Avista Grande Phuket Karon – MGallery by Sofitel
.
.
“เอี๊ยดอ๊าด” เขาว่ากันว่า คือเสียงหาดทรายกำลังร้องเพลง
ความนุ่มความละเอียดของผืนทราย จะส่งเสียง เอี๊ยดอ๊าดทุกคกรั้ง
ที่เราย่ำเท้าลงบนผืนทรายหน้าหาดกระรน …
เมื่อเราเอาตัวเองไปอยู่กับธรรมชาติ เรามักจะได้เรียนรู้ว่าธรรมชาติมีสิ่งมหัศจรรย์เสมอ
ทริปนี้ เราสองคนยังคงพาเพื่อนๆ ไปพักผ่อนภูเก็ตเหมือนเช่นเคย
เพราะถ้าหากถามเราสองคนว่า เคยไปที่ไหนซ้ำๆ มั้ย .. บ่อยสุดก็ภูเก็ตนี่แหละ
สำหรับนุ้ยกับต้น ภูเก็ตมีทะเลที่สวยในทุกฤดู และภูเก็ตมีอะไรมากกว่าทะเล
มีอาหารอร่อย มีเมืองเก่าให้สัมผัส มีความฮิปกับกราฟิตี้ มีคาเฟ่เท่ห์ ๆ
มีความน่ารักของผู้คน และมีที่พักที่ตอบโจทย์ของการพักผ่อน สวย ชิลล์
และที่พักที่เราสองคนเลือกในทริปนี้คือ Avista Grande Phuket Karon เป็นโรงแรมที่เครือ MGallery by Sofitel
ตั้งอยู่ใกล้กับหาดกะรน ถ้าพร้อมแล้วไปพักผ่อน และฟังเสียงหาดทรายร้องเพลงพร้อมๆ กันค่ะ
..
อย่างที่บอกว่า Avista Grande Phuket Karon เป็นโรงแรมที่เครือ MGallery by Sofitel
เพราะถ้าพูดถึง MGallery by Sofitel จะมีสไตล์การออกแบบที่บอกเล่าเรื่อง
และที่นี่ก็เช่นกันมีเรื่องราวความเป็นภูเก็ต การดีไซน์มีความผสมผสาน ระหว่างความโมเดิร์น และชิโนโปตุกิสเข้าด้วยกัน
เรามาเริ่มทำความรู้จักกับ Avista Grande Phuket Karon แบบทุกความรู้สึกกันเลยดีกว่า
เริ่มจาก Lobby ส่วนต้อนรับที่ทำให้นุ้ยรู้สึกประทับใจ
เอาจริงๆ ตอนจอดรถก็ไม่ได้คิดว่าเข้ามาด้านในจะสวยขนาดนี้
ทุกตารางนิ้วมีความใส่ใจในรายละเอียด หลายมุมที่ทำให้นุ้ยคิดถึงบ้านเรือนในย่านเมืองเก่าขึ้นมาทันใด
เพียงแค่ว่าทุกอย่างมีความทันสมัย ดูลงตัว ไม่ว่าจะลายพื้นกระเบื้อง ลวดลายบนฝาผนัง
และเมื่อแหนหน้าขึ้นมืองด้านบน ก็ยังเป็นภาพคุ้นเคยที่เราเคยเห็นในความเป็นชิโนโปตุกิส
มาถึง Welcome drink ตอนแรกนุ้ยมองว่าสวยจัง
แต่ตอนหยิบน้ำมะตูมผสมตะไคร้น้ำผึ้งและเสาวรส ขึ้นมาดื่ม
อารมณ์คล้ายกับเรานั่งอยู่ร้านติ่มซำ แล้วมีเซ็ตชาไทยหอมพร้อมติ่มซำมาเสิร์ฟ ..เก๋ไปอีก
ส่วนนี้เป็นส่วนเอ้าดอร์ ใกล้ๆ ล็อบบี้ แดดร่มลมตก คงจะชิลล์น่าดู
ได้เวลาไปห้องพักกันแล้ว ที่นี่มีจำนวนห้องทั้งหมด 159 ห้อง 7 Room Type
SUPERIOR ROOM WITH 1 KING-SIZE BED
FAMILY ROOM (SUPERIOR ROOM WITH 2 DOUBLE BEDS)
DELUXE ROOM SEA VIEW WITH KING-SIZE BED
DELUXE ROOM SEA VIEW WITH TWO DOUBLE BEDS
