วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

Hong Kong 2 วัน 1 คืน เที่ยวง่ายด้วยตัวเอง กับงบไม่ถึง 5พัน

Hong Kong 2 วัน 1 คืน เที่ยวง่ายด้วยตัวเอง / เที่ยฮ่องกงด้วยตัวเอง


ทริปงง งง ฮ่องกง 2 วัน 1 คืน ก็ได้เหรอ ?

เพื่อน >> อาทิตย์หน้าไปฮ่องกงกันมั้ย

นุ้ย >> ลางานได้เหรอ

เพื่อน >> เสาร์ – อาทิตย์ไง

นุ้ย >> บ้าไปแล้ว Hong Kong 2 วัน 1 คืน เนี่ยนะ

แค่ 4 ประโยค รู้เรื่องเลยจ้า และนั่นคือจุดเริ่มต้น

ทริปนี้พวกเราไปกันแค่ 2 วัน 1 คืน ไม่ถึง 48 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่เป็น 2 วัน 1 คืน ที่สนุกและคุ้มมากๆ #ที่สำคัญไม่ต้องลางานจ้า

พวกเราไม่เน้นแลนด์มาร์ค ไม่เน้นไปในที่ ที่คนอื่นไปกัน แต่ไปในที่ ที่เราอยากไป และบังเอิญผ่านไป

แต่มีครบความเป็นฮ่องกง ช้อปปิ้งสนุก กินอร่อย ไหว้พระขอพร

และครั้งนี้มีปีนเขาจ้า อยากเห็นฮ่องกงในมุมต่างจากที่เคยเห็น และมันคุ้มค่ามากจริงๆ ที่พวกเราตัดสินใจเดินไปถึงจุดนั้น

ปล. ทริปนี้เราใช้งบเพียงแค่คนละ 3,500 บาท (ค่าที่กิน ที่พัก  แต่ไม่รวมค่าเครื่องบินเด้อค่า)

 

ทริปนี้พวกเราเดินทางกันด้วยสายการบินแอร์เอชีย มีเที่ยวบิน บินตรง ดอนเมือง ฮ่องกง วันละ 3 เที่ยวบิน

ทำให้พวกเราวางแผนในการเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน  ได้ครอบคลุม และง่ายขึ้น

เข้าไปเช็คราคาตั๋วกันได้เลยที่ลิงค์นี้ https://www.airasia.com

การเดินทางเข้าเมืองทำได้หลายวิธี จะนั่งรถบัส, Airport Express ก็ได้

รอบนี้พวกเราเลือก Airport Express จุดซื้อตั๋วตามในรูปเลยค่ะ

และยังสามารถซื้อบัตรปลาหมึก หรือ octopus card ได้ที่นี่

สำหรับเจ้าบัตรปลาหมึกแนะนำว่าควรมีติดไว้ค่ะ ทำให้การเดินทางของเราง่ายและสะดวกขึ้น

จะขึ้นรถไฟ รถบัสได้หมด และยังใช้จ่ายตามมินิมาร์ทได้ด้วย

ราคาบัตรรอบแรก 150 เหรียญฮ่องกง ใช้ได้ 100 อีก 50 จะเป็นค่ามัดจำ

ซึ่งจะได้เงินคืนตอนคืนบัตร หรือใครจะเก็บบัตรไว้ใช้ทริปต่อไปก็ได้นะ

พวกเรารีบเข้าที่พักเพื่อเช็คอินเก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย

ที่พักของเราในทริปนี้ ชื่อว่า Geo Home Holiday Hotel อยู่ในย่านมงก๊ก

ใกล้สถานี Mong Kok และ Prince Edward พวกเราจองมาได้ในราคาที่น่ารักคือคนละประมาณ 800 บาท 

ที่พักจะอยู่ที่ชั้น 9 ของตึก ห้องสะอาด เตียงคือโอเค มีทั้งแบบห้องคู่ห้องเดี่ยว และมีแบบ 3 คน 5 คน ก็มีนะ

เจ้าของที่นี่พูดไทยได้นิดหน่อยด้วย สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี เลย

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พวกเราก็เช่นกัน ตั้งใจจะไปกินติ่มซำ Tim Ho Wan แบบต้นตำรับกันสักหน่อย

