Amari Phuket .. ช่วงเวลาแห่งความสุข

 

 

ยินดีตอนรับเข้าสู่ภูเก็ตกันอีกรอบ

วันนี้นุ้ยจะพาทุกคนไปพักผ่อนกันที่โรงแรมอมารีภูเก็ต

เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่นุ้ยภูมิใจนำเสนอและบอกต่อ

เพราะเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากๆ นั่นคือบริเวณหาดป่าตอง เห็นวิวที่สวยอลังการสุดๆ

ที่สำคัญห้องพักเริ่ดมาก   …. ถ้าพร้อมกันแล้ว….เราจะมัวรออะไร เข้าไปเช็คอินกันเลย

 

ก่อนเริ่มใครไม่ชอบอ่านดูคลิปแทนได้น๊า

 

 

เวลาเช็คอินของนุ้ยเป็นช่วงบ่ายแก่ๆ

นุ้ยรู้มาว่า อมารีภูเก็ตเป็นโรงแรมแห่งที่ 2 ของหาดป่าตอง ซึ่งเปิดมานานมาก

แน่นอนว่า เราไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายว่าจะเจอ …ความเก๋ ความโมเดิร์น เราตั้งใจมาเน้นวิว

แต่สิ่งที่เราเจอ มันไม่ใช่อย่างนั่นเลย   เพราะทุกพื้นที่ในโรงแรมสวยมาก มีความเก๋ ความหวาน ความโมเดิร์น

 

โดยเฉพาะตอนที่นุ้ยมาเช็คอิน ล็อบบี้สวยเว่อวังวัง

พื้นที่กว้าง เพดานสูง มีมุมให้เลือกนั่งเยอะ และโทนสีที่ใช้สวยสวยสบายตามากๆ

และเมื่อมองออกไป เห็นเป็นวิวทะเลด้วยน๊า

อมารีภูเก็ต เป็นโรงแรมที่กว้างมากๆ แต่ไม่กลัวว่าจะเดินเหนื่อย

เพราะที่นี่มี buggy ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว

Room Type ที่นุ้ยพักวันนี้คือ One Bedroom Suite Ocean View Balcony

ซึ่งห้องพักของที่นี้จะแบ่งออกเป็น หลักๆ  5 แบบ

ได้แต่ Superior / Deluxe / Junior Suite / One Bedrom Suite  / Two Bedrom Suite

และในแต่ละแบบจะมีการแบ่งตามทำเลที่ตั้ง ลักษณะ ขนาดของห้อง รวมถึงวิวด้วย

ซึ่่งมีการแบ่งโซนห้องพัก ออกเป็น 2 โซนคือโซน ซูพีเรีย ดีลักซ์ จะอยู่บริเวณ ริมทะเล ใกล้ๆ กับล็อบบี้

และอีกโซนจะเป็นโซนใหม่ อยู่ด้านบนเห็นวิวทะเล จะเป็นห้องแบบ One bedroom และ Two bedroom

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สำหรับห้องที่นุ้ยพักคือ One Bedroom Suite Ocean View Balcony

ห้องเบอร์ 6223  แนะนำรีเควชห้องนี้กันเลยนะ เพราะอยู่ใกล้ คลับเฮ้าส์มากๆ

ก่อนจะไปพูดถึงคลับเฮ้าส์ เราไปดูห้องพักกันก่อนดีว่า ว่าสวยขนาดไหน

 

ขนาดห้องกว้าง 29-44 ตารางเมตร มีการแบ่งโซนระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น

เมื่อเปิดประตูเข้ามาเราจะเจอกับห้องนอนนั่งเล่นก่อนเลย

ซึ่งส่วนนี้จะมีทั้งส่วนของครัว มินิบาร์ โต๊ะทานแล้ว รวมถึงโซฟา นั่งเล่นนอนเล่นดูทีวี

 

 

 

 

 

 

 

 

ผ่านเข้ามาในส่วนของห้องนอนจะเป็นเตียงคิงไซส์

โทนสีห้องจะเป็นขาวครีม และเหลืองอ่อนๆ ผสมผสานด้วยสีไม้

เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ในห้องทำจากไม้

ชอบตู้เสื้อผ้า เพราะมีกระจกบานใหญ่มากๆ เต็ม 2 ประตูบานเลือนเลย

สำหรับห้องน้ำกว้างพอสมควร มีแบ่งส่วนเปียกห้อง มีกระจกแต่งตัว ถึง 2 ฝั่ง

ไม่ต้องแย่งกัน และอุปกร์ข้าวของเครื่องใช้อย่างอื่นมีไว้ครบครันมากๆ

เดินออกมาดูระเบียงหลังห้อง

เป็นระเบียงที่กว้างมาก  เราสามารถเดินออกมาระเบียงได้ทั้งฝั่งในห้องนอน และฝั่งห้องนั่งเล่น

