หากเบื่อที่จะบินไปเที่ยวใกล้ๆ ในเอเชีย หรืออยากแพลนเที่ยวแถบยุโรป
แนะนำอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ประเทศ “อังกฤษ”
ซึ่งอันที่จริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ที่มีดินแดนติดกับอีกหลายๆ ประเทศ
อาทิ สกอตแลนด์ เวลส์ หรือว่าไอร์แลนด์ แต่เดิมทีมีเมืองหลวงชื่อว่าวินเชสเตอร์ แล้วได้เปลี่ยนมาเป็นลอนดอนนั่นเอง
ซึ่งอันที่จริงแล้วใครที่สนใจจะมาเที่ยวที่อังกฤษ ก็สารถเลือกจองสายการบินแบบ Full Service
ที่มีเที่ยวบินไปยังอังกฤษ ผ่าน Traveloka ราคาไม่แรงมาก แถมยังมีเซอร์วิสครบ
เช็คราคา จองตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษกับ Traveloka คลิก https://www.traveloka.
.
อย่างเช่นสายการบิน Eva Air ข้อดีคือโหลดกระเป๋าได้มากถึง 30 กิโลกรัม
แถมยังมีอาหาร และเครื่องดื่มให้บริการระหว่างที่อยู่บนเครื่องด้วยนะ
.
.
.
ในบทความนี้ทางเราก็จะมาแนะนำที่เที่ยว “15 แห่งที่เป็นแลนด์มาร์คในอังกฤษ”
ซึ่งควรค่าเป็นอย่างยิ่งแก่การมาเยือน หรือว่าเช็คอิน
เพราะนอกจากจะมีประวัติเป็นมาอย่างยาวนานแล้วนั้น ยังเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญ จุดเช็คอินหนึ่งที่ห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าใครพร้อมแล้วมาแพลนไปพร้อมๆ กันเลยว่าแลนด์มาร์คเหล่านี้จะมีอะไรบ้าง
.
.
.
1. London Eye
“London Eye” หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “มิลเลเนียมวีล (Millennium Wheel)”
จัดเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญแห่งหนึ่งของอังกฤษ และเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงมากที่สุดในยุโรป
ใครที่มาเที่ยวอังกฤษ ต่างก็จะต้องมาเยือน และมาถ่ายรูปกับชิงช้าสวรรค์แห่งนี้
จนใครหลายๆ คนได้ยกให้ลอนดอนอาย ได้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากความสวยงามด้านนอก ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมากถ่ายรูปกันแล้วนั้น
การขึ้นไปชมวิวด้านบนก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แนะนำอีกเช่นกัน
.
.
2. หอคอยแห่งกรุงลอนดอน (Tower of London)
ไปอังกฤษทั้งทีไม่ควรพลาดที่จะไปเยือน “หอคอยแห่งกรุงลอนดอน (Tower of London)”
หนึ่งในแลนด์มาร์คที่มีความสำคัญต่อประเทศอังกฤษเป็นอย่างมาก เพราะแต่เดิมทีสถานที่แห่งนี้
ถูกใช้เป็นปราสาท หรือพระราชวังของอังกฤษตั้งแต่ในยุคกลาง ซึ่งในปัจจุบันนี้จะมีส่วนที่เปิดให้เข้าชมเป็นพิพิธภัณฑ์
แต่ก่อนนั้นสถานที่แห่งนี้จะเป็นทั้งที่พำนักของพระราชวงศ์ ที่ใช้ในการคุมขังนักโทษ และประหารนักโทษคนสำคัญ
ซึ่งหลายๆ คนก็มักจะบอกว่าที่หอคอยแห่งกรุงลอนดอนนี้นั้นมีความเฮี้ยนอยู่ไม่เบา
.
.
3. หอนาฬิกาบิกเบน (Big Ben)
จริงแล้วแลนด์มาร์คดังของอังกฤษที่ใครหลายๆ คนเรียกว่า “หอนาฬิกาบิกเบน (Big Ben)”
นั้นคือ หอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ (Clock Tower, Palace of Westminster) ในปัจจุบันได้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง
สำหรับหอนาฬิกาแห่งนี้จะมีความสูงประมาณ 96.3 เมตร สำหรับสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของหอนาฬิกาแห่งนี้
ได้สร้างขึ้นมาในสมัยวิติเรียโกธิค หลายๆ คนอาจจะคิดว่า บิ๊กเบน เป็นชื่อของหอนาฬิกา แต่ว่าแท้จริงแล้วบิ๊กเบน
นั้นเป็นชื่อของระฆังใบใหญ่ที่ตั้งอยู่ด้านบนนั้นตั้งหาก
.