DELUXE SUITE POOL ACCESS
JACUZZI SUITE
EXECUTIVE SUITE
ซึ่งห้องที่นุ้ยพักคือ DELUXE SUITE POOL ACCESS
ระหว่างทางเดิน เราจะผ่านสระว่ายน้ำหลักของโรงแรม
ให้ดูแค่พอเรียกน้ำย่อยก่อน เพราะตอนนี้ใจจดจ่ออยากเข้าห้องเต็มทีแล้ว
และนี่คือทางเดินขึ้นห้อง ทำไมมันดูอลังการขนานี้ ลายฉลุของไม้ สวยมาก
หลายๆ มุมมีดีไซน์ เล่นแสงและเงา นุ้ยชอบการดีไซน์แบบนี้ แต่แปลกที่บางทีเราถ่ายมันออกมาไม่ได้เหมือนกับตาเห็น
ห้องที่นุ้ยพักคือ Room Type Deluxe Suite Pool Access อยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร
ตอนเปิดห้องเข้ามา … ว้าว คือเสียงที่หลุดออกมาจากปากนุ้ยแบบไม่รู้ตัว
เพราะสิ่งที่เราเห็น มันดูสวย เรียบหรู แต่ไม่ได้มีข้าวของเยอะเกินไป เป็นห้องที่เหมาะกับการพักผ่อนมาก
และสิ่งที่ดึงดูนุ้ยได้มากสุดๆ คือความเป็น Pool Access ที่ด้านหลังห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ชัดเจน
นุ้ยรีบวิ่งออกไปดูอย่างรวดเร็ว
แล้วก็ยืนยิ้มเล็กยิ้มน้อย แบบลืมว่าตอนนี้อากาศกำลังร้อนนะ เพราะแดดกำลังส่อง
แต่นั่นคือสัญญาณที่ทำให้เรารู้ว่า … เย็นนี้ความโรแมนติคจะแวะมาทักทายเราถึงห้อง
ย้อนกลับมาดูภายในห้องกันดีกว่า
โทนสีที่ใช้ภายในห้อง ทำให้รู้สึกอบอุ่นไปด้วยความอบอุ่น
เพราะโทนสีจะเป็นสีซอฟท์ ๆ ไม่ว่าจะเป็นขาว เทา ฟ้า กรมท่า และสีของเนื้อไม้
ข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็ล้วนมีความเป็นภูเก็ตผสมอยู่
ถ้าบอกว่าชิลล์กลัวไม่เชื่อ ต้องเอารูปมายืนยัน นั่งยัน
แต่นุ้ยชิลล์มากไปหน่อย นั่งกินขนมเพลิน รู้ตัวอีกที อ้าวลืมถ่าย ขนมและไม้ที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้
เครื่องดื่ม ชากาแฟ ให้บริการฟรี เตรียมไว้ในโซนมินิบาร์
amenities เตรียมไว้แบบครบครัน
เดินออกมาด้านหลังอีกรอบ Pool Access กว้างกำลังดี และมีความยาวพอมากเลยทีเดียว
และจากห้องยังมองเห็นสระว่ายน้ำกลางอีกด้วย
ให้ดูภาพสระว่ายน้ำกันแบบเต็มๆ จากมุมสูง
สำหรับนุ้ยกับต้นนะ เราสองคนบอกได้เลยว่า เป็นสระว่ายน้ำที่สวยมากๆ
หรืออาจเป็นเพราะเราสองคนชอบสระว่ายน้ำที่พื้นสระเป็นเนื้อหินอ่อน ดูขาวดูละมุน
เมื่อสะท้อนกับท้องฟ้า น้ำสีกลายเป็นสีฟ้า สวยชะมัด
แต่สุดท้ายเราก็กลับมาชิลล์ที่ห้อง
บางครั้ง บางเรื่องราว มันเล่าออกมาเป็นตัวอักษรยากเหลือเกิน
แต่รูปภาพ 1 ใบ กลับบอกเล่าเรื่องราวที่อยู่ในใจได้มากกว่า
