วันพฤหัสบดี, 19 ธันวาคม 2567

มนต์เสน่ห์….แม่ฮ่องสอน

21 ก.ย. 2015
587

          + มนต์เสน่ห์….แม่ฮ่องสอน

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ปี 2556 นี้ ขอให้พี่น้องชาว BP ทุกคน มีแต่ความสุข สดชื่น  และสมหวังนะค่ะ คิดเงินได้เงิน คิดทองได้ทอง คิดอยากเที่ยวก็ได้ไป สุขภาพร่างกายแข็งแรงกันถ้วนหน้าเลย
ในโอกาสดีๆ แบบนี้ วันแรกของปี 2556 และวันแรกของ panitp โฉมใหม่ สาวนุ้ยขอพาไปเพื่อนไปเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นจังหวัดที่สาวนุ้ยชอบมาก และการเดินทางไปครั้งนี้ เป็นการไปครั้งที่สอง และรับรองได้ว่าจะมีครั้งที่สามแน่นอน
มาดูกันว่า เพราะอะไร สาวนุ้ยถึงได้เดินทางกลับไปที่นี้อีกครั้ง และทำไมถึงจะกลับไปอีก
————————————————————————————————————————-

การเดินทาง นุ้ยเลือกใช้เส้นทาง จากเชียงใหม่ เข้าแม่แจ่ม ดอยแม่อูคอ และเข้าสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน

สาเหตุที่ใช้เส้นทางนี้เพราะ นุ้ยได้แวะเที่ยวที่ แม่กลางหลวง และอำเภอแม่แจ่ม เพื่อชมนาข้าวขั้นบันได

เมื่อสาวใต้เหินฟ้าสู่เชียงใหม่
http://www.pantip.com/topic/13076149

และแอบหวังในใจว่าจะได้เจอทุ่งดอกบัวตองเผื่อว่าดอกบัวตองจะบานเร็วกว่าปกติ

แต่ขอบอกว่าตลอดเส้นทาง ระหว่างแม่แจ่ม จนกว่าจะถึงดอยแม่อูคอ ต้องผ่านเขานับสิบ นับร้อยลูก สุดๆ เลยค่ะ และเขาแต่ละลูกเต็มไปด้วย ต้นข้าวโพด

ขณะขับไปเรื่อย  เจอรถขนส่งข้าวโพดด้วยค่ะ แต่เอ้ ! แกะเป็นเมล็ดเรียบร้อยแล้ว จะเอาไปทำอะไรน๊า
เส้นทางค่อนข้างที่จะโหดเหมือนกันค่ะ อ๊วกได้ไม่แพ้เส้นปาย – แม่ฮ่องสอนเลยค่ะ
แต่สวยดีน๊า

ขอบอกว่าสาวใต้อย่างนุ้ย ตื่นเต้นมากกับการได้เห็นต้นมะเขือเทศ  เห็นปุ๊บวิ่งลงไปถ่ายปั๊บ  …ก็ที่บ้านไม่มีนี่นา

—-

นุ้ยใช้เวลาเดินทางจากอำเภอแม่แจ่ม สู่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอนโดยประมาณ 3 ชม. โดยไม่ได้แวะที่ดอยแม่อูคอ เนื่องจากเพื่อนที่ได้ขับรถล่วงหน้าไปก่อนโทรมาแจ้งว่าไม่มีแม้เงา

