ตามล่าหาใบไม้แดง กับ 15 แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วญี่ปุ่น
.
.
ความงดงามของฤดูใบไม้ร่วงในญี่ปุ่นที่จะมีใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดง
ช่างดึงดูดและเย้ายวนให้เราจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นเพื่อชมความงามเหล่านี้ยิ่งนัก
โดยเฉพาะตั้งแต่ปลายเดือนตุลาเป็นต้นไปเริ่มจะมีใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีแดงให้เราได้ชมกันแล้ว
หากเพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่ชอบชมธรรมชาติ อยากดูใบไม้เปลี่ยนสี ชอบถ่ายรูปสวยๆ กับธรรมชาติอันแสนสดใสล่ะก็
การจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นช่วงนี้นั้นเหมาะมากๆ เลย
และใครอยากได้ตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นราคาถูกแสนถูกก็ต้องจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกับ Traveloka
เพราะนอกจากจะไม่มีค่าธรรมเนียมในการจองแล้ว ยังมีส่วนลดให้เพื่อนๆ ได้ใช้ตลอดด้วยนะ
หากใครยังลังเลใจอยู่ ตามเราไปดู 15 แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วญี่ปุ่นกันก่อนได้เลย
ทางไปจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น >> https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-japan
.
.
.
.
1. ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko Lake)
เรามักจะเห็นภาพภูเขาไฟฟูจิพร้อมกับต้นเมเปิ้ลสีแดงกันอยู่บ่อยๆ
ดังนั้นสถานที่แรกที่ควรค่าแก่การไปชมใบไม้แดงก็คือที่ทะเลสาบคาวากูจิโกะ
สถานที่ที่เพื่อนๆ จะได้ชมความงามหลากหลายรูปแบบ ทั้งต้นเมเปิ้ลสีแดง ทะเลสาบคาวากูจิโกะ และภูเขาไฟฟูจิ
ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของญี่ปุ่นทั้งนั้น ดังนั้นจะพลาดได้อย่างไรจริงมั๊ย?
พิกัด : https://goo.gl/maps/4a6jCWL2absuG4dE9
.
.
2. โมมิจิ ไคโร (Momiji Kairo)
โมมิจิ ไคโรเป็นสถานที่ที่เพื่อนๆ จะได้พบกับอุโมงค์ต้นเมเปิ้ลสีแดง ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของทะเลสาบคาวากูจิโกะ
ซึ่งเวลาที่ต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างเต็มที่ก็จะอัดแน่นโค้งเป็นอุโมงค์สวยมาก
เวลาที่ใบเมเปิ้ลร่วงหล่นพื้นด้านล่างทางสายน้ำเก่าก็จะเหมือนทางเดินพรมแดงเลยทีเดียว
พิกัด : https://goo.gl/maps/jjQ4j9oXhcVob1Fa6
.
.
3. ภูเขาทาคาโอะ (Mount Takao)
บริเวณภูเขาทาคาโอะในเมืองฮาจิโอจิ (Hachioji) ในกรุงโตเกียวมีต้นเมเปิ้ลที่พร้อมเปลี่ยนเป็นสีแดงให้เพื่อนๆ ชมเพียบ
มีจุดชมใบไม้แดงหลายจุด เช่น จุดชมวิวKonpiradai วัดยาคุโออิน (Yakuoin Temple) ฯลฯ
ที่เพื่อนๆ สามารถเลือกเดินทางขึ้นมาด้านบนเองได้หลายวิธี จะเดิน จะนั่งเคเบิลคาร์ นั่งลิฟต์เก้าอี้ก็ได้
อีกทั้งที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวของเมืองโตเกียวท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ด้วยนะ
ใครเบื่อชมวิวบนตึกสูงแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็สามารถเดินทางมาที่นี่ได้เลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/GZrhefQvg7u8m3Sz6
.
.
4. สวนคิโยสุมิ (Kiyosumi Garden)
สวนคิโยสุมิเป็นสวนที่ร่มรื่นมากในโตเกียว แต่เดิมที่นี่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของพ่อค้าในสมัยเอโดะ
และได้เปลี่ยนมาเป็นของขุนนางญี่ปุ่น ซึ่งพอตกเป็นของขุนนางจึงก่อให้เกิดสวนสวยๆ แบบฉบับญี่ปุ่นนี่เอง
ซึ่งเพื่อนๆ สามารถไปชมใบไม้เปลี่ยนสีกันได้ แถมภายในยังมีสระน้ำใสที่สามารถมองเห็นปลา เห็นเต่าได้ด้วย
นกเป็ดน้ำก็มีให้ชมด้วยนะ อีกทั้งยังมีโรงน้ำชาสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม มีห้องโถงอนุสรณ์ของจักรพรรดิไทโช สวนหิน ฯลฯ ให้เราได้ชมกัน
พิกัด : https://goo.gl/maps/xVg88dRkBpdkErHT8
.
