถเช็คอินได้ แต่สามารถฝากกระป๋าได้ และมีห้องน้ำให้อาบน้ำด้วย แต่จะมีแค่ 1 ห้องนะคะ สามารถขอผ้าเช็ดตัวได้ด้วย

ห้องที่นุ้ยพักคือ premium deluxe mountain view

เมื่อจัดการตัวเองการเรียบร้อย อาบน้ำอาบท่า กินข้าวเช้ากันเรียบร้อย

ซึ่งตอนเช้าเรากินที่ ที่พักเลยค่ะ สามารถซื้อแยกได้คนละประมาณ 225 บาท

ต่อจากนั้นเราไปเที่ยวกันที่ Moana Sapa

ต้องบอกทุกคนว่าที่ไม่ใช่คาเฟ่นะ อย่าคาดหวังจะไปนั่งกินกาแฟ กินขนมใดๆ เพราะไม่มี

ที่นี่เป็นเพียงจุดถ่ายรูปเท่านั้น มุมถ่ายรูปคือสวย ไปถึงซาปาก็คือต้องไปที่นี่แหละ

จะมีค่าคนคนละ 80,000 ดอง ได้น้ำฟรี 1 ขวดจ้า

มื้อเที่ยงเรามากินกันในเมือง ใช่วิธีการเดินมองไปเรื่อยๆ เจอร้านนี้ ชื่อร้าน BUN BO Hue 

เดินเข้าเลย เพราะมีทั้งมีเมนูข้าว และเฝอ ซึ่งเมนูข้าวถูกปากเราเลยนะ จานใหญ่กินอิ่ม อร่อย

ติดๆ กันเลยจะมี Cong Caphe ร้านประจำทุกครั้งที่ไปเวียดนาม กาแฟมะพร้าวคือเดอะเบสต์ค่ะ

เสร็จจากคาเฟ่เราก็เข้าไปเช็คอินที่พัก และนอนหลับพักผ่อนเอาแรงกันค่ะ และจะได้ถ่ายรูปที่พักเล่นกันได้

พอตกเย็นเราไปเลือกไปกินชาบูกัน เขาว่ากันว่าซาปาชาบูปลาแซลม่อนคือที่สุด

ไปถึงแล้ว เราจะพลาดได้ไงจริงไหม เราไปกินกันที่ Hot pot center ใช้วิธีเดินกันไปค่ะ เดินเล่นดูไฟไปเรื่อยๆ

เอาจริงๆ ว่า ช่วงกลางคืนซาปาสวยไม่เบาเลยนะ

ซึ่ง Hotpot Center จะอยู่ติดกับทะเลสาปเลย

ว่าแล้วก็จัดเต็ม ร้านนี้มีทั้งชาบู ข้าว มีให้สั่งแบบอลาคาส และสั่งแบบเซ็ตได้ด้วย

ช่วงกลางคืนเดินเล่นกันมาเรื่อยๆ เจอตรอกเล็กๆ พวกเราก็ไปนั่งเล่นกินน้ำเต้าหู้ พิซซ่าเวียดนามกัน

เช้าวันที่ 3 ของทริป

วันนี้ช่วงเช้าเราเหมารถ 4 ชั่วโมง เพื่อออกไปเที่ยวตามจุดที่ต้องการ ซึ่งจุดที่เราเลือกไป มีไม่เยอะมาก แต่ห่างจากที่พักประมาณ 1 ชั่วโมง และพวกเรามีกันหลายคนทำให้การเช่ารถจะคุ้ม และสะดวกมาก ซึ่งระหว่างทางจะผ่านจุดชุมวิวนาขั้นบันได คือสวยเลย และเราไปต่อกันที่ Tavan Village ซึ่งเป็นจุดชมนาชั้นบันไดเช่นกัน

แต่ที่ชอบมาๆ คือคาเฟ่นี้ค่ะ Sailing Cafe มันคือวิวนาขั้นบันไดนั่นแหละ แต่ชิลล์มาก ร้านคือทำดี ตกแต่งสวย และยังมีความชิลล์ เครื่องดื่มคือดี และอร่อยเลย ใครชอบแนวนี้ปักหมุดตามไปได้เลย

มื้อเที่ยงเรากลับมาทานกันที่ในเมือง เราแนะนำร้านนี้ NHA HANG SANG MEO- CONG CA PHE ซึ่งร้านนี้เพื่อนนุ้ยเปิดหาจาก Google map เนื่องจากเพื่อนเราตั้งโจทย์ว่าอยากทานเป็นข้าว แล้วมาเจอร้านนี้ คืออร่อยเลย มีหลายเมนูที่เราไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะวางปุ๊บหมดปั๊บ สั่งเบิ้ลรอบสองก็ยังไม่ได้ถ่าย เอาเป็นว่าลองไปดูน๊า

กินข้าวเสร็จ ยังต้องการเติมคาเฟฮีนเข้าร่างกายอีกนิด ไปกันที่ Cong cafe เหมือนเดิมแต่เป็นอีกสาขา ซึ่งนุ้ยชอบสาขานี้มากกว่านะ นุุ้ยว่าสวยดี และคนไม่เยอะมาก

ช่วงบ่ายเพวกเราไปขึ้นเขา Fansipan Mountain กันค่า

สาเหตุที่เราไปช่วงบ่ายเพราะจากการนั่งสังเกตุ ช่วงเช้าคิวจะค่อนข้างยาว ขบวนรถหนาแน่นมาก คนอัดกันแน่นเลย

