Fukuoka …ดีกว่าที่เราคิดไว้

.

 ต้องบอกก่อนเลยว่า Fukuoka ทริปนี้คือครั้งแรกของเรา 

เป็นครั้งแรกที่ทำให้เรารู้สึกว่า ที่นี่ดีจัง มีอะไรหลายๆ ที่เราคาดไม่ถึง

มีหลายๆ สถานที่ ที่ราพูดคำว่าชอบจังออกมาบ่อยมาก

มีหลายสถานที่ ที่หันมองหน้ากัน เดี๋ยวมาอีกรอบนะ

และเราเชื่อว่า ทุกคนจะชอบเหมือนๆ กับเรา   การตกหลุมมันไม่ได้ง่ายนัก

แต่ Fukuoka ทำให้เรารักได้ตั้งแต่แรกเจอ

.

รีวิวนี้นุ้ยรวบรวมไว้หลายพิกัดมากๆ ทั้งที่พัก ที่กิน คาเฟ่  ศาลเจ้า และพิกัดยอดฮิต ถ้าพร้อมแล้ว

เก็บกระเป๋า แล้วกระโดดขึ้นเครื่องตามมาเลยค่ะ

.

#สำหรับการเดินทาง

ทริปนี้เราบินตรงสุวรรณภูมิ สู่ Fukuoka ด้วยสายการบิน Vietjet  เวลาดีงาม บินดึงถึงเช้า พร้อมออกเที่ยวเลย  

และไม่ต้องกลัวหิว เพราะมี  Sky Cafe ที่มีทั้งอาหารร้อน และเบเกอรี่ เครื่องดื่มอร่อยๆ พร้อมเสิร์ฟบนเครื่อง  หรือจะจองล่วงหน้าตอนจองตั๋วเลยก็ได้น๊า รับรองว่าได้หม่ำของอร่อยแน่นอน

จองเลยที่ https://th.vietjetair.com

.

.

การเดินทางใน Kyushu จากสู่ Fukuoka ไปเมืองต่างๆ นั่ง shinkansen แบบชิลล์ แนะนำใช้ซื้อพาสไปนะคะ  คุ้มมากๆ ใช้นั่ง Yufuin no mori ได้ด้วย  ซื้อพาสผ่าน Klook นะคะ

https://bit.ly/447dAXA

.

#Fukuoka #Klook #Japan #เวียตเจ็ทตัวจริงสุวรรณภูมิ #ThaiVietjet #Vietjet

#สำหรับการเดินทาง

ทริปนี้เราบินตรงสุวรรณภูมิ สู่ Fukuoka ด้วยสายการบิน Vietjet  เวลาดีงาม บินดึงถึงเช้า พร้อมออกเที่ยวเลย  

และไม่ต้องกลัวหิว เพราะมี  Sky Cafe ที่มีทั้งอาหารร้อน และเบเกอรี่ เครื่องดื่มอร่อยๆ พร้อมเสิร์ฟบนเครื่อง  หรือจะจองล่วงหน้าตอนจองตั๋วเลยก็ได้น๊า รับรองว่าได้หม่ำของอร่อยแน่นอน

จองเลยที่ https://th.vietjetair.com

Yufuin

ถ้าพูดถึง คิวชู ฟุกุโอกะ แน่นอนว่า ชื่อของ yufuin จะแว๊บเข้ามาในความรู้สึกก่อนที่อื่นๆ เลย  และแน่นอนว่าเราไม่พลาด

เป็นเมืองที่น่ารักมาก ทุกอย่างดูน่ารัก คิมิโนโตะไปหมด ร้านรวงต่างๆ ที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ โอ๊ยยยย มันรวมใจกันน่ารักอะไรได้ขนาดนั้น   และการไป Yufuin มีไฮไลท์ตั้งแต่การออกเดินทางเลยค่ะ เพราะมีรถไฟสีเขียวน่ารักขบวนนี้ชื่อ Yufuin No Mori  ซึ่งจะมีให้บริการวันละ 3 รอบเท่านั้น  ซึ่งจะต้องจองที่นั่งล่วงหน้าเท่านั้น  เพราะทุกตู้บนขบวนจะเป็นตู้ Reserve ทั้งหมด  แต่ถ้าใครไม่ได้จอง จะมีรถขบวนธรรมดา 1 รอบต่อวันเท่านั้น

