kamakura เมืองใกล้โตเกียว เห็นวิวฟูจิ

ให้ความคิดถึงนำทาง …ให้ทุกการเดินทางเกิดขึ้นเพราะความรู้สึก

ครั้งนี้เราสองคนเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกันค่ะ ไปให้หายคิดถึง รีวิวเราไปกันที่เมือง Kamakura  เป็นเมืองเล็กๆ สุดคิ้วท์ริมทะเล  ที่สามารถมองเห็นวิวฟูจิ ได้ด้วย  และห่างจากโตเกียวเพียงแค่ประมาณ 1 ชม. เท่านั้น  เป็นเมืองที่สามารถไปเที่ยวแบบ One day trip ได้ ทริปนี้เราสองคนจึงเลือกไปเช้าเย็นกลับกันค่ะ ซึ่งตื่นเช้าจิบกาแฟที่โตเกียวแบบชิลล์ สายๆ ค่อยออกเดินทางก็ยังทัน เพราะในช่วงซัมเมอร์แบบนี้ กว่าฟ้าที่ญี่ปุ่นจะมืดก็ปาไปเกือบทุ่มเลยค่ะ ทำให้เรามีเวลาเที่ยวเพิ่มขึ้น

.

เกือบทุกทริปที่เราออกเดินทางไปต่างประเทศ มักพกกาแฟติดตัวไปด้วย จะได้ดื่มเติมความสดใสตอนเช้าๆ ก่อนออกเที่ยว ทริปนี้ก็เช่นกันค่ะ เราพกเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู สูตรริช อโรม่า  ติดกระเป๋าไปด้วย ตื่นเช้ามากับวิวโตเกียวสกายทรี กับความกลมกล่อม เช้านี้เป็นเช้าที่ดีมากๆ พร้อมออกเที่ยวแล้วค่า   

และตอนนี้ทางเนสกาแฟ มีโปรโมชันที่ทุกคนรอคอยมานาน คือ โปรโมชันแก้วเนสกาแฟ Limited Edition ให้สะสมถึง 12 ลาย โดยธีมในปีนี้จะเป็นการเฉลิมฉลองวันกาแฟสากล ผ่านการเล่าเรื่องของการเดินทางของกาแฟที่เกิดขึ้นทั่วโลก  เป็นลายสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ มีลายฟูจิประเทศญี่ปุ่นด้วยนะเออ เหมาะกับทริปเรามากกกกก  สำหรับใครเป็นสายสะสมเหมือนกัน  ง่ายมากๆ เลยค่ะ เพียงแค่ซื้อสินค้าเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู, เนสกาแฟ เรดคัพ, เนสกาแฟโกลด์ รสชาติใดก็ได้ และคอฟฟี่เมตที่ร่วมรายการ ครบ 249 บาท รับฟรีไปเลย  แก้วเนสกาแฟ Limited Edition 1 ชิ้น มูลค่า 59 บาท มีให้สะสม 12 ลาย 12 สถานที่ เป็นคอลเลกชันที่หายากและมีให้เก็บสะสมในช่วงเวลาไม่นาน  ใครๆ ก็กำลังตามล่าอยู่ ต้องรีบน๊า เดี๋ยวเก็บไม่ครบทุกลาย 

สามารถไปหาสะสมกันได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปเลยน๊า

“ ให้แก้วกาแฟเดินทาง ค้นหาและสะสมการเดินทางของกาแฟทั่วโลก”

ถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปเที่ยว Kamakura ด้วยกัน  ไปดูว่าเมืองเล็กๆ เมืองนี้ว่าพกความน่ารักมามากขนาดไหน 

#NESCAFE #แก้วเนสกาแฟ #Nescafearoundtheworld #NescafeDay #Kamakura # เที่ยวญี่ปุ่น