.
4. สะพานทาวเวอร์บริดจ์ (Tower Bridge)
โด่งดังจนกลายไปเป็นแลนด์มาร์ค และฉากสำคัญในหนังฮอลีวู้ดหลายๆ เรื่องกับ “สะพานทาวเวอร์บริดจ์ (Tower Bridge)”
เป็นสะพานอีกหนึ่งแห่งที่สำคัญของกรุงลอนดอน ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มาเดินเล่นที่สะพานแห่งนี้
แถมยังเป็นจุดถ่ายรูปชื่อดังอีกด้วย ความโดดเด่นก็คือสถาปัตยกรรมที่สวยงาม
ที่รวมเอาทั้งสะพานยก และสะพานแขวนมาไว้ในที่เดียวกัน แถมยังประกอบไปด้วยหอคอยทั้งหมด 2 หอที่อยู่เคียงข้างกันอีกด้วย
ใครที่มาเที่ยวอังกฤษก็อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกับที่เที่ยวอังกฤษแห่งนี้ เพราะมีความงดงามทั้งในตอนกลางวัน และกลางคืน
.
.
5. โรงอาบน้ำโบราณ (The Roman Bath)
อีกหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างอันเก่าแก่ตั้งแต่ในยุคที่โรมันกำลังเฟื่องฟู และมีให้เห็นมาจนถึงปัจจุบัน
นั่นก็คือ “โรงอาบน้ำโบราณ (The Roman Bath)” เป็นโรงอาบน้ำที่ตั้งอยู่ที่เมืองบาธ (Bath)
อีกหนึ่งเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยวกัน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของลอนดอน
สำหรับจุดเด่นของเมืองนี้นอกจากเป็นเมืองที่มีตึกรามบ้านช่องสวยๆ ยังเป็นเมืองแห่งน้ำแร่ และน้ำพุร้อน
ส่วนโรงอาบน้ำโรมันก็เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองนี้ จะมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ หรือว่า “Great Bath”
ที่มีน้ำเป็นสีเขียวมรกต เป็นจุดเช็คอินที่ใครๆ ก็ย่อมมาถ่ายรูปคู่กับโรงอาบน้ำโบราณนี้
.
.
6. สวนสาธารณะไฮด์ปาร์ค Hyde Park
แม้ว่า “Hyde Park” อาจจะดูเป็นสวนสาธารณะที่ดูธรรมดา แต่จริงๆ แล้วก็ควรค่าแก่การมาเยือนไม่ใช่น้อย
เพราะว่าสวนสาธารณะแห่งนี้ ถือว่าเป็นเหมือนปอดกลางเมืองใหญ่อย่างลอนดอนเลยทีเดียว
ชาวเมืองลอนดอนส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเที่ยวที่สวนแห่งนี้ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย หรือว่าปิคนิค
ความโดดเด่นคือเป็นสวนขนาดใหญ่มีความกว้างมากถึง 900 ไร่ด้วยกัน นอกจากความงดงามของธรรมชาติ และบรรยากาศอันร่มรื่นแล้วนั้น
ภายในยังมีสถาปัตยกรรมอันน่าสนใจ ตั้งอยู่โดยรอบสวนสาธารณะแห่งนี้ด้วย
.
.