แนะนำว่าจองนะคะ จะได้ไม่พลาดความน่ารักของรถขบวนนี้ และบนรถยังมีตู้ที่ให้บริการขายอาหารและเครื่องดื่มด้วย

มาถึงปุ๊บ เราไม่อยากให้ทุกคนตั้งพิกัดว่าจะต้องไปที่ไหน ต้องเดินไปร้านไหน แต่อยากให้ลองเดินเล่นไปเรื่อยๆ เจอร้านไหนที่ชอบก็แวะเลย  อยากกินอะไรก็กินเลย รับรองว่าจะได้ประสบการที่ดีกว่าแน่นอน 

สำหรับมุมนี้ Yufuin Floral village หมู่บ้านเล็กๆ สีเหลืองมัสตาร์ด คือพิกัดที่เราเชื่อว่า ดึงดูดทุกคนให้มาที่นี่  ที่นี่น่ารักมาก แต่คนก็เยอะมากล้านแปดเลยจ้า ภายในหมู่บ้านจะเป็นร้านขายของที่ระลึก ของฝาก และร้านอาหารทั้งหมดเลยค่ะ

เดินไปเรื่อยๆ จนถึง Kinrin Lake  ทะเลสาบเล็กๆ ที่เล็กจริงๆ นุ้ยว่าที่นี่จะสวยในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะมีต้นเมเปิ้ลเยอะมากๆ

Kumamoto Catsal

เราตัดสินใจไป Kumamoto  Catsal เพราะเป็นอีกหนึ่งพิกัด ที่มีซากุระสวยมากๆ และที่คูมาโมโตะ มีเจ้าหมีตัวดำแก้มแดง kumamon น้องน่ารักมากๆ       ปราสาทคูมาโมโตะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองนี้ ที่มาแล้วห้ามพลาด เป็นปราสาที่สวยโดยเด่นมากๆ  แม้จะไม่ใช้ช่วงซากุระ ปราสาทแห่งนี้ก็ยังคงสวยมากๆ  

การเดินทางจาก Fukuoka นั่ง shinkansen แค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

Karatomari ร้านหอยนางรมย่าง

เป็นร้านที่เราชอบมาก   ตั้งอยู่ที่ริมทะเล เกาะอิโตชิม่า  บรรยากาศคือดีมาก มันได้ฟิลล์มการนั่งปิ้งย่างอาหารซีฟู้ดริมทะเลสุดๆ และในช่วงที่เราไปคืออากาศดีมาก เย็นสบาย ลมพัดตลอดเวลา และสีน้ำทะเลคือสวยสุด ๆ ตัดกับสีเหลือของดอกไม้

ช่วงที่เหมาะสำหรับการไปที่นี่คือเดือนพฤศจิกายน – เมษายน จะเป็นช่วงที่คนญี่ปุ่นนิยมกินหอยนางรมกัน เป็นที่หอยนางรมอร่อยที่สุด   ที่ร้านนี้จะไม่ได้เป็นบุฟเฟ่ต์น๊า  แต่จะเป็นการเลือกซื้อ สิ่งที่เราอยากทาน มีทั้งหอยนางรม โอตาเตะ กุ้ง หมึก และเมนูข้าว    และที่ร้านจะมีบริการเตาปิ้งย่าง น้ำจิ้ม และอุปกรณ์บริการฟรี

inn The Park.