และมื้อค่ำวันแรกที่ภูเก็ต เราเลือกทานที่ห้องอาหาร PORTOSINO ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม
ให้บริการทั้งมื้อ เที่ยง และดินเนอร์
ตอนเดินเข้าไป มีเขินๆ นิดๆ ทำไมห้องอาหารนี้ ดูหรูได้ขนาดนี้
โทนสีที่ใช้ เน้นที่สีทอง สีดำ และสีน้ำตาล แน่นอนว่าสีเหล่านี้มีที่มาที่ไป
เพราะห้องอาหารนี่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหมืองแร่ อาชีพหลักของชาวภูเก็ตในอดีตนั่นเอง
เริ่มกันที่เครื่องดื่ม จะผิดมากมั้ยถ้านุ้ยจะบอกว่าจำชื่อเครื่องดื่มและอาหารแทบไม่ได้เลย
มื้อนี้เราก็จะเน้นเฮลท์ตี้หน่อย
หลังจากมื้อดินเนอร์ เดินเล่น นั่งชิลล์ริมสระว่ายน้ำ
– Day 2 –
มื้อเช้าวันนี้เราไปทาน กันที่ห้อง PORTOSINO ก็อย่างที่บอกว่าห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารหลักเนอะ
เป็นห้องอาหารที่กว้าง และไลน์อาหารแน่นมากค่ะ
อาหารหลากหลายเลยทีเดียว กินเช้านี้อิ่มได้ถึงเที่ยง
มุมนี้น่านั่งสุด มองออกไปด้านนอกจะเห็นวิวสระว่ายน้ำ
วันนี้จะพาเดินสำรวจ สระว่ายน้ำกันอีกสักรอบ
เดี๋ยวจะไม่เชื่อที่บอกว่าสวยจริงๆ สวยขนาดไหน
ขนาดที่ว่าลืมเอาชุดว่ายน้ำมา ต้องรีบบึ่งรถไปซื้อชุดว่ายน้ำอย่างเร็ว เพื่อกระโดดลงสระ
สระว่ายน้ำกลาง ทั้งกว้างและยาว มีหลายมุม เชื่อมต่อกัน
และมีทั้งโซนน้ำตื้นและน้ำลึก เด็กน้อยสามารถลงเล่นได้ แต่ผู้ใหญ่ต้องคอยดูแลนะคะ
และช่วงเวลาต่อไป คือการพาไปดูห้องพัก Room Type อื่น ๆ กันบ้าง
เริ่มกันที่ Executive Suite เป็น Room Type ที่ชวนกรี๊ดที่สุด
เป็น Room type สูงสุด กว้างที่สุด และสวยที่สุด
ไม่รู้จะหาคำนิยามไหนมาใช้กับห้องนี้ดี โทนสีขาวนวล ครีมอ่อนหวาน เทาละมุน คือโทนสีหวานและซอฟท์มาก
แบ่งเป็น 2 โซนใหญ่ คือห้องนั่งเล่น และห้องนอน แต่เราจะพาไปดู้ห้องนอนกันก่อนเลยละกัน
เตียงกว้างมาก ความเซ็กซี่คือมี Bathtub ปลายเตียง วิวด้านหน้าคือทะเล
ด้านหลังเตียงจะเป็นมุมโต๊ะทำงานเล็ก กับเก้าอี้แสนนุ่ม
ถััดไปอีกหน่อยหลังประตูไม้ลายฉลุ เป็นห้องแต่งตัว
ข้าวของเครื่องใช้ครบมากจริงๆ มีเตารีดด้วยนะเออ
ขยับออกไปดูห้องนั่งเล่นกันสักหน่อย
และจะสังเกตุเห็นว่า ยังมีอีกหนึ่งห้องถัดจาก ห้องนั่งเล่นเป็นห้อง Deluxe Room Sea View With Two DoubleBeds
สามารถ connect กันได้ เหมาะมากสำหรับมากับครอบครัว หรือเพื่อนหลายๆ คน
แต่ถ้าหากมีสวีท 2 คน ก็เลือก Executive Suite เพียงห้องเดียวได้เลย