ถึงปุ๊บ ก็เข้าที่พักกันก่อนเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่า คนขับรถของเราจะเริ่มล้า
ถ้าหลายคนทีเคยดูรีวิวนุ้ยจะรู้ได้เลยว่านุ้ยเป็นคนที่หาข้อมูลมาน้อยมาก เรื่องที่พักก็เช่นเดียวกัน
ข้อมูลของนุ้ยที่หาได้คือ ถูกไว้ก่อนเพราะไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเที่ยว นุ้ยเลือกที่นี้ เพราะตอนจองราคา 500 บาท
แต่ตอนนั้นนุ้ยไม่รู้หรอกว่ามีตึกเก่าและตึกใหม่ แต่ปรากฎว่า ที่จองมาคือตึกเก่า 
ห้องที่ตึกเก่าก็โอเคนะ คนจองเต็ม  แต่นุ้ยขอเข้าไปดูห้องก่อน แล้วนุ้ยรู้สึกแปลกๆ ได้เอง 55+ ประมาณว่ามีสัมผัสที่หก ขึ้นมากระทันหัน
เลยถามน้องพนักงานว่า ตึกใหม่มีห้องว่างหรือเปล่า ปรากฎว่าโชคดีค่ะ มีห้องว่าง 2 ห้องพอดีเลย ก็เลยขอย้ายห้อง แต่ต้องจ่ายเพิ่ม ห้องละ 300 
นุ้ยได้ห้องพักชั้น 3
ภายในห้องค่ะ สะอาดแลกว้าง เหมาะสมราคาค่ะ
ภายในห้องมีอุปกรณ์ครบครัน ทีวี กาน้ำร้อน ตู้เย็น

นุ้ยชอบทำเลของโรงแรมนะ หาง่าย อยู่ริมถนนหลัก

เลย

ในห้องน้ำก็กว้างค่ะ มีเครื่องทำน้ำอุ่น

หลังจากที่คนขับของเราพักผ่อนเต็มทีแล้ว อันที่จริงนุ้ยตั้งใจจะไปดูตะวันลับเลี่ยมเขา บนพระธาตุดอยกองมู

แต่……..

แต่….นุ้ยลืมคิดไปว่า เวลาพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขา กับเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เป็นคนละเวลากัน  ไปถึงนุ้ยก็ไม่เห็นแม้เงาก็อาทิตย์ แต่ได้อารมณ์แบบนี้มา ชอบอะ

ธรรมชาติช่างสรรค์สร้าง ไม่ต้องปรุงแต่ง แต่ดูแล้วมีรสชาด

ลมพัดเย็น ๆ กับบรรยากาศแบบนี้ มีใครสักคนนั่งข้างกาย

ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ สักคำให้ลึกซึ้ง ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ให้สวยเลิศเลอ

หลังจากถ่ายรูปเพลิน  นั่งซึมซับบรรยากาศ เม้าท์กระจาย

แปะรูปตัวเอง ปักหมุดสักรูปว่าสาวนุ้ยมาถึงที่นี้แล้วน๊า

จังหวัดแม่ฮ่องสอนจะเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้มีหมอกปกคลุมเป็นส่วนมากของจังหวัด จึงเป็นที่มาของคำว่า “ เมืองสามหมอก” นั่นเอง

หลังจากซึมซับ บรรยากาศตะวันลับเหลี่ยมเขากันเสร็จแล้ว ไปสักการะ พระธาตุดอยกองมูกันค่ะ

เผลอแป๊บเดียวฟ้าก็มืด คงด้วยเพราะอากาศหนาว (เกี่ยวมั๊ยน๊า) แสงทไวไลน์ ลาไปเร็วเหลือเกิน

ก่อนกลับจากพระธาตุดอยกองมู เจอเณรกำลังลอยโคมอยู่พอดี

หลังจากลงมาจากพระธาตุดอยกองมู จุดหมายต่อไปคือถนนคนเดิน  แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้องค่ะ  กินอะไรดีละทีนี้ เป็นคนกินยากซะด้วย
นุ้ยเลือกกินตรงตลาด ที่อยู่ใกล้ๆ กับ อนุเสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชา มีนักท่องเที่ยวใช้บริการเยอะเลยค่ะ   

นุ้ยเลือกทานร้านผัดไทยค่ะ   รสชาดดีเลยทีเดียว   แต่ด้วยความหิว เลยได้ถ่ายมาแค่จานเดียวค่ะ