วันเดย์ทริปเมือง Kamakura

เมืองเล็กๆ ริมทะเลทะเลที่เราสามารถมองเห็นวิวฟูจิได้ ทั้งที่ใกล้กับโตเกียวมากๆ

สำหรับทริปนี้เราเที่ยวโตเกียวแบบ 5 วัน  ซึ่งเราในเมืองโตเกียวทุกคืน นอนที่เดียวที่เดิมด้วยนะ  อยากไปเที่ยวไหนก็นั่งรถออกไป เลือกเมืองเล็กๆ ใกล้โตเกียว ย่านน่ารักๆ ที่เดินทางไม่ไกล ทำให้ทุกๆ วันของเรา ไม่ต้องจัดกระเป๋าใหม่  ไม่ต้องตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อออกเดินทาง  เราเลือกที่จะนั่งชิลล์กับบรรยากาศรอบที่พัก ซึ่งครั้งนี้เรานอนที่ย่าน Asakusa ตื่นเช้ามาเจอวิวแบบนี้ทุกวัน

และนี่คือความชิลล์ของเราสองคน นั่งจิบเนสกาแฟ ตอนเช้าๆ กับบรรยากาศสบายๆ   ทริปนี้ เราพกเนสกาแฟเบลนด์ แอนด์ บรู สูตรริช อโรม่า  ติดกระเป๋าไปด้วย เพิ่มความกลมกล่อมให้ทริปของเราได้เยอะเลยค่ะ

และมีข่าวดีมาบอกกัน สำหรับคนรักเนสกาแฟ และรักการสะสม เพราะตอนนี้ทางเนสกาแฟ มีโปรโมชันที่ทุกคนรอคอยมานาน คือ โปรโมชันแก้วเนสกาแฟ Limited Edition ให้สะสมถึง 12 ลาย โดยธีมในปีนี้จะเป็นการเฉลิมฉลองวันกาแฟสากล ผ่านการเล่าเรื่องของการเดินทางของกาแฟที่เกิดขึ้นทั่วโลก  เป็นลายสถานที่ท่องเที่ยวของแต่ละประเทศ มีลายฟูจิประเทศญี่ปุ่นด้วยนะเออ เหมาะกับทริปเรามากกกกก

สำหรับใครเป็นสายสะสมเหมือนกัน  ง่ายมากๆ เลยค่ะ เพียงแค่ซื้อสินค้าเนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู, เนสกาแฟ เรดคัพ, เนสกาแฟโกลด์ รสชาติใดก็ได้ และคอฟฟี่เมตที่ร่วมรายการครบ 249 บาท รับฟรีไปเลย  แก้วเนสกาแฟ Limited Edition 1 ชิ้น มูลค่า 59 บาท มีให้สะสม 12 ลาย 12 ประเทศ  เป็นคอลเล็คชันที่หายากและมีให้เก็บสะสมในช่วงเวลาไม่นาน  ใครๆ ก็กำลังตามล่าอยู่ ต้องรีบน๊า เดี๋ยวเก็บไม่ครบทุกลาย 

สามารถไปแลกซื้อกันได้ที่  Lotus’s, BigC, Tops, 7-Eleven รวมถึงช่องทางออนไลน์ Shopee/Lazada

เริ่มต้นวันด้วยสิ่งดีๆ ขอให้วันนี้ดวงดีเจอฟูจิแบบเต็มๆ ตาด้วยน๊า

ตอนนี้พร้อมออกเดินทางไปเมือง Kamakura กันหรือยัง

สำหรับการไป Kamakura เดินทางง่ายมาก ให้เราขึ้นรถไฟจาก สถานี Shinjuku นั่งรถไฟ JR  Shonan-Shinjuku line ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. เท่านั้นคือ

เมื่อไปถึง Kamakura Station แนะนำให้ทุกคนซื้อ Enoden 1 Day Pass ผู้ใหญ่ 800 เยน /เด็ก 400 เยน

 ซึ่งจะทำให้เรานั่งรถไฟสุดคลาสสิค Enoden เที่ยวเมือง Kamakura ได้แบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว  สามารถซื้อได้ที่ตู้ที่สถานทีเลยน๊า หน้าตาตั๋วจะเป็นแบบนี้