แต่เจ้าของที่พักแนะนำให้ไปอีกร้าน ซึ่งอยู่ในห้างตรงกันข้ามกับที่พักเรา

ชื่อว่าร้าน Banquet รสชาติอร่อยเลย โดยเฉพาะขนมจีบกุ้ง แต่บรรยากาศก็

โต๊ะจีนงานแต่งนั่นแหละจ้า หันหน้ามองกันแล้วก็ขำ แต่มันก็ได้ฟิลล์คนพื้นที่ดีเนอะ 555

กินอิ่มพร้อมแล้วสำหรับปลายทางที่พวกเราตั้งใจมา
คือทริปนี้ มีจุดเริ่มต้นจากเพื่อนคนที่มาด้วยคนนึงไปเจอรูป รูปหนึ่งใน IG และอยากไปมาก พวกเราที่เหลือก็เลย ไปสิจ๊ะ แล้วจะรออะไรกันอยู่

#วิธีการเดินทาง MTR Causeway Bay Exit E เดินหาป้ายรถเมล์สาย 25 อยู่ตรงข้าม Great George Building นั่งไปลงสุดสายที่ Braemar Hill Bus Terminus  นี่คือป้ายรถเมลล์ที่เราลง

ต่อจากนั้นคือเดินจ้า เดินไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางขึ้นเขา เดินจนเริ่มรู้สึกว่า จุดที่ “เราตั้งใจจะไป” กับจุดที่ “เรากำลังไป” คือคนละจุดกัน

เพราะที่เราอยากไปคือ Kowloon peak แล้วเรามาทำอะไรกันที่ Braemar Hill

แต่เราก็ไปต่อเรื่อยๆ จนเจอชาวต่างชาติคู่หนึ่ง เราไม่รีรอที่จะเข้าไปถามว่

ที่ที่เราจะไปเนี่ยมันอยู่ตรงไหน หลังจากได้คำตอบเข่าแทบทรุด เพราะเราเดินผ่านมาเกือบ 2 กิโลแล้วจ้า

//ปล.หากเพื่อนๆ บังเอิญหลงตามรอยเรามาจนถึงที่นี่ จะเจอศาลา ที่มีธารน้ำตก

ให้เลี้ยวขวาตรงศาลา เดินตามริบบิ้นสีขาวเล็กๆ ไปเรื่อยๆ อาจจะเหนื่อยหน่อยสำหรับบางคน แต่รับรองว่ามันเกินคุ้มกับสิ่งที่รอเราอยู่

หลังจากที่เดินตามทางริบบิ้นสีขาวไปสักพัก

นุ้ยและเพื่อนผู้หญิงเริ่มหมดแรงเพราะทางที่กำลังไปเป็นทางขึ้นเขา เพื่อนๆ

ผู้ชายในก๊วนรวมทั้งต้น ก็อาสาไปสำรวจพื้นที่ให้สาวๆ นั่งรอกันก่อน หายไปกันสักพักก็โทรมาให้รีบตามขึ้นไป

พวกเรากลุ่มผู้หญิงใช้เวลาเดินขึ้นเขานานเลยแหละค่ะ แต่ก็ไปจนถึง

กว่าจะถึงนี่ขอบอกว่าแวะพักตลอดทางเลยค่ะ เกือบถอดใจแล้วเชียว แต่พอไปถึงก็ถือว่าคุ้มค่ะ เพราะบนเขาสวยมาก

วิวสวยมากจริงๆ สวยจนแทบไม่อยากลงเลยทีเดียว ได้เห็นฮ่องกงในแบบที่เราไม่เคยเห็น

พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้าไปเรื่อยๆ พวกเรานั่งกันจนฟ้าเปลี่ยนสี ยิ่งมืดยิ่งสวย แต่ไม่แนะนำให้เพื่อนๆ อยู่จนมืดเพราะอาจจะหลงทางได้

เมื่อลงมาจากเขา ท้องร้องเสียงดังกว่าพวกเราพูดกันซะอีก ต้องรีบตามหาร้านอร่อยกันเลย เรามีร้านที่ตั้งใจจะไปกันแล้ว ซึ่งตอนนี้อยู่กันที่ Causeway Bay บรรยากาศตอนกลางคืนก็จะคึกคักหน่อย