อาหารที่สั่งมียำรวม ผัดไทยสองจาน น้ำเปล่า และน้ำอัดลม ราคาอยู่ที่ 170 บาท ถือว่าเป็นมื้อที่ถูกมากสำหรับ 4 คนค่ะ

หลังจากเติมพลังเสร็จ   ไปเป้าหมายต่อไปกันค่ะ ถนนคนเดินนั่นเอง

ตรงทางเข้ามีโรงแรมอยู่่ด้วยนะค่ะ  ชื่อโรงแรมงามตา เผื่อใครสนใจหาที่พักใกล้ถนนคนเดินค่ะ

ไปดูกันค่ะ ว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือ ไปเป็นของฝากกันบ้าง

นอกจากได้ของฝากติดไม้ติดมือแล้ว  เราอาจจะได้เดินชาว BP ด้วยค่ะ

นุ้ยพึ่งมารุ้ทีหลังว่า ณ วันที่นุ้ยเดินเล่นอยู่ที่ถนนคนเดิน มีพี่ท่านนึง อยู่ที่นั้นด้วย พี่เขาเห็นนุ้ยแต่ไม่กล้ามาทัก กลัวทักคนผิด แล้วมาส่งข่าวหลังบ้านให้รู้ว่า เค้าเจอตะเองด้วยละ แต่ไม่มั่นใจว่าใช่หรือป่าว

ถ้าใครเจอนุ้ยทักได้นะค่ะ  หน้าดุ ใจดี ไม่กัดชัวร์ค่ะ

ชอบเจ้าตัวนี้มากเลยค่ะ

บริเวณถนนคนเดินมีปิยะเกสเฮ้า  ดูจากข้างนอก น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ เอามาฝากสำหรับคนอยากได้ที่พักแถวถนนคนเดินค่ะ  อยู่ก่อนถึง พระธาตุจองคำ

นุ้ยว่า จุดเด่นอีกอย่างของถนนคนเดิน แม่ฮ่องสอน ก็พระธาตุจองคำนี่แหละค่ะ

แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลากลางคืนก็เปิดให้เข้าไปสักการะ นะค่ะ
แต่ว่า นุ้ยไม่ได้เข้าไปสักการะนะ  ไม่ชอบเข้าวัดตอนกลางคืนค่ะ อย่าบอกใครนะ ว่านุ้ยกลัว
ยังไงถ้าใครไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนก็แวะไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน  แล้วอย่าลืมแวะสักการะพระธาตุจองคำนะค่ะ

หลังจากทั้งเดินเล่น ทั้งช็อป และถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้วค่ะ พรุ่งนี้ ต้องตื่นกันแต่เช้าเลยทีเดียว

แต่ขอเติมพลังอีกสักรอบ นะ เห็นแล้วอดไม่ได้

ใส่นม ใส่ไข่เยอะๆ
เมนุโปรดค่ะ   แต่จำราคาไม่ได้แล้ว คิดว่า 25 บาทนะ (ถ้าผิดขออภัยด้วยค่ะ)
พิกัดร้านโรตี อยู่ใกล้ๆ ร้านใบเฟิร์นค่ะ
เช้าวันรุ่งขึ้น ตื่นตั้งแต่ตี 4 อาบน้ำอาบท่า (แต่จำไม่ได้แล้วว่าได้อาบหรือป่าว แงๆ ) เตียมตัวไปสวรรค์บนดินกัน ปางอุ๋งนั่นเอง
แต่ก่อนออกเดินทาง ต้องหาสะเบียงกันก่อนที่นี้เลยค่ะ ตลาดสายหยุด
สาเหตุที่ชื่อตลาดสายหยุด ง่ายๆ เลยค่ะ สายเมื่อไหร่หยุดขายเมื่อนั้น