จากฝั่งห้องนอน จะมีเก้าอี้ตัวยาว ให้เรานั่งนอนชิลรับลม

และสำหรับฝั่งห้องนั่งเล่น จะเป็นโต๊ะเก้าอี้เก๋ เหมาะสำหรับกานั่งจิบการแฟรับแดดอุ่นๆ ยามเช้ามากๆ

 

ตอนเย็นๆ ถ้านั่งจิบไวน์ ก็ชิลไม่เบาเลยน๊า

 

วิวยามค่ำคืนจากห้องพัก

 

ในช่วงเย็นของทุกวัน เป็นช่วงที่นุ้ยโปรดปรานมากๆ

เพราะจะมีช่วง Happy Hour หรือ Cocktail Hour   ที่ Clubhouse

ซึ่ง Clubhouse   จะเป็นสิทธิพิเศษเฉพาะแขกที่พักห้อง One Bedroom Suite Ocean View Balcony ขึ้นไป

เพื่อความเป็นส่่วนตัว และพิเศษสุดๆ นั่นเอง

แต่พิเศษสำหรับแขกที่พัก One Bedroom Suite ขึ้นไป  สามารถซื้อแพคเกจเข้าใช้บริการ Clubhouse  ได้

ว่าแต่  Clubhouse พิเศษยังไงไปดูกันคะ

สิทธิพิเศษในการใช้บริการ เดอะ คลับเฮาส์:
  • สิทธในการใช้บริการสระว่ายน้ำอินฟินิตี้ไร้ขอบ, มุมอาบแดด, และ ศูนย์ออกกำลังกาย FIT Centre
  • บริการฟรี อาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ทุกวัน
  • บริการฟรี ชากาแฟและอาหารว่างตลอดทั้งวัน
  • บริการฟรี ระหว่างชั่วโมงแห่งความสุข (Cocktail Hour) ทุกวัน ที่ประกอบด้วยไวน์ชั้นเลิศ เครื่องดื่มแอลกอฮอล ค็อกเทล น้ำอัดลม คานาเป้พิเศษจากเชฟ และเมนูสเต็กประจำวัน
  • บริการฟรี WiFi อินเทอร์เน็ต
  • รับประทานอาหารที่เลานจ์แบบส่วนตัว โดยมีบริการอาหาร A la carte

 

ก่อนเข้าสู่ช่วง Happy Hour  พาเดินดู ClubHouse กันก่อน

วิวสวยมาก ส่วนตัวมา สระว่ายน้ำสวยสุดๆ เลยทีเดียว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นอกจากสระว่ายน้ำแล้วยังมีฟิตเนสอีกด้วย ไม่ต้องไปเข้าฟิตเนส ส่วนกลาง ตื่นเช้าปุ๊บเดินมาได้เลย

ให้ดูแค่พอหอมปากหอมคอ ….

มาเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความสุขกันดีกว่า ตั้งแต่  17.30-18.30 น. 1 ชั่วโมงเต็มๆ

ที่เราสามารถสั่งเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะไวน์ ค็อกเทล เครื่องดื่มต่างๆ ได้ฟรี พร้อมกับยังมีคานาเป้ และอาหารพิเศษจากเชฟ ทุกวัน

วันที่นุ้ยไปฟ้ามืดๆ ฝนกำลังจะตก แอบเสียดาย ถ้าหากไม่มีฝน เราจะเห็นท้องฟ้าเปลี่ยนสี

เพราะจะเห็นแสงจากพระอาทิตย์ตกด้วย

นี่คือชุดคานาเป้ ต่างๆ ที่จะนำมาเสิร์ฟทันทีที่เรานั่ง  พร้อมกับพนักงานน่ารักๆ มารับออร์เด้อเครื่องดื่ม

 

 

 

รับแบบไหนเลือกได้เลย  ค็อกเทลก็เริ่ดหลายตัวเลยทีเดียว

สำหรับเหล้าและไวน์ เลือกตามชอบเลย นุ้ยไม่ถนัดจริงๆ ปล่อยนายต้นจัดการเรียบ

 

 

และเมนูพิเศษจากเชฟในวันนี้คือซูชิ  นั่นเอง

สำหรับคนที่มีสิทธิเข้าใช้ Clubhouse แทบไม่ต้องทานอาหารเย็นเลยทีเดียว

 

 