7. สโตนเฮนจ์ (Stonehenge)
หลายคนอาจจะสงสัยว่าแท้ที่จริงแล้ว “สโตนเฮนจ์ (Stonehenge)” คืออะไร แล้วทำไมเราต้องเรียกมันว่าสโตนเฮนจ์ด้วย
บ้างก็ว่าสโตนเฮนจ์นั้นเกิดจากฝีมือมนุษย์ บ้างก็ว่าเกิดจากสิ่งลึกลับ ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ สโตนเฮนจ์แห่งนี้เป็นแท่งหินจำนวนมากถึง 112 ก้อน
ที่ถูกตั้งเรียงเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง โดยลักษณะการตั้งวางก็จะแตกต่างกันออกไป
โดยจากการคำนวนของหิน ได้ค้นพบว่าอายุหินมีอายุมากกว่า 5,000 ปีมาแล้วด้วยกัน
ทั้งหมดนี้จะตั้งอยู่กลาง ทุ่งราบซัลลิสเบอร์รี่ (Salisbury Plain) ทางบริเวณส่วนตอนใต้ของเกาะอังกฤษ
.
.
8. พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum)
ใครเป็นนักท่องเที่ยวสายพิพิธภัณฑ์บอกเลยว่าต้องไป “พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum)”
ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของมนุษย์อันยิ่งใหญ่
และสำคัญมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ภายในนั้นจะมีการเก็บรวบรวมวัตถุ และของสะสมสำคัญเอาไว้มากมายกว่า 7 ล้านชิ้นด้วยกัน
โดยสิ่งของเหล่านั้น เป็นการรวบรวมสิ่งของสำคัญมาจากทั่วมุมโลกที่นับว่าประเมินค่าไม่ได้เลยทีเดียว
เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ก่อนตายควรต้องไปเยือน!
.
.
9. มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (Oxford University)
เชื่อว่า “มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด (Oxford University)” ต้องเป็นมหาวิทยาลัยในฝันของหลายคนอย่างแน่นอน
เพราะขึ้นชื่อเรื่องความเก่าแก่ เป็นมหาวิทยาลัยที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ และตั้งอยู่ในเมืองอ๊อกซฟอร์ด ของประเทศอังกฤษ
ความโดดเด่นของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นมหาลัยที่ขึ้นชื่อเรื่องการศึกษาที่ดีที่สุดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก
อีกทั้งยังถือเป็นมหาวิทยาลัยต้นแบบของมหาวิทยาลัยทั่วโลกอีกด้วย ใครที่ชอบดูหนังเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์
บอกเลยว่าอินอย่างแน่นอน เพราะบางฉากในหนังเรื่องนี้ ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้นั่นเอง
.
.
10. วิหารเมืองยอร์ค (York Minster and Historic Yorkshire)
“วิหารเมืองยอร์ค (York Minster and Historic Yorkshire)” หรือว่าอีกชื่อหนึ่งก็คือ “อาสนวิหารยอร์ก”
เป็นหนึ่งในโบสถ์สไตล์โกธิคที่สำคัญเป็นอันดับ 2 ของยุโรป รองจากอันดับหนึ่งที่อยู่ในประเทศเยอรมณี
ใครอยากชมสถาปัตยกรรมแบบโกธิคสวยๆ ก็สามารถไปเยือนโบสถ์แห่งนี้ได้ สำหรับโบสถ์นี้
ถือว่าเป็นโบสถ์ประจำตำแหน่งของอาร์ชบิชอปแห่งยอร์ก ตั้งอยู่ในเมืองยอร์ก ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ
หากใครที่มีโอกาสได้ไปเยือนที่เมืองนี้ ก็สามารถแวะไปเที่ยววิหารเมืองยอร์คกันได้
.
.
11. หอศิลป์แห่งชาติ (National Gallery)
หากอยากชื่นชมความงดงามของศิลปะในชาติไหนๆ แนะนำให้ไปเยือน “หอศิลป์แห่งชาติ (National Gallery)” ของเมืองนั้นๆ
อย่างเช่นหอศิลป์แห่งชาติในกรุงลอนดอนนี้ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้ไปเที่ยว เพื่อดูศิลปะ และจิตกรรมอันล้ำค่า
ที่หาดูได้อย่างยากยิ่งที่หอศิลป์แห่งชาติ ไฮไลท์ของหอศิลป์แห่งนี้ คือผลงานศิลปะที่แสดงอยู่ด้านใน
เพราะว่าเป็นผลงานที่หาดูที่ไหนไม่ได้แล้ว ของศิลปินระดับโลก อาทิ ดาวินซี และปิกัสโซ่ คนที่ชอบงานศิลปะ แนะนำว่าควรมา
.
.