พิกัดแรกเราตั้งใจไปไหว้ใหญ่ไดบุตสึ ที่วัด Kotokuin  เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน

นั่งรถไปลงที่สถานี Hase ซึ่งระหว่างทางเดินไปวัดมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกเต็มไปหมดเลยค่ะ

หลังจากไหว้พระเสร็จเดี๋ยวจะพาวนออกมาเดินเล่นกันนะคะ

เป็นพระใหญ่ไดบุตสึองค์ใหญ่มาก ใหญ่กว่าภูเขาที่อยู่ด้านหลังองค์พระ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเกือบ 800 ปีเลยนะคะ มาถึงเมืองนี้แล้วก็อยากให้ทุกคนแวะไปกราบสักการะกันนะ  ซึ่งหลายๆ คนที่มาเมืองนี้ มาเพื่อตั้งใจที่จะมากราบองค์พระใหญ่อย่างเดียวแล้วกลับก็มีน๊า

กราบพระกันเสร็จก็ได้เวลาสำรวจเมืองแล้วค่ะ  ระหว่างทางเดินกลับสถานีได้แวะถ่ายรูปร้านรวงต่างๆ ล้วนตกแต่งกันน่ารัก

เมื่อมาถึงที่นี่ สำหรับสายหวาน สายขนม  แนะนำร้านนี้เลย Kannon Coffee  ไฮไลท์คือขนมที่เป็นรูปองค์พระใหญ่  มีทั้งเครปและคุกกี้   

เราเลือกสั่งเครปค่ะ  มี 2 รส ให้เลือก สับปะรด และเชอรี่เราเลือกเชอรี่มาค่ะ ก่อนกินก็หันไปถามพี่ต้นว่ามันกินได้จริงๆ ใช่ไหม   แอบขำตัวเองแต่ก็กินหมดนะ

ถ้ามาถึงเมืองนี้ มีหนึ่งเมนูที่เราจะเห็นได้ทั่วไป และแทบทุกร้านจะต้องมีเมนูนี้คือ ข้าวด้งหน้าปลาตัวเล็กๆ หรือเรียกว่าปลาชิราสุ เป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้ค่ะ  และเราสองคนก็ไม่พลาด   ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าพี่ต้นก็ไม่พลาดที่จะลองชิม ซึ่งร้านที่เรากินก็คือตามรูปนี้นะ เพราะร้านนี้มีซุปไก่ที่นุ้ยกินได้ เราเลยแวะร้านนี้กัน

พี่ต้นสั่งแบบอยากลองทั้งแบบสด และแบบที่สุกแล้ว หลังจากชิมนางบอกอร่อยแบบอร่อยเลย  ชอบปลาตัวเล็กแบบสดมากกว่าแบบสุก  จะแอบกระซิบว่าพี่ต้นลองกินถึง 2 ร้าน แต่บอกว่าชอบร้านนี้มากกว่า นุ้ยจึงเลือกร้านนี้มาเขียนบอกต่อกัน

ยังไม่จบ แค่สถานีแรกเราก็ใช้เวลาไปสองชั่วโมงแล้วจ้า  ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นสายชอบกินพุดดิ้ง ชอบมาก ชอบถึงขั้นลองทำเอง  เมื่อเดินผ่านร้านเราจะปล่อยผ่านไปได้ยังไง ร้านนี้จะขายพุดดิ้งแค่อย่างเดียวมีหลายรสชาติให้เลือก นุ้ยเดินเข้าไปซื้อมา 1 ถ้วย ตามประสาคนชอบกิน ชอบลอง  ไม่ได้ตั้งใจถ่ายรูปด้วยนะ  แต่พอกินไปแล้ว มันมีคำถามในใจ เขาทำยังไง ทำไมเนื้อมันละมุนขนาดนี้ มีความนุ่ม ความละมุน หวานน้อย ส่วนตัวคาราเมลมีความหวานปนขมนิดๆ ขมในเวอร์ชั่นที่ตั้งว่าจะต้องขมแบบนั้น  แล้วก็ตักป้อนพี่ต้นไป 1 คำ นางก็เลยบอกว่าเอามาถ่ายรูปเลย สภาพก็เลยเป็นอย่างที่เห็นค่ะ เละ  เพราะเรากินไปแล้วหลายคำ  แต่อยากเอามาบอกต่อจริงๆ ว่ามันอร่อย นุ้ยว่าคนชอบพุดดิ้งน่าจะชอบเหมือนกัน