แต่ก่อนจะไป Deluxe Room Sea View With Two DoubleBeds
ดูห้องนั่งเล่นกันก่อนสักนิด เป็นห้องนั่งเล่นที่ไม่ธรรมดาเลย
กว้าง วิวสวย มีโซฟาแสนนุ่มขนาดใหญ่วางอยู่กลางห้อง
มีโต๊ะกลม ขนาดใหญ่ อย่างที่บอกว่าถ้ามาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน
ตอบโจทย์มาก คอนเน็คหากันได้ และมีพื้นที่ส่วนกลางที่ดีขนาดนี้
ก่อนจะไปดูห้องอื่น ขอพาไปดูห้อง Deluxe Room Sea View With Two DoubleBeds
ก่อนสักนิด มีเตียงขนาดใหญ่ 2 เตียง ห้องนี้นอนได้ถึง 4 คน โทนสีจะคล้ายๆ กับห้องที่นุ้ยพัก
ต่อมาเป็น Superior Room With 1 King-Size Bed
เป็น Room Type เริ่มต้น ที่กว้างมาก เพระกว้างถึง 53 ตารางเมตร
การดีไซน์ จะคล้ายกับห้องที่นุ้ยพัก ต่างกันตรงที่วิว และ ระเบียงด้านหลังห้องเท่านั้น
และห้องสุดท้ายที่นำมาให้ดูกันคือ JACUZZI SUITE
ห้องนี้กว้างถึง 66 ตารางเมตร นุ้ยมีความชอบห้องนี้เป็นการส่วนตัว ดีไซน์ค่อนข้างที่จะต่างจากห้องอืี่นๆ
โทนสีห้องหวานสุดในบรรดาทุกห้องเลย
ด้านข้างจะเป็นอ่าง จากุซซี่ ลายกระเบื้อคือชิโนโปตุกิส คลาสสิคแบบอินเตอร์ไปอีก
ไปดูส่วนอื่นๆ ขงอโรงแรมกันบ้าง
สำหรับคนที่ชอบผ่อนคลาย ต้องไม่พลาดการทำสปาที่ PEARL SPA
เป็นอีกหนึ่งห้องสปาที่ดีไซน์สวยมาก
Fitness เปิดให้บริการ 24 ชม. ถูกใจสายเฮลท์ตี้
ตอนเริ่มต้นรีวิว เริ่มที่ล็อบบี้ ขอจบที่ล็อบบี้ด้วยละกัน
เดินทางช่วงกลางคืนแล้วสวยมาก อดไม่ได้จริงๆ ที่จะไม่หยิบกล้องขึ้นมาถ่าย
กลางวันว่าสวยแล้ว กลางคืนสวยกว่า
ถ้าหากถามถึงความรู้สึกของเราสองคนในรีวิวนี้
เราชอบนะ ชอบอะไรแบบนี้ ชอบการดีไซน์แบบนี้
ดูใส่ใจในทุกรายละเอียด อาหารอร่อย ทำเลก็ดีใกล้หาดมากเดินแค่นิดเดียว
และสิ่งที่เราสองคนมักบอกต่อเสมอคือการบริการ ทุกโรงแรมแม้ว่าจะสวยขนาดไหน ถ้าการบริการไม่ผ่านทุกอย่างคือจบ
แต่สำหรับที่นี่ ให้ 3 ผ่านเลยค่ะ พนักงานน่ารักมาก
inbox : https://www.facebook.com/AvistaPhuketKaron
E-mail : reservations@avistahotelsandresorts.com
Tel : +66 2 661 8141 – 4
ติดตามเรา Nui ka ton แฟนพาเที่ยว
Fanpage : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels
WebSite : www.mylifemytravels.com
Youtube : https://goo.gl/0bnw9a
Instagram: https://goo.gl/G7qsVC
….
สนใจติดต่องานได้ที่
E-Mail : mylifemytravels@gmail.com
Tel. : 094-5929142
#แฟนพาเที่ยว #mylifemytravel #NuiKaTon #Coupletravelers