ฟุกุโอกะรอบนี้คือดีต่อใจแบบสุดๆ อากาศดีมากเย็นสบายจนบางช่วงอาจจะมีหนาวสั่นบ้าง

และได้เจอแต่สถานที่สวยๆ โดยเฉพาะที่นี่เลย inn The Park ที่พักสไตล์ Glamping ริมทะเล

เป็นโดมขนาดใหญ่ สีขาว บรรยากาศดีมากๆ กลางวัน วิวทะเลสุดสวย ช่วงเย็น Sunset สุดโรแมนติค

ยามค่ำคืน นั่งผิงไฟท่ามกลางลมหนาวย่างมาชเมลโล่ ห้องอาบนำเป็นมีออนเซ็น นั่งแช่น้ำอุ่นๆ ลมพัดเบาๆ ดูวิวเมือง

ลองคิดภาพตามน๊า ว่ามันจะฟินขนาดไหน ถ้าใครไปเที่ยวฟุกุโอกะ ลองไปพักที่นี่ดู

ข้อควรรู้

– อาหารเช้า อาหารเย็น เซ็ตบาบีคิวต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น

– ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ รวมเป็นแบบญี่ปุ่น สะอาดมากไม่ต้องกังวล

– มีกิจกรรมให้ทำเยอะ ผู้ใหญ่ชอบ และเด็กๆ ก็น่าจะชอบมาก

Sakurai Futamigaura’s Couple Stones

เป็นภาพแรกๆ ที่เราเคยเห็นของ Fukuoka เลย  สำหรับเสาโทริอิสีขาวริมทะเล  และด้านหลังคือ  Meoto Iwa หินคู่รัก

เป็นมุมที่เราชอบมาก  มันดูน่ารัก ดูมีพลังบางอย่างที่สื่อถึงความรักจริงๆ  เขาว่ากันว่าคนโสด ให้มาขอคู่ที่นี่ก็ได้จะคู่ด้วยน๊า

บริเวรนี้ เป็นเส้นทางริมทะเลที่ขับรถเล่นสวยมากๆ  และใกล้ๆ กันมีคาเฟ่มากมาย  เราชอบคาเฟ่นี้มาก  ถ้าใครไปดูหินคู่รัก อย่าลืมแวะคาเฟ่นี้น๊า สามารถเดินจากหินคู่รักมาได้เลย 

วัดนันโซอิน Nanzoin Temple

เอาใจสายมูกันบ้าง  นี้คืออีกหนึ่งพิกัดที่ห้ามพลาดจริงๆ เพราะที่วันนี้มี พระนอน เป็นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก วัดนี้เน้นมาขอพรเรื่องโชคลาภเป็นหลักเลยน๊า เพราะขณะที่สร้างองค์พระต้องใช้เงินจำนวนมาก และเจ้าอาวาสถูกหวย หลายงวดขณะที่กำลังสร้าง และนำเงินนั้นมาสร้างจนสำเร็จ

วิธีการเดินทาง

จาก สถานี Hakata  นั่งรถไฟ  JR สาย Sasaguri Line ไปลงที่สถานี Kido Nanzoin-mae และเดินต่ออีกประมาณ  5 นาที ก็ถึงวัดแล้วจ้า  

La Brioche


เป็นร้านเบเกอรี่ที่เราแวะ ระหว่างเดินกลับ จากสวนนิชิพาร์ค
เพราะความอยากดื่มกาแฟมากๆ ซึ่งแอบสังเกตไว้ตั้งแต่ขาไปว่า บรรยากาศหน้าร้านคือฟิลล์ยุโรปลอยมาเลย แต่สิ่งทำให้เราแปลกใจคือ มีเพียงเราที่นั่งจิบกาแฟ และในตอนนั้น มีคนหมุนเวียนเดินเข้าร้าน เกิน 20 คน ในช่วงเวลาไม่เกิน 10 นาที หลายคนตั้งใจเดินมา บางคนเห็นหน้าแล้วดีใจ จนเราสังเกตเห็นน้องผู้ชาย ที่แวะมาแล้วรอบแรก และกลับมาอีกครั้งพร้อมครอบครัว
และได้ยินสำเนียง และภาษาคุ้นหู นี่ก็เลยถามคุณแม่ของน้องว่า เป็นร้านดังเหรอคะ นุ้ยเห็นคนเยอะมากเลย คุณแม่บอกว่า ลูกชายบอกว่า อร่อย และเป็นร้านดัง