12. Royal Botanic Gardens, Kew
สวนสวยๆ ในสไตล์อังกฤษ ที่หลายๆ คนเรียกย่อๆ กันว่า Kew Garden เป็นสวนที่ตั้งอยู่ในเมืองคิว มีความกว้างมากกว่า 121 เฮกเตอร์กันเลยทีเดียว
ใครที่ชอบชมความงดงามของธรรมชาติ หรือหาสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ กับดอกไม้ ต้นไม้ต่างๆ แนะนำว่าควรมา
เพราะว่าที่สวนแห่งนี้ ถือว่าเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย
โดยสวนนี้เป็นสวนของราชวงศ์อังกฤษ มีส่วนจัดแสดงดอกไม้ และพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่น่าสนใจ ที่มีการนำมาปลูกไว้จากทั่วทุกมุมโลก
.
.
13. ปราสาทวินเซอร์ Windsor Castle
ถึงแม้ว่าภายในประเทศอังกฤษ จะมีปราสาทมากมายหลายแห่ง
แต่ปราสาทที่จัดว่าเป็นปราสาทที่ใหญ่ และงดงามที่สุด มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของอังกฤษ ก็ต้องยกให้กับ “ปราสาทวินเซอร์ Windsor Castle”
เป็นปราสาทที่มีอายุอานามมากกว่า 1,000 ปีขึ้นไป เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่เนินเหนือแม่น้ำเทมส์
แม่น้ำเส้นที่สำคัญมากที่สุดของประเทศอังกฤษซึ่งในปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ยังคงใช้เป็นที่ประทับของราชวงศ์อังกฤษ
ภายในทุกวันนี้ก็ยังคงมีการจัดงานเลี้ยงต่างๆ และงานพระราชพิธีที่ปราสาทนี้ด้วย
.
.
14. ปราสาท Warwick
หากมีโอกาสได้แวะมาเที่ยวที่เมืองวอริก (Warwick) อยากให้ลองแวะมาเที่ยวที่ “ปราสาท Warwick”
หนึ่งในจุดแลนด์มาร์คชื่อดังของเมืองนี้ เป็นปราสาทแห่งยุคกลางที่ยังคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์
เปิดให้คนทั่วไป สามารถเข้ามาเที่ยวได้ในปราสาทแห่งนี้ ความโดดเด่นของปราสาทวอริก
คือจะมีการจัดงานเกี่ยวกับอัศวิน และขุนนาง เพื่อเป็นการรำลึกถึงประวัติศาสตร์ของปราสาทแห่งนี้
เป็นอีกหนึ่งปราสาทที่งดงามทั้งในฤดูร้อน และฤดูหนาว
.
.
15. The Sherlock Holmes Museum
ใครชื่นชอบหนังเรื่อง “The Sherlock Holmes” มาเยือนประเทศอังกฤษทั้งที ก็อย่าลืมมาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
ถึงแม้ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ได้รับความนิยมไม่น้อย
เพราะเป็นสถานที่ๆ ใช้เก็บรวบรวมผลงานต่างๆ ของนักสืบชื่อดัง แนะนำหากใครที่ชอบนิยาย หรือหนังเรื่องนี้ ก็สามารถปักหมุดเอาไว้
แล้วมาเที่ยวกันได้ โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็จะมีการเสียค่าเข้าประมาณ 10 ปอนด์ สำหรับผู้ใหญ่ และสำหรับเด็ก 8 ปอนด์ด้วยกัน
.
.
อันที่จริงแล้วภายในประเทศอังกฤษเอง ก็มีที่เที่ยวอีกหลายแห่งที่น่าสนใจไม่น้อย
สำหรับ 15 ที่เที่ยวอังกฤษ ที่เป็นแลนด์มาร์คนี้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง
เพราะที่อังกฤษเองก็มีเมืองเล็กๆ น้อยๆ มากมายที่ไม่ได้มีแค่ลอนดอน
หากใครที่อยากมาเที่ยวอังกฤษ แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษกับ Traveloka
ทางไปจอง >>
https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-england
แค่กดคลิกเลย จ่ายเงินง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีบัตรเครดิตก็จองได้โลก
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
..
.
.
(cr.รูปภาพที่ใช้ในการรีวิว จาก Traveloka)