.
5. สวนโคอิชิกาว่า-โคระคุเอ็น (Koishikawa Korakuen)
สวนโคอิชิกาว่า-โคระคุเอ็นในโตเกียวเป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่มีต้นเมเปิ้ลสีแดงเปลี่ยนสีให้เราได้ชมอย่างหนาแน่น
ใครอยากถ่ายรูปกับต้นเมเปิ้ลสีแดงเยอะๆ มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่ แถมภายในสวนยังมีความร่มรื่นมาก
คนญี่ปุ่นหลายคนมักจะมานั่งวาดรูปริมสระน้ำกัน ในสวยมีสะพานหลายๆ สะพานให้เพื่อนๆ เดินถ่ายรูปด้วยนะ
รับรองว่าเต็มอิ่มกับต้นเมเปิ้ลแดงและธรรมชาติภายในสวนนี้อย่างแน่นอน
พิกัด : https://goo.gl/maps/8K7TgKpiiVweYxUR6
.
.
6. สวนริคุงิเอ็น (Rikugien Garden)
เพื่อนๆ คนไหนอยากชมใบไม้แดงท่ามกลางสวนสไตล์ญี่ปุ่นสมัยเอโดะในโตเกียว
สามารถเดินทางมาที่สวนริคุงิเอ็นได้เลย ซึ่งความพิเศษของที่นี่นอกจากจะมีต้นเมเปิ้ลแดงสวยๆ ให้ชมในตอนกลางวันแล้ว
ตอนกลางคืนก็สามารถชมได้เช่นกัน เพราะตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟส่องสว่าง ได้ความรู้สึกของการชมเมเปิ้ลที่โรแมนติกไปอีกแบบ
พิกัด : https://goo.gl/maps/zEeYG6eo6vQQbzm16
.
.
7. วัดไดโกจิ (Daigoji Temple)
วัดไดโกจิเป็นวัดเก่าแก่แห่งเมืองเกียวโตที่มีอายุประมาณ 1,200 ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย
โดยไฮไลท์ของที่นี่ก็คือการมาชมใบไม้แดงที่มีอยู่ทั่วบริเวณวัด โดยเฉพาะตรงอาคารเบนเทนโดะ (Bentendo Hall) ที่ติดกับสระน้ำ
ซึ่งมีศาลาไม้ตั้งอยู่ นอกจากนี้บริเวณทางเข้าวัดหรือซานโบอิน(Sanboin) บริเวณสวนรอบๆ ก็สามารถชมใบไม้แดงได้เช่นกัน
พิกัด : https://goo.gl/maps/2ujHX81R11ZPQXu4A
.
.
8. วัดโคไดจิ (Kodaiji Temple)
วัดโคไดจิตั้งอยู่ในย่านฮิกาชิยาม่าของเกียวโตที่มีสวนญี่ปุ่นสไตล์ Tsukiyama เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก
มีสวนหินสไตล์เซนที่ดูดีและดูสงบ ซึ่งบริเวณสวนหินถือเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้เพราะมีต้นเมเปิ้ลที่พร้อมเปลี่ยนสีเป็นสีแดงให้เราได้ชมกัน
พิกัด : https://goo.gl/maps/vghV44GcUuHach1x6
.
.
9. พระราชวังเซนโต (Sento Imperial Palace)
พระราชวังเซนโตตั้งอยู่ตรงข้ามกับพระราชวังเกียวโตอิมพีเรียล ซึ่งบริเวณสวนเซนโตนี้มีสวนและบ่อน้ำที่สวยงาม
เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์มาก
เนื่องจากพระราชวังเซนโตยังคงใช้เป็นที่พักของเจ้าชายและเจ้าหญิงของราชวงศ์ในระหว่างที่เสด็จมาที่เกียวโต
โดยอาคารต่างๆ ในพระราชวังจะไม่อนุญาตให้เข้าไปภายใน แต่สวนของพระราชวังเพื่อนๆ สามารถเดินชมได้ แถมฟรีอีกด้วนะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/hVe3zfBUVKZJsp9M9
.
.
10. หุบเขานารูโกะ (Naruko Gorge)
หุบเขานารูโกะขึ้นชื่อว่าเป็นหุบเขาที่สวยที่สุดของภูมิภาคโทโฮคุ ประมาณปลายเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน
บริเวณหุบเขาแห่งนี้จะเต็มไปด้วยความงดงามของสีสันต้นไม้ที่เปลี่ยนสีนั่นเอง
ซึ่งเพื่อนๆ สามารถไปชมได้ที่บริเวณศาลา Narukokyo Resthouse ทางทิศตะวันตกของหุบเขา และบริเวณสะพานโอฟุคาซาว่า (Ofukazawa Bridge)
จะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีและความงดงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มตาแถมสุดลูกหูลูกตากันเลยทีเดียว
พิกัด : https://goo.gl/maps/RASX69eGYtNmJ6X16
.