ด้วยความที่ท้องร้องดังขึ้นเรื่อยๆ รอไม่ไหว เจออะไรข้างทางก็ต้องลอง

นี่คือ วัฟเฟิลฮ่องกง ซึ่งมันอร่อยมากในตอนนั้น

ทุกสิ่งอย่างอร่อยหมดเลยจ้า หรือเพราะพวกเราหิว

เดินไปเดินมาหาร้านที่อยากกินไม่เจอ เลยตัดสินใจกินร้านนี้ละกัน
ร้านนี้ชื่อว่า King’s Café ตั้งอยู่บริเวณมุมตึก Capitol Centre Tower II
ถ้าหาไม่เจอ google map เลยจ้า ค้นหาคำว่า King’s Café ก็จะเจอ

เรื่องรสชาติอาหาร จริงๆแล้วแต่รสนิยมความชอบของแต่ละคนแหละเนอะ
ร้านนี้ ถ้าดูจากป้ายเมนูหน้าร้านไฮไลท์น่าจะเป็นข้าวขาหมู แต่พอลองแล้วเราว่าไม่อร่อย พอมาลองจานนี้ข้าวไข่ดาวกับหมูทอดอร่อยเฉยเลย

บะหมี่เนื้อตุ๋นก็อร่อย เส้นจะนุ่มๆ หนึบๆ

ดูเวลา ยังคงทันที่จะไปดู Symphony of Light เพราะมีแสดงตอน 2 ทุ่ม พวกเรารีบตรงดิ่งไปเลยจ้า

นั่งเล่นกันจนหายเหนื่อย แล้วกลับไปต่อกันย่านมงก๊ก เดินเล่นกันยามค่ำคืนอีกสักหน่อย

มงก๊ก เป็นย่านที่หลากหลายอารมณ์มากเลยนะ ช้อปปิ้งสนุกอยากได้อะไรมีหมด โดยเฉพาะช้อปรองเท้า คือเยอะมาก ของกินก็เยอะมาก และยังมีกลุ่มศิลปิน การแสดงต่างๆ

มะม่วงปั่นร้านนี้คืออร่อยมาก มาทุกครั้งกินทุกครั้ง เขามีหลายสาขาด้วยนะ

มอร์นิ่ง เช้าวันที่ 2
เริ่มต้นเช้านี้ด้วยการออกไปหาของอร่อยเหมือนเดิม แต่ยังคงเป็นติ่มซำ และชัวร์ป๊าบว่าต้องเป็น Tim Ho Wan เดินจากที่พักไปประมาณ 16 นาที ไกลอยู่เหมือนกัน แต่ก็ได้เดินดูบ้านดูเมือง ชิลล์ดี

เมื่อก่อนเรามาเราจะกินที่ สาขาเซ็นทรัล แต่รอบนี้มาที่นี่แบบต้นตำหรับ (หรือเปล่า)

ซาลาเปาอบคือฟินทุกครั้งที่กิน

กินอิ่มแล้วมาถึงช่วงเวลาไหว้พระขอพรกันบ้าง พวกเราไปกันที่ วัดแชกง (Che kung Temple) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “วัดกังหันลม” นุ้ยไปวัดนี้มา 2 ครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ทุกครั้งที่ไปเราสองคนมักขอพร และสมหวังทุกครั้ง #ไปฮ่องกงคราวหน้าต้องแวะไปขอพรนะคะ

** ไม่ต้องงงถ้าเจอป้ายภาษาไทยในวัด และทุกคนในวัดพูดไทยได้เกือบทั้งหมด เพราะคนที่ไปไหว้ส่วนใหญ่เป็นคนไทย
การเดินทาง: ลงรถที่สถานี Tai Wai Temple Station สายสีฟ้า ทางออก เดินต่อประมาณ 10 นาที

ต่อไปเราจะไปถ่ายรูปเล่นกันที่ ย่านตึกเก่าฮอลลีวู้ด Hollywood Road
นั่ง MTR ลงสถานี Central ทางออก C

