My Life My Travel

 

นี้จะพาไปพักผ่อนกันแบบไม่ใกล้ไม่ไกล

แต่โดนใจคนพิเศษแน่นอน …เชื่อเราดิ !!!

เพราะที่นี้คือ “อมารี หัวหิน”

 

การเดินทางในวันนี้ นุ้ยเลือกที่จะขับรถไปเองคะ เพราะค่อนข้างที่จะสนุกกว่า และสะดวกที่สุด

โดยรอบนี้นุ้ยเลือกใช้บริการของ  https://www.hertzthailand.com/

ที่สำคัญมีราคาโปรโมชั่น 789 บาทถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ลองโทรเช็คกันได้นะค่ะ 02 266 4666 ต่อ 1101-1107

 

นุ้ยรับรถที่สนามบินสุวรรณภูมิ และคืนรถที่สนามบินดอนเมือง

ถ้าหากเราเช่ารถเกิน 6 วัน คืนต่างสถานที่แบบไม่มีค่าธรรมเนียมด้วยนะเออ

 

 

 

 

 

 

 

รถที่นุ้ยเลือกวันนี้เป็น Vios คะ เน้นรถเล็ก ขับง่าย จอดสะดวก และไม่เปลือกน้ำมันด้วย

ถ้าพร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ

จากกรุงเทพใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

โรงแรมตั้งอยู่บริเวณหาดเขาตะเกียบ  หากไปจากกรุงเทพจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ

อยู่ริมถนน สวยเด่น มองหาได้ไม่ยากเลยคะ

นุ้ยเดินทางมาถึงโรงแรมในช่วงบ่าย

มาถึงปุ๊บก็รีบเช็ค  ล็อบบี้ของอมารีหัวหิน สวย หวาน สดใสมากๆ เลย

สีน้ำเงินเข้าสด ให้อารมณ์ริมทะเลสุดๆ และความขาวของผนังห้อง ทำให้ล็อบบี้สวย สว่าง มาก

หลังจากเช็คอินเรียบร้อย ในช่วงบ่ายนุ้ยเลือกที่จะนั่งชิล

จิบน้ำชายามบ่ายด้วยเซ็ต Afternoon Tea  ตรง Coral lounge ใกล้ๆ กับล็อบบี้

เป็นห้องที่มีความสดใสมาก ห้องน้ำสดใส

ห้องนี้ยังเป็นห้องที่ให้ทุกคนได้เข้ามานั่งพักผ่อนกันอีกด้วย

ยามค่ำคืนก็มานั่งเล่น มีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้เล่นกันแก้เบื่อ สำหรับคนที่ไม่ติดละคร

บอกเลยว่าเป็นเซ็ตที่คุ้มมาก เพราะราคาเซ็ตนี้สำหรับทาน 2 คน เพียงแค่ 400++

สามารถเลือกได้ตามชอบว่า ชา หรือกาแฟ และในเซ็ตยังมี Mini chicken wrap, Mini burger lab moo, Thung Thong,

Raisin scone, Rasberry cheese cake, Chocolate eclair

คุ้มอร่อย กะนั่งชิล กลายเป็นอิ่มซะงั้น

หลังจากทานเสร็จ ก็ยังแอบนั่งเล่นต่ออีกพักใหญ่ก่อนจะกลับไปพักที่ห้องนอน

ห้องที่นุ้ยพักวันนี้เป็น One Bed Room Suite

โทนสีห้องจะเป็นสีขาวทั้งผนังและเพดาน  และเพิ่มความสดใสด้วยสีเหลือ ของโซฟา ผนังบางส่วน

รวมถึงหมอนและผ้าคุมเตียง

สวยหวานถูกใจที่สุดๆ  และยังเพิ่มรายละเอียดเล็กๆ ด้วยการใช้ไม้สีขาวมาใช้ในการตกแต่ง

ไม่ว่าจะเป็นประตู โต๊ะ ตู้ กรอบรูป

ห้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ  ส่วนของห้องนอนและห้องนั่งเล่น

โดยมีประตูไม้สีขาวบานสไลด์  กั้นระหว่างกลาง

ห้องนั่งเล่นจะมีโซฟานุ่มๆ ให้เรานได้นั่งดูทีวี โต๊ะและโซฟาสีสันสดใสอีกมุมหนึ่งของห้อง

และมี Welcome Fruits  พร้อม ลูกกวาดน่ารักๆ วางไว้ให้อีกด้วย

 

ในห้องนอน แน่นอนว่ามีเตียงแสนนุ่ม โต๊ะทำงานเล็กๆ มุมขวาของห้อง

ห้องน้ำห้องแต่งตัวก็อยู่ในส่วนนี้เช่นกัน

มีอ่างอาบน้ำทรงกลม ขนาดใหญ่ นอนแช่ฟิน ๆ 2 คนได้สบายมาก

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในห้อง จะเป็นผลิตภัณฑ์ตัวเดียวกับที่ใช้ในสปาเลยค่ะ

กลิ่นหอมมากๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากสำรวจห้องอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อย เผลองีบไปตอนก็ไม่รู้

ตื่นมาอีกทีฟ้าใกล้มืดแล้ว คืนนี้ตั้งใจจะไปเดินเล่นที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน เพราะห่างจากโรงแรมแค่ประมาณ 10 นาที