.
11. วัดบิชามอนโด (Bishamon-do Temple)
วัดบิชามอนโด วัดแห่งเทพเจ้าขอความโชคดีที่มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมอย่างจุใจเสมือนอุโมงค์ต้นไม้เลยทีเดียว
โดยวัดบิชามอนโดเป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในแถบยามาชินะของเกียวโต
เมื่อเพื่อนๆ เดินทางไปชมใบไม้แดงที่นี่แล้วก็ต้องไม่พลาดไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดด้วยนะ
เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้ชีวิตมีแต่ความโชคดี ใครค้าขายก็จะเฮงๆ ปังๆ กันเลยทีเดียว
พิกัด : https://goo.gl/maps/A1AxThT1zrBvcCCL9
.
.
12. วัดเทนริวจิ (Tenryuji)
วัดเทนริวจิเป็นอีกหนึ่งวัดในย่านอาราชิยาม่าของเกียวโตที่สำคัญสำหรับผู้ที่นับถือนิกายเซน
โดยวัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO อีกด้วย
เมื่อเพื่อนๆ มาที่วัดเทนริวจิก็จะได้พบกับใบไม้แดงตั้งแต่หน้าประตูเข้าวัดเลย อีกทั้งภายในวัดยังมีสวนโซเจนชิ (Sogemchi Garden)
ที่มีบ่อน้ำขนาดใหญ่และต้นเมเปิ้ลสีแดงล้อมรอบสระ เป็นทัศนียภาพที่สวยงามอลังการมาก
โดยด้านหลังของสวนแห่งนี้สามารถเดินไปยังป่าไผ่อาราชิยาม่าได้ด้วยนะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/SZNeE1XbjCFgspyZ8
.
.
13. วัดชินเนียวโดะ (Shinnyodo Temple)
ใบไม้เปลี่ยนสีที่วัดชินเนียวโดะ แห่งกรุงเกียวโตนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรค่าแก่การไปเยือน
ด้วยความศักดิสิทธิ์ของวัดศาสนาพุทธนิกายเท็นไดที่มีอายุกว่าพันปี ยังมีสถาปัตยกรรมสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมให้เราได้ชมกันด้วย
ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นพระโพธิสัตว์ มีทางเดินหิน หลังคากระเบื้อง สวนญี่ปุ่น โคมไฟหิน เจดีย์ไม้
ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยต้นเมเปิ้ลและต้นกิงโกะจำนวนมากที่เพื่อนๆ สามารถเดินชมได้อย่างเพลิดเพลิน
พิกัด : https://goo.gl/maps/hwCwCqx6URH7PfKM9
.
.
14. สวนกวางนารา (Nara Park)
สวนกวางนาราเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนาราที่ควรค่าแก่การมาเที่ยวช่วงใบไม้เปลี่ยนสีมาก
เพราะทั้งสวนจะเต็มไปด้วยใบไม้สีแดง แถมเพื่อนๆ ยังสามารถใกล้ชิดกับกวาง ให้อาหารกวางได้ด้วย
ดังนั้นเพื่อนๆ จะได้รูปถ่ายสวยๆ นอกจากต้นเมเปิ้ลก็กวางน้อยด้วยนี่แหละ
พิกัด : https://goo.gl/maps/whcJPcB9A7D1ZGhR6
.
.
15. ทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada)
ทะเลสาบโทวาดะเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮาชิมันไต (Towada-Hachimantai National Park)
และเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะฮอนชู ที่ว่ากันว่าเมื่อแสงแดดจากท้องฟ้าตกกระทบกับผืนน้ำจะสวยใสราวกับกระจกเงา
เมื่อยามถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขาที่อยู่รอบทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีแดง สีส้มทั่วทั้งภูเขา ซึ่งเพื่อนๆ
สามารถล่องเรือชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีและทะเลสาบได้ เป็นอีกหนึ่งวิธีในการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าสนุกไม่น้อยเลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/mJjMmmEKRAfgcaqVA
.
.
เป็นอย่างไรกันบ้าง แค่เห็นรูปใบไม้แดงที่ญี่ปุ่นก็รู้สึกว่ามันสวยงามมากๆ แล้วใช่มั๊ยล่ะ?
บอกเลยว่าของจริงนั้นสวยกว่ามาก อลังการกว่ามาก ดังนั้นไม่ต้องคิดมากให้ยากวุ่นวาย
จองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นกับ Traveloka แล้วไปชมใบไม้แดงกันเลย
สามารถจองรถรับส่งสนามบินกับ Traveloka ได้ >> https://www.traveloka.com/th-th/airport-transfer
ทางไปจองตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่น >> https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-japan
.
.
.
.
credit ภาพ shutterstock by Traveloka