แต่ขอเพิ่มพลังก่อน ร้านนี้ไม่เคยอยู่ในแผน แค่เดินผ่านแล้วหิว ก็เลยแวะ

นุ้ยว่าพวกข้าวหน้าไก่หน้าเป็ดต่างๆ อร่อยทุกร้าน ไก่ดีนุ่ม หนังกรอบ ชอบๆ

จานนี้แพงด้วยนะ จานนึง 90 เหรียญเลยนะ แต่นุ้ยว่ามันไม่อร่อยหนังหมูแข็งไปหน่อย และด้านล่างเป็นมันหมูทั้งหมด แต่คนอื่นอาจจะชอบเนอะ

ในย่านนี้ยังมีคาเฟ่ชิคๆ อีกหลายร้านเลย

เพื่อนบอกร้านนี้ทาร์ตไข่ ชื่อดัง อร่อย ต้องกิน เขาบอกว่าอร่อย เราก็ต้องลอง คนต่อคิวพอสมควร

ชิ้นละ 9 เหรียญมั้งถ้าจำไม่ผิด มันก็อร่อยดีนะ เนื้อไข่ละมุนมาก

หลังจากอิ่ม เดินไปเรื่อยๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ มีมุมเยอะ Graffiti ก็เยอะ ตึกต่างๆ ก็สวย เลือกถ่ายตามใจเลย

แล้วพวกเราก็รีบกลับไปช้อปปิ้งกันที่ย่านมงก๊ก เก็บตกของที่ยังไม่ได้ช้อปจากเมื่อคืนนิดหน่อย

และรีบไปเอากระเป๋าจากที่พัก เพื่อที่จะไปไหว้พระกันที่วัดนองปิง นั่งกระเช้ากันจ้า

คงเป็นอีกสถานที่หนึ่งเนอะ ที่ไปฮ่องกงแล้วไม่ควรพลาดเลย
คือการขึ้นกระเช้านองปิง ไปไหว้พระใหญ่
การเดินทาง : MTR ลงที่สถานี Tung Chung Station ทางออก B เดินประมาณ 2 นาทีก็จะถึงสถานีขึ้นกระเช้

แนะนำว่าให้มาช่วงบ่าย หรือเย็นเหมือนนุ้ย จะได้บรรยากาศแบบนี้ แสงอาทิตย์กำลังสวย 
ที่สำคัญไม่ต้องรอคิวขึ้นกระเช้าเลยจ้า เพราะส่วนใหญ่คนจะชอบมากันตั้งแต่เช้า

เวลาทำการ เช็คเวลากันดีๆ นะ
– จันทร์ – ศุกร์ : 10:00 – 18:00 น.
– เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9:00 – 18:30 น.

ลงมาจากจากกระเช้าแล้ว
หากเงินยังเหลือช้อปต่อที่ City gate ได้เลย เพราะจากที่นี่ไปสนามบิน ใช้เวลาแค่ประมาณ 15 นาที
มีรถบัสบริการส่งตรงถึงสนามบินเลยจ้า

2 วัน 1 คืนผ่านไปเร็วมากจริงๆ
แต่พวกเราก็ใช้เวลาได้คุ้มค่ามาก
ได้เห็นฮ่องกงในมุมมองใหม่จากที่เคยเห็น และได้กิน ได้ช้อป ครบสูตรความเป็นฮ่องกง

แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าเด้อค่ะ


แต่สำหรับคนที่กลัวการออกเดินทางด้วยตัวเอง 

ไม่ว่าจะพูดภาษาไม่ได้ หรืออาจจะไม่สะดวกเรื่องการเดินทาง จองตั๋ว จองที่พัก 

และกลัวที่จะเที่ยวเองได้ไม่ครบ แบบที่ต้องการ  

นุ้ยแนะนำให้ลองไปกับทัวร์ค่ะ แน่นอนว่า สะดวก สบาย ได้ครบทุกปลายทางที่ต้องการ 

ลองเข้าไปดูกันที่นี่นะคะ  https://tourkrub.co/hongkong-tour/price-cheap

…………………………………………………………………………

ติดตามเรา  Nui ka ton แฟนพาเที่ยว  

Fanpage : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels

WebSite : www.mylifemytravels.com

Youtube : https://goo.gl/0bnw9a

Instagram: https://goo.gl/G7qsVC

….

สนใจติดต่องานได้ที่

E-Mail :  mylifemytravels@gmail.com

Tel.  :  094-5929142

#แฟนพาเที่ยว #mylifemytravel #NuiKaTon #Coupletravelers