และนุ้ยผู้อิ่มขนมมันหวานมากๆ และนั่งนั่งมองอยู่นาน ตัดสินใจเข้าไปซื้อขนมมาลอง มันอร่อยจริงอร่อยมาก และราคาคือดีงาม

Kushida Shine
เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในเมืองฟุกุโอกะเลยค่ะ เมื่อเข้าไปได้ใน เราสัมผัสได้ถึงเสน่ห์
ความมีมนต์ขลัง ยกให้เป็นศาลเจ้าที่เก่าแกที่สุดแห่งหนึ่งในฟุกุโอกะเลยค่ะ เพราะวิหารหลังแรกก็มีอายุนับพันปี ผู้คนจึงนิยมมาขอเพื่อนเรื่องสุขภาพ ความแข็งแรง อายุที่ยืนยาว และการประสบความสำเร็จในชีวิต
และที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นสถานที่จัดงานในเทศกาล Hakata Gion อีกด้วย ที่จะจัดในช่วงเดือนกรกฎาคม เป็นงานประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของฟูกุโอกะเลยนะ

Tamuya

ร้านขนมเล็กๆ ถ้าไม่สังเกตให้ดี คุณอาจจะพลาดของอร่อย
ร้านนี้อยู่ระหว่างทางเดิน จากสถานีรถไฟ ไป Nishi Park ร้านจะอยู่ด้านขวามือ
มีทางเข้าเล็กๆ ข้างกำแพง ร้านนี้จะขายเฉพาะขนมที่ทำจาก Sweet Potato
สายมันหวานเลิฟเว่อร์แบบเรารักร้านนี้มาก ใครชอบมันหวาน บอกเลยว่าต้องแวะ

ร้านนจะไม่มีที่นั่งนะคะ ซื้อกลับบ้านได้อย่างเดียว ตอนนุ้ยเข้าไป ซื้อแค่ 2 ชิ้น พอกินปุ๊บอร่อย ซื้อเพิ่มยกกล่องเลย

สวนโอโฮริ Ohori Park


สวนสาธารณะขนาดใหญ่กลางฟุกุโอกะ เป็นพิกัดที่เหมาะสำหรับการไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะในฤดูที่มีซากุระบานสะพรั่ง สวนแห่งนี้ยิ่งมีความสวยเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณเลย ในบริเวณสวน มีทั้งบึงน้ำให้เรานั่งรับลม หรือจะพายเรือเล่นก็ได้ และยังมีซากปราสาทฟูกุโอกะและสวนมาอิซูรุด้วย

การเดินทาง นั่ง Subway ลงสถานี Ohori Koen

Nishi Park


เป็นอีกหนึ่งพิกัด ในเมืองฟุกุโอกะ ที่ซากุระสวยมากๆ เลยค่ะ ตั้งอยู่บนเนินเขา มีต้นซากุระนับพันต้น สวยตั้งแต่ทางเดินเข้าไปด้านใน และบริเวณบันได สวยมาก
เมื่อเดินไปสุดทางเจอบันได ขึ้นไปจะมี ”ศาลเจ้าเทรุโมะ” หรือจะเรียกว่า ศาลเจ้าโคอุน เป็นศาลเจ้าประจำตระกูล Kuroda เป็นผู้ปกครองเมือฟุกุโอกะในอดีต เขาบอกว่าเครื่องรางที่นี่ “คัตสึโมริ” เป็นเครื่องรางที่จะทำให้เราชนะทุกอย่าง เพราะความเก่งกาจของซามูไรตระกูลนี้
.