พวกเราก็เลยปรึกษากันว่า ไปช่วงบ่ายแบบชิลล์ ๆ ไม่ต้องเบียดใครกันดีกว่า และเป็นอย่างที่เราคิดไว้จริงๆ ค่ะ ชิลล์เลย คนน้อย

และเมื่อขึ้นไปด้านบน อากาศก็ยังหนาวเย็นเหมือนเดิม

…………………

ค่าตั๋วขึ้นไปยอดฟานซิปัน 1,800 บาท/คน    

จะต้องตั๋ว Cable Car ไป-กลับ   ปกติ 800,000 VND  1180

และตั๋วรถราง Moung Hoa   ไป-กลับ 150,000 VND  220

สองขาแรก ราคา 950,000 ดอง /1400

ส่วนตั๋วรถรางขึ้น  Fansipan   ไป – กลับ  270,000  VND /400

ตอนนั่งเคเบิ้ลคาวิวสวยมาก ทุ่งนาคืออลังการจริงๆ

หมอกหนามากแม่ มองไม่เห็นอะไรเลย

บนยอดจะมีธงชาติไว้ให้โบกสะบัดด้วยค่า

ลงมาจากเขา เราแวะไปนั่งชิลล์กันต่อที่ Rooftop Hotel de la coupole-MGallery

บรรยากาศตอนเย็นคือดีสุดๆ ไปเลย พวกเราไปนั่งจิบค็อกเทลกันชิลล์ ชอบมาก

และไม่พลาดที่จะแวะถ่ายรุูปกันที่ตึก Sun Plaza ด้วย

สำหรับวันที่ 4 เราเดินทางกลับฮานอยกันค่ะ ขากลับเราใช้วิธีเหมารถตู้กลับ เพื่อความสะดวก และเลือกเวลาได้เอง ซึ่งสะดวกมาก รถตู้ก็ดีมากๆ ด้วยติดต่อผ่านเอเจ้นเจ้าเดิมที่ใช้จองตั๋วรถไฟเลยค่ะ

จากซาปา ไปฮานอย ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงกว่า มาถึงปุ๊บก็สามารถเช็คอินที่พักได้เลย

เราพักกันที่ NYNA House / NYNA Coffee ที่นี่จะเป็นคาเฟ่ และมีห้องพักอยู่ชั้นบนค่ะ

และไป Cafe Giang- Hanoi Train Street

จุดนี้อิหยังว่ะ สุด มันดูคลาสสิคนะ ฟิลล์มันคล้ายกับ รถไฟร่มหุบบ้านเรา ยังมีรถไฟวิ่งอยู่จริงๆ วันละ 2 รอบ

มีคาเฟ่อยู่ริมทางรถไฟเพียบ แต่เราไม่สามารถเดินเข้าไปเองได้ ต้องมีคนของร้านเดินพาเข้าไปเท่านั้น

ถ้าไม่มีคนพาเข้าไป จะมีเจ้าหน้าที่คอยกั้นไม่ให้เข้า อันนี้คืองงมาก

และมื้อเย็น เรากินกันที่ NEM NUONG XUAN DAN เป็นแหนมเนืองที่อรอ่ยมาก ถ้าไปฮานอย ต้องร้านนี้บอกเลย ถ้าไปถึงร้าน

เห็นร้านเงียบๆ โล่ง ๆ อย่างง เพราะเรางงมาแล้ว แต่พอเข้าร้านไปจะมีพนักงานบอกให้เราขึ้นไปชั้น 2 ก็จะเริ่มคึกคัก

ดูเป็นร้านอาหารปกติ

วันที่ 5 ของทริปคือวัน เดินทางกลับ

วันนี้ก็ตื่นสายๆ ได้ แบบไม่รีบร้อน เราไปกันที่คาเฟ่ Cafe Camy ร้านน่ารักมาก น่ารักแบบตะโกน มี 6 ชั้น โทนสีพาสเทลขั้นสุด

และตอนเที่ยงเดินไปกินข้าวกันที่ ร้านข้าวราดแกง COM TAM TU MAP อยู่ไม่ไกลกัน เดินได้สบายๆ

หลังจากนั้นก็กลับมาเช็คเอ้าท์ที่พัก และเดินทางกลับค่า

สรุปค่าใช้จ่าย ในทริปนี้

คนละประมาณ 11,900 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)

และต้องบอกก่อนว่า ทริปนี้พวกเราไปกันทั้งหมด 7 คน

จะหารกันเรื่องค่ากิน ค่ารถทั้งหมด ค่าใช้จ่ายที่บอกจะเป็นค่าใช้จ่ายจริง ต่อคน ที่พวกเราหารกันเรียบร้อยแล้ว

1. ค่าที่พัก 3 คืน คนละ 3,790 บาท

2. ค่าเดินทาง คนละ 2,360 บาท – ค่ารถตู้รับ-ส่ง สนามบิน คนละ 210 บาท – ค่ารถไฟจาก ฮานอย – ซาปา 1,200 บาท/คน- ค่ารถตู้จากซาปา -ฮานอย คนละ 950 บาท

3. ค่าอาหาร คาเฟ่ และจิปาถะต่างๆ คนละ 3,750 บาท

4. ค่าซิม 200บาท/คน

5. ค่าตั๋วขึ้นไปยอดฟานซิปัน 1,800 บาท/คน

รวม 11,900 บาท

#แฟนพาเที่ยว #เที่ยวเวียดนาม #ซาปา #Sapa #เวียดนาม #Vietjet #เที่ยวนี้บินเวียตเจ็ท #เวียตเจ็ทตัวจริงสุวรรณภูมิ

My Life My Travel