แต่สำหรับมื้อดินเนอร์ นุ้ยเลือกไปทานที่ห้องอาหาร La Gritta Restaurant

เป็นห้องอาหารที่ติด Top 10 ของภูเก็ตเลยน๊า

เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยน ริมทะเล บอกเลยว่า วิวสวยมาก สวยทั้งกลางวันกลางคืน สวยสุดๆ เลยหล่ะ

นี่เป็นบรรยากาศช่วงกลางวันที่ La Gritta Restaurant  วิวอลังการสุดๆ

ติดกันจะเป็นสระว่ายน้ำ La Gritta ที่อมารีภูเก็ตจะมีสระว่ายน้ำ 3 สระ

คื่อที่ Clubhouse / La Gritta / และสระว่ายน้ำกลาง ใกล้ห้องอาหารริมทะเล

 

 

ห้องอาหาร  La Gritta Restaurant   แบ่งเป็น 2 ชั้นคะ

ด้านบน จะเป็นเหมือนบาร์ที่ให้บริการเฉพาะเครื่องดื่ม มองเห็นวิวทะเล และอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ

 

 


 

และชั้นล่างจะเป็นชั้นที่ให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่ม

ซึ่งจะอยู่ติดกับหาด เป็นหาดส่วนตัวเล็กๆ ของโรงแรม

มองไปทางไหนก็เป็นทะเล  หากเป็นวันที่ฟ้าเปิด พระอาทิตย์ตกจะสวยมากเลย

บอกเลยว่า โรแมนติคสุดๆ แม้จะไม่ได้พักที่นี้ แต่ต้องพาแฟนมาดินเนอร์ที่นี้นะ บอกเลย

และในช่วงเวลายามค่ำคืน

บรรยากาศที่ La Gritta จะเป็นแบบนี้  ทะเลสีดำใครว่าน่ากลัว สวยจะตาย แถมยังเห็นวิวหาดป่าตองยามค่ำคืนแบบเต็มๆ

บรรยากาศแบบนี้ สิ่งที่ขนาดไม่ได้คงเป็นเครื่องดื่มดีๆ สักแก้ว

และอาหารอร่อยๆ สักจาน

นุ้ยจำชื่อเมนูอาหารไม่ได้ แต่เป็นจานที่อร่อยมาก ด้านบนจะเป็นล็อบเตอร์ เนื้อแน่นอร่อย

ส่วนด้านล่างจะเป็นคล้ายๆ ต้มยำซีฟู๊ด แต่เป็นต้มด้วยซอสมะเขือเทศ  อร่อยมากๆ

 

ปิดท้ายด้วยขนมหวาน

ทานคาว ไม่ทานหวานก็จะแปลกๆ พักผ่อนทั้งที อย่าห่วงเรื่องน้ำหนักนะ

 

วันแรกของนุ้ยในอมารีภูเก็ต ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ทั้งตื่นเต้นกับบรรยากาศของที่พัก และบริการต่างๆ ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นคนพิเศษ

บวกกับวิวที่อลังการงานสร้าง เว่อวังระฆังวัดมากๆ  เหมาะสำหรับการมาฮันนีมูลสุดๆ ไปเลย

สำหรับอาหารเช้า แขกที่มีสิทธิ์ใช้ ClubHouse สามารถเลือกทานอาหารเช้าได้ 2 ที่

คือที่ห้องอาหารหลักริมทะเล และที่ Clubhouse นั่นเอง

ที่ห้องอาหารริมทะเลจะให้บริการเป็นแบบบุฟเฟ่ต์  แต่ที่ Clubhouse จะให้บริการทั้งแบบบุฟเฟ่ต์ และอลาคาสควบคู่กันคะ

 

 

นุ้ยตื่นมาทานอาหารเช้าตอนประมาณ 9 โมง ลูกค้ายังไม่มีเลย เพราะว่าหลับฝันสบายทุกคนตื่นสายเหมือนกันหมด

แต่พอสักประมาณ 9 .30 น เท่านั้น แขกจะเริ่มทยอยกันมา

ไลน์บุฟเฟ่ต์ไม่ได้ใหญ่มากแต่มีครบ และดีงามเลยทีเดียว

 

 

สำหรับเมนูอลาคาส มีเยอะมากกว่า 20 เมนูเลยทีเดียว ทั้งคาวหวาน มีหลายสัญชาติด้วยนะเออ

 