การเดินทาง นั่ง Subway ลงสถานี Ohori Koen เดินต่อประมาณ 15 นาที

Kurumi


เป็นอีกหนึ่งร้าน ที่อยู่ในละแวกเดียวกัน เป็นคาเฟ่เล็กๆ 2 ชั้น สุดคิ้วท์
ฟิลล์ญี่ปุ่นมากแม่ ก็นี่มันญี่ปุ่นนนนน ร้านนี้จะมีพื้นที่ให้นั่งชิลล์ๆ ด้วย เราสองคนผู้ที่อิ่มมาก ทั้งเครื่องดื่มและขนม ก็ไม่รีรอ ลองอีกสักครั้ง ขนมอร่อยมาก และเป็นร้านที่ผู้คนหลั่งไหลกันมาเยอะมากๆ อีกเช่นเคย เป็นร้านที่ต้องต่อคิวเพื่อเข้าร้านกันเลย
ราคาขนมและเครื่องดื่มของที่นี่ จะแบ่งเป็นสองแบบ ซื้อกลับบ้านจะถูกกว่านั่งทานในร้าน

Nokonoshima Island Park หรือคุ้นเคยกันดีว่าเกาะดอกไม้


เป็นอีกพิกัดที่น่ารักมากๆ อยากให้มาจริงๆ สำหรับฤดูซากุระ ดอกไม้สีเหลืองริมทะเล
ตัดความขาวฟูอมชมพูของซากุระ เป็นอะไรที่น่ารักมาก เกาะแห่งนี้ได้ชื่อว่าเกาะดอกไม้เพราะ
ตลอดทั้งปีจะมีดอกไม้หลากหลายสายพันสลับสับเปลี่ยนกันออกดอกมาอวดโฉมให้เราได้ชมกัน ถ้าใครไปฤดูอื่นๆ ก็สามารถแวะไปได้น๊า
.
การเดินทาง นั่งรถบัสสาย 300.301.302 ได้ทั้งจาก Tenjin และ Hakata ไปลงที่ท่าเรือเฟอรี่ Noko dosenba(ferry terminal) จากนั้นก็นั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟาก และต่อรถบัส Nishitetsu bus อีกแปบเดียวก็ถึงเลย
ที่นี่จะมีค่าเข้าสวน 1200 เยน

ปิดท้ายกันที่ Dazaifu

ไปขอพรกันที่ Dazaifu Tenmangu Shrine
จะเรียกที่นี่ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของฟุกุโอกะอีกหนึ่งสถานที่เลยก็ว่าได้นะคะ
อายุของศาลเจ้าแห่งนี้ก็นับพันปีเลยนะคะ มีชื่อเสียงในการขอพรด้านการเรียนการศึกษา และนิยมมาลูบหัวของรูปปั้นวัวเพื่อขอพรด้านการศึกษา ความสำเร็จ ภายในวัดจะมีถึง 10 ตัวเลยค่ะ
..
การเดินทาง ไปได้ทั้งรถไฟ และบัส นุ้ยคิดว่ารสบัสจะสะดวกกว่า เพราะนั่งต่อเดียวถึงเลย
รถบัส : ขึ้นรถบัสที่สถานีรถบัส Hakata Bus Terminal 1F

บริเวณด้านหน้าศาลเจ้า มีถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านอาหารขนมกินเล่นต่างๆ
และขายของที่ระลึกอีกเพียบเลย มาพิกัดนี้พิกัดเดียว ได้ครบเลยทั้งขอพร กินเที่ยว
สิ่งที่ไม่ควรพลาดในถนนเส้นนี้เลยคือ ขนมโมจิบ๊วย ข้าวหน้าเมนเทนโกะ และต้องไม่ลืมแวะสตาร์บัคด้วยนะ
เขาบอกว่าสตาร์บัคที่นี่สวยติดอันดับ 10 ที่สวยที่สุดในโลกเลยนะ

My Life My Travel

Share
Published by
My Life My Travel