ได้สะเบียงมาเพียบเลยค่ะ น้ำเต้าหู้ กาแฟ

ปาท่องโก๋ ซาลาเป๋า

ยังจะมีข้าวเหนียวไก่ทอดอีก  ประมาณว่าซื้อทุกร้าน กระจายรายได้

ซื้อไปเยอะมาก เบ็ดเสร็จแค่ 160 บาท ประหยัดจริงๆ สำหรับ 4 คน

เอกลักษณ์ที่นุ้ยชอบอีกอย่างคือ ข้าวเหนียวที่ห่อด้วยใบตองตึงนี่แหละค่ะ หรือมีชื่อเรียกอย่างอื่นหรือป่าวไม่รู้นะ  นุ้ยถามจาก น้าคนขาย น้าบอกว่า เรียกว่าใบตองตึง แถมแพงอีกนะ คุณน้าซื้อมา 3 ใบ 1 บาท เอามาไว้ห่อข้าวเหนียว แต่ที่เห็นกันเยอะ ที่แม่ฮ่องสอนเอาใบตองตึงมาทำหลังคาด้วยนะจะบอกให้
นุ้ยใช้เวลาเดินทางไปปางอุ๋งเกือบชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยเพราะไม่ชินเส้นทางต้องขับช้าๆไว้ก่อน แต่ ไปถึงปางอุ๋ง พระอาทิตย์ยั้งไม่ออกมาเฉิดฉาย

ภาพที่เห็นตรงหน้าช่างทำให้มีความสุขเหลือเกิน

แม้จะไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์กระทบกับผืนน้ำ

แม้ไม่ได้เห็นไอหมอก ลอยล่อง

แต่ความสุขฉัน อยู่ตรงนี้

สุขที่ได้เดินทาง สุขที่ได้ตามหา สุขที่ได้มองโลกกว้าง

เพราะนุ้ยรุ้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล

และยิ่งได้ไปในสถานที่ ที่เราหลงใหล ยิ่งมีความสุข
ที่นี้ ปางอุ๋ง
มีหลายคนชอบถามนุ้ยว่า ไม่เบื่อเหรอ ชอบไปทีเดิม ๆ ที่เคยไป
คำตอบคือไม่  เพราะ สถานที่แห่งใดที่ทำให้เรามีความสุข ไม่แปลกเลยที่เราจะกลับไปที่นั้นอีกนับครั้งไม่ถ้วน

มาครั้งนี้ได้เจอด้วย

ออกมาอวดโฉม มาเป็นคู่ ทั้งขาวและดำ

ถ้าไปถ้ำปลาต่อ สามารถใช้ต่อได้เลยค่ะ

เจ้าสุนัขตัวนี้ อยากลงแพมาก แพมาเทียบท่าเมื่อไหร่ต้องวิ่งออกไปทุกที  ถ้าคุยกันรู้เรื่องนุ้ยจะถามว่าจะลงไปทำไมเหรอ 55

นอกจากวิวอ่างเก็บน้ำ ยังมีสวนดอกไม้สวยๆ
นุ้ยใช้เวลาอยู่ที่ปางอุ๋งนานมาก  อยุ่ให้หายคิดถึง
วันที่นุ้ยไป ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก  ทำให้สามารถเก็บภาพได้เยอะ
ได้มุมต่างๆ มากมาย เรื่อยๆ เอื่อยๆ ไม่รีบไม่ร้อน

ก่อนกลับ สิ่งที่ลืมไม่ได้ ส่งโปสการ์ดสักหน่อย

นุ้ยไม่ได้โง่นะ แค่คิดไม่ออก  ยืนงงตั้งนาน มส.คืออะไร ย่อมาจากอะไรน๊า

ความคิดถึงจากปางอุ๋งได้ส่งไปถึงใครบ้างนะ

ช่างเงียบสงบดีแท้

ออกจากปางอุ๋งเรามุ่งหน้าสู่บ้านรักไทย

อยู่ไม่ไกลกันมากนัก
นั่งรถแปป ๆ ก็ถึงแล้ว
หมู่บ้านรักไทยเป็นหมูบ้านจีนยูนาน
บ้านเรือนจะเป็นบ้านดิน
หลายคนสงสัยไปบ้านรักษ์ไทย ไปทำอะไรกัน