ทานอาหารเช้าเสร็จก็ปาไปเกือบ 10 โมง ทำให้วันนี้ มองผ่านมื้อเที่ยงไปได้เลย

ถ้าหิวตอนเที่ยงอีกนี่คือ หมูเรียกแม่แน่นอน

ฟังจากพนักงานอธิบายเมื่อวานว่าโรงแรมมีส่วนไหนบ้าง ซึ่งกว้างมาก  วันนี้นุ้ยจะพาไปเดินย่อยอาหารกันคะ

เริ่มจากบริเวรล็อบบี้ เมื่อลงไปชั้นล่างสุด เราจะเจอกับ Voyager Lounge ตอนแรกคิดว่าเป็นห้องแบบนั่งเล่นนันทนาการทั่วไป

แต่ปรากฎว่าห้องนี้ นอกจากจะมานั่งเล่นนั่งพักกันแล้ว จุดประสงค์หลักคือ

เป็นห้องสำหรับแขกที่มาเช็คอินก่อนเวลา แล้วห้องยังไม่เรียบร้อย  และแขกที่ต้องเช็คเอ้าท์ แต่มีบินไฟท์เย็น ไฟท์ดึก

ให้ได้มานั่งพักผ่อนกัน

ซึ่งภายในห้องไม่ธรรมดาเลยทีเดียว จอทีวีขนาดใหญ่ เหมาะมากสำหรับการนั่งดูหนัง ดูบอล

โต๊ะ เก้าอี้ โซฟานอน มีทั้งแบบอินดอร์ เอ้าท์ดอร์ ที่สำคัญ วิวทะเลสวยมาก

และยังมีคอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ตไว้บริการด้วย   (เห็นแล้วรักเลย  หากเช็คเอ้าแล้วไม่รู้จะไปไหนเชิญห้องนี้เลย )

เท่านั้นยังไม่พอ  Voyager Lounge  ยังมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และล็อกเกอร์ไว้ให้อีกด้วย

เช็คเอ้าท์เสร็จ ฝากกระเป๋า ออกไปลั๊ลล๊าป่าตอง ช้อปปิ้งจังซีลอน

ยังมาอาบน้ำ รับกระเป๋า แล้วค่อยเดินทางต่อ เจ๋งอะ ชอบๆ การบริการแบบนี้

เข้าใจลูกค้าสุดๆ

 

ใกล้ๆ Voyager Lounge จะเป็น Kidclubs ห้องกว้างมากๆ เลย

การจัดวางข้าวของเป็นระเบียบมาก ทำให้ห้องดูโล่งเชียว

 

ไปเดินเล่นชายหาดกันดีกว่า

อมารีภูเก็ตมีหาดเล็กๆ ส่วนตัว แต่อาจจะไม่ค่อยเหมาะสำหรับการเล่นน้ำสักเท่าไหร่

แต่ถ้านอนอาบน้ำละก็ เหมาะเลย

บริเวณนี้จะอยู่ใกล้ๆ กับห้องอาหารริมทะเล เดี๋ยวตอนเย็นๆ จะพามากินอาหารกันที่นี้นะคะ

ใกล้ๆ กันก็จะเป็นสระว่ายน้ำหลักของอมารีภูเก็ต มีบาร์คอยให้บริการเครื่องดื่ม

เป็นสระที่ใหญ่พอสมควรเลยคะ อยู่ริมทะเลซะด้วย

แบบนี้ถูกใจหลายคนแน่ๆ แบ่งโซนน้ำตื้นไว้สำหรับเด็กๆ ด้วย

ถ้าไม่ชอบลงสระ แนะนำมุมนี้อาบแดด กลิ้งไปกลิ้งมาให้ได้ผิวแทน เปลี่ยนลุ๊ค

 

สำหรับเรา 2 คน ดำอยู่แล้ว ไม่ต้องอาบแดด

มานอนเล่นชมวิวหลบมุมนี้ละกัน

เรากำลังจะพาเดินไปยัง The Jetty  เดินผ่านทางสนามหญ้าด้านหลังห้องดีลักซ์

แล้วก็เดินยาวๆ ลัดเลาะไปตามชายฝั่งทะเล ร่มรื่นมากๆ

เดินแปบเดียวก็มาถึงแล้ว

The jetty เป็นเหมือนท่าเรือที่ยื่นออกไปในทะเล มีให้บริการอาหารและเครื่องดื่มด้วย

แน่นอนยามเย็นตรงนี้มองเห็นพระอาทิตย์ตกคะ สวยสุดๆ แต่วันนี้นุ้ยเลือกความสดสดมาเดินเล่นช่วงกลางวัน

บริเวณนี้ ยังสามารถดำน้ำตื้นได้ด้วยน๊า

อากาศดีมุมสวยขนาดนี้รออะไรอยู่ล๊าา

เชลฟี่กันดีกว่าน๊าา

 