ตอนนี้เรานั่งรถไฟไปต่อกันที่ Cafe Yoridokoro カフェ ヨリドコロ  เป็น 1 ในสถานที่ของเมืองนี้ที่ดึงดูดให้เรามา เพราะเห็นทั้งรูปทั้งคลิป แล้วมันน่าน่ารัก คาเฟ่เล็กๆ ริมรางรถไฟ

ร้านน่ารัก แต่รอคิวนานหน่อยนะ และต้องอาศัยดวง  ว่าจังหวะที่เราไปจะได้นั่งริมหน้าต่าง หรือมุมด้านนอกหรือเปล่า ถ้าไม่ก็จะไม่เห็นวิวใดๆ เลย 

.

เปิดเวลา 07.00-17.15  (ปิดทุกวันอังคาร)

ร้านนี้ลง Inamuragasaki Station

ซึ่งจากสถานี Inamuragasaki Station ถ้าเราเดินไปทางฝั่งทะเล เราจะเจอมุมที่เห็นวิวฟูจิถ่ายคู่กับทะเลทรายสีดำด้วยนะ  หรือจะเดินไปเรื่อย จะเจอกับคาเฟ่นี้ มันชิลล์มากๆ เลย

และนี่คือมุมไฮไลท์ของเมืองนี้  ถ่ายรูปตามรอยอเนิเมะ SlamDunk ให้ลงที่สถานี Kamakurakokomae Station

แต่เธอจ๋า ผู้คนมหาศาลล้านแปด  อันนี้ก็อาจจะต้องพกดวงมาด้วยเช่นกัน  หรืออาจจะต้องไปค้างคืน ตื่นเช้ามาถึงจะได้มีผู้คนน้อยๆ ถ่ายรูปได้สวยๆ น๊า 

แม้ว่าคนจะเยอะแต่ตอนที่ยืนดูด้วยสายตา เป็นมุมที่สวยมากๆ เลยนะ

และเราก็นั่งรถเล่นไปเรื่อยๆ ตามจุดต่างๆ เพื่อถ่ายรูปคู่กับรถไฟ Enoden

ตอนเย็นเราแนะนำสองพิกัด สำหรับการดูวิวฟูจิแบบสวยๆ

พิกัดแรกคือ Katase Enoshima Coast East Beach  เป็นจุดที่สวยมากๆ   เมื่อก่อนนุ้ยเคยเห็นรูปของที่นี่ จะโล่งๆ บรรยากาศคือโรแมนติกมาก แต่ตอนนี้บรรยากาศจะฟิลล์สนุกสนาน ผู้คนมากมาย รวมถึงร้านค้าต่างๆ เปิดเรียงรายกันริมทะเลเลยค่ะ

ซึ่งไปจุดนี้ให้ลงที่  Enoshima Station แล้วเดินต่อนะคะ

ตอนไปถึงแสงแรงมากๆ ยังมองเห็นเพียงแค่เงาฟูจิ แต่ถ้าอยู่ตอนจนถึงเย็น สวยกว่านี้แน่ๆ 

แต่นุ้ยมีอีกหนึ่งพิกัดที่เล็งไว้ว่าอยากไป  ก็เลยนั่งกันที่นี่ไม่นานนัก

และขอปิดท้ายกับอีกหนึ่งพิกัดสำหรับดูฟูจิ แบบโรแมนติก ที่นุ้ยเล็ก

ให้ลงที่สถานี Shichirigahama Station แล้วเดินต่อไปริมทะเลนะคะ จะเห็นทั้งทะเลทรายสีดำ และฟูจิแบบนี้เลย

มันดีต่อใจมากๆ เลยน๊า

My Life My Travel