บ้านรักษ์ไทย จะขึ้นชื่อเรื่องชา ไปซื้อชา ชิมชา หรือแม้กระทั่งดูไร่ชา และยังได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวจีนยูนาน

ปักหมุดที่บ้านรักษ์ไทย ….

หลังจากซื้อของฝาก ถ่ายรูป ต่างๆ นาๆ ได้เวลากลับกันแล้ว

ตอนกลับได้แวะเก็บรูปจากน้ำตกผาเสื่อมาฝากด้วยค่ะ

หลังจากนั้นเราก็ตรงเข้าเมือง เพื่อ เก็บข้าวของในโรงแรม และเติมพลังกันอีกรอบ ก่อนออกเดินทางต่อ

จุดหมายปลายทางต่อไปของเราจะอยู่ที่ไหนรอติดตามกันนะค่ะ

แต่ตอนนี้ไปเติมพลังกันก่อน นุ้ยทานร้านนี้ค่ะ อันที่จริงจะแวะไปซื้อกาแฟที่คอฟฟี่มอร์นิ่ง ผ่านร้านนี้ ก็เลยแวะทานข้าวกันก่อน
อาหารตามสั่งง่าย ๆ กระเพราหมูกรอบ + ไข่ดาว  อร่อยเลยค่ะ
ชามนี้เย็นตาโฟ ไม่ได้ชิม ไม่กล้าบอกว่าอร่อยหรือป่าว

สุดท้าย เรียกว่าอะไรละจานนี้   ก๋วยเตี๋ยวแล้วกัน

ข้าว 2 จาน ก๋วยเตี๋ยว 1 ชาท เย็นตาโฟ 1 ชาม น้ำปั่น 4 แก้ว มื้อนี้ 180 บาท ขาดตัว

หลังจากอิ่มเต็มที่แล้ว  ไม่สามารถยัดกาแฟเข้าไปในร่างกายได้แล้ว

ออกเดินทางกันต่อเลยดีกว่า  ปลายทางของรีวิวต่อไปคือปาย

แต่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนยังมีอีกสถานที่นึง ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปปายพอดีเลย นั่นคือถ้ำปลา

จะบอกว่าที่ถ้ำปลามีร้านอาหารเยอะเลยค่ะ  ถ้าใครไม่อยากทานในตัวเมือง มาทานที่ถ้ำปลาก็ได้นะ เพียบเลยค่ะ

นุ้ยบอกว่าแล้วก่อนไป ข้อมูลน้อยนิด แต่เมื่อไปแล้วจะพยายามหาข้อมูลมาฝากคนอื่น

ด้านในถ้ำปลาค่อยข้างจะร่มรื่นนะค่ะ เพราะเป็นภูเขา มีต้นไม้เยอะเลยค่ะ

มีลักษณะเป็นธารน้ำไหลออกมาจากใต้ภูเขาหิน   ด้านหน้าภูเขาจะเป็นวังน้ำ   ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของปลาพลวง

ปลาพลวงเป็นปลาที่ชอบอาศัยอยู่ตามน้ำตกและธารน้ำในป่า    ไม่สามารถที่จะรับประทานได้

เท่าที่สักเกตุ ไม่มีปลาชนิดอื่นนะค่ะ มีแค่ปลาพลวง แต่เยอะมาก  มองแล้วก็เกิดความสงสัย ว่าปลาพวกนี้กำลังจะไปไหนกัน

เอาเป็นว่านุ้ยทิ้งท้ายไว้ด้วย ภาพนี้แล้วกันนะค่ะ ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีทุกคนค่ะ