ยิ่มร่าขนาดนั้น ใช่ว่าอากาศจะไม่ร้อน

ขอมานั่งพักที่  Samutr Bar

เป็นส่วนที่นุ้ยชอบมากอีกส่วนหนึ่ง  อยู่ใกล้ๆ กับล็อบบี้ เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึงเที่ยงคืนเลยทีเดียว

นุ้ยชอบมาก ๆ เพราะวิวสวย อากาศถ่ายเทีได้ดี นั่งชิลสุดๆ เลย

แถมช่วงกลางคืนยังมี DJ มาเล่นเพลงด้วยน๊าา

ในทุกวันช่วง 17.00 – 19.00 น และ 21.00-23.00น. เป็นช่วง happy hour ลด 50 %

ต้องมานั่งมุมนี้เลยนะ  นั่ง 1 ชั่วโมง ชิลไป 1 ปีเลยทีเดียว

ตามที่รับปากกันไว้ว่าเย็นวันนี้จะพามานั่งทานอาหารกันที่ห้องอารริมทะเล

เป็นห้องอาหารหลักของอมารีภูเก็ตเลยคะ เพราะให้บริการตั้งแต่อาหารเช้า จนถึงมื้อดินเนอร์เลยทีเดียว

ทีเด็ดจะอยู่ที่มื้อดินเนอร์ นอกจากแบบเมนูอลาคาสแล้ว  ยังมีบริการบุฟเฟ่ต์ทุกวันด้วยน๊า

ในแต่ละวันจะต่างกันออกไป  และคืนที่นุ้ยไปพักคือคืนวันเสาร์ จะเป็น  Ribs & Wings Buffet

ก่อนอื่นไปดูห้องอาหารกันก่อน

ต้องบอกว่า ห้องอาหารริมทะเลจะเป็นห้องอาหารที่ใหญ่มาก เป็นแบบโอเพ่นแอร์  อากาศถ่ายเทดี

ภายในห้องสวยมาก

แต่วันนี้นุ้ยขอมาโรแมนติคด้านนอกละกัน

ลมพัดเบาๆ แสงไฟอ่อน  ค็อกเทลสักแก้ว ดีเริ่ดในปฐพีเลย

ไปดูบุฟเฟ่ต์กันดีกว่า

อย่างที่บอกว่าวันนี้คือ  Ribs & Wings Buffet  ราคา เพียง 620++ เท่านั้น

ซึ่งปกติเราจะเจอบุฟเฟ่ต์ตามโรงแรมพันอัปทั้งนั้น

ซึ่งในบุฟเฟ่ต์ จะมีทั้งซีโครงหมูบาบีคิว ไก่ย่าง หลากรส ทั้งพริกไทย ต้มยำ สะเตะ

และยังมีผลไม้ สลัด  ทีเด็ด ขนมหวานอร่อยมาก อร่อยทุกอย่างเลย

 

ผ่านไปแล้วสำหรับช่วงเวลาแห่งความสุข

สำหรับอมารีภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ทำให้นุ้ยกับต้นมีความสุขมาก

รวมถึงตื่นเต้นกับพื้นที่กว้างมากของโรงแรม ทำให้เรามีกิจกรรมที่ได้ทำร่่วมกันเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว

แม้ใครจะบอกว่า อยู่ที่ไหนไม่สำคัญ เท่ากับว่าเราอยู่กับใคร

แต่นุ้ยก็จะคอยบอกเสมอว่า คนที่อยู่ข้างๆ เราสำคัญที่สุดอยู่แล้ว แต่ถ้าเราได้ใช้เวลาด้วยกัน

ในสถานที่พิเศษ ๆ มันก็ย่อมมีความสุขมากกว่า เติมเต็มกันและกันได้มากกว่า

อย่าลืมหาเวลาพักผ่อน  อย่าลืมเอาอกเอาใจคนสำคัญที่อยู่ข้างๆ นะคะ

 

ข้อมูลโรงแรม

อมารี ภูเก็ต

หาดป่าตอง, ภูเก็ต 83150

โทรศัพท์: +66 (0) 7634 0106-14
 
โทรสาร: +66 (0) 7634 0115
————————————

ขอบคุณเพื่อนๆ สำหรับการติดตามกันนะค่ะ 

ทักทายกันได้ที่ช่องทางเหล่านี้

Facebook : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels/

Instagram : https://www.instagram.com/mylifemytravel/

Website : http://www.mylifemytravels.com/

YouTube : https://goo.gl/Gync7Y

ปิดท้ายด้วยรูปแผนที่ของโรงแรม

My Life My Travel

View Comments