แต่ก่อนออกไป ขอหาของอร่อยรองท้องก่อนสักหน่อย จะได้ช้อปเพลิน

มื้อเย็นนุ้ยฝากท้องไว้ที่ห้องอาหาร  รีฟ เดล แอนด์ ไวน์เลาจน์

ภายในห้องเน้นตกแต่งด้วยไม้ ไม่ว่าจะเป็นผนัง หรือโคมไฟ เรียบแต่หรูไม่น้อยเลยทีเดียว

และยังเพิ่มความสดใสด้วยไฟสีฟ้า ทำให้ห้องนี้กลายเป็นห้องดินเนอร์ที่โมแมนติกเลยหล่ะ

 

 

 

 

 

 

 

ห้องอาหารรีฟ เดลี แบ่งโซนที่นั่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ด้านในห้อง

และอีกส่วนคือ โต๊ะดินเนอร์ใต้แสงเทียนด้านนอก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วันนี้นุ้ยสั่ง Nasi Goreng เป็นเมนูประจำวันของ รีฟ เดลี่

จานนี้เป็นข้ามผัดสไตล์อินโดนีเซีย เสิร์ฟมาพร้อมสะเต๊ะไก่ และ และไข่เจียว

จานนี้เป็นสปาเก็ตตี้ซีฟู๊ดผัดขี้เมา  อร่อยแต้ๆ เลยเจ้า

เข้มข้นถึงรสชาติ แต่ไม่เผ็ดมากจนเกินไป

ข้าวเหนียวส้มตำ เสิร์ฟมาแบบเซตเบนโตะ น่าหม่ำมากๆ

ที่สำคัญอร่อยด้วยนะเออ

สำหรับเมนูขนมหวานนุ้ยจำชื่อไม่ได้จริงๆ

เป็นช็อคโกแลต เนื้อคล้ายมูส ไม่หวาน และไม่ขมมาก อร่อยหอมช็อคโกแลตมากๆ

เสิร์ฟมาพร้อมผลไม้หลากชนิด และไอศครีมแมคคาเดเมีย

หลังจากทานจนอิ่มแล้ว เราก็ไปลุยกันต่อที่ตลาดโต้รุ่งเลยคะ

ตลาดโต้รุ่ง ห่างออกไปประมาณ 10 นาที

ใครชอบช้อป ช้อปไป ใครชอบกิน ก็มีอาหารให้เลือกมากมายหลากหลาย

ตลาดที่คึกคักมากๆ แต่ประมาณชาวต่างชาติคล้ายว่าจะเยอะกว่าคนไทย

 

อาหารทะเลเพียบ กุ้ง หอย ปู ปลา ตั้งแต่ไซด์เล็ก จนไซด์จัมโบ้

นอกจากร้านอาหารซีฟู๊ดแล้ว ก็จะมีร้านผัดไทย หอยทอด และ โรตี ที่มีอยู่เกือบเส้นถนน

ขนมเบื้องร้านนี้คิวยาวมาก นุ้ยรอไม่ไหว อดกินตามระเบียบ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เดินวนไปวนมาอยู่ประมาณ 3 รอบ รับรองได้ว่าเพิ่มน้ำหนักไปหลายกิโล

กลับมาถึงโรงแรมหลับปุ๋ย ตืนเช้ามาอีกทีเกือบ 9 โมงแล้ว

นั่งจิบกาแฟริมระเบียงห้อง แอบส่องผู้คนในสระว่ายน้ำอยู่พักใหญ่ก่อนจะลงไปทานอาหารเช้า

ห้องอาหารเช้าของที่อมารีหัวหิน ชื่อว่า โมเสค

เป็นห้องอาหารที่สวยมากบอกเลย ทั้งห้องเต็มไปด้วยโมเสค  สีสันสดใส

ให้อารมณ์สนุกสนาน ตื่นเช้ามาทานอาหารด้วยความสดใส

ไลน์อาหารจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านนอกและด้านใน

ส่วนที่อยู่ด้านนอกจาะเป็น ก๋วยเตี๋ยว เกาหลา โจ๊ก ข้าวต้ม และพวกซาลาเปา ติ่มซำ

อาหารเยอะ และมีความหลากหลายพอสมควรเลยคะ พวกเบเกอรี่ขนมปังต่างๆ มีให้เลือกให้ชนิดมากๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หนึ่งสิ่งที่จะตอบโจทย์ของการพักผ่อนได้ดีมากๆ คือ

การทำสปา  สำหรับนุ้ย นุ้ยว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายมากๆ เลยนะ

เพราะในสปาจะค่อยข้างเงียบ สงบๆ มีเพียงเสียงเพลงเบาๆ และกลิ่นหอม

ทำให้เรารู้สึกได้ถึงการพักผ่อน  ครั้งนี้ก็เหมือนกันนุ้ยไม่พลาดที่จะมาใช้บริการที่  Breeze spa

ซึ่งเป็นสปาของอมารีหัวหินนี่แหละค่ะ

เปิดประตูเข้าไป อึ้งกับความสวยของ Breeze spa  มากๆ

เพราะพื้นและผนังห้องตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคลายดอกไม้ สวยมากๆ

และภายในสปามีกลิ่นหอมมาก

ไฮไลท์เริ่มต้นของที่นี้เลยคือ  Signature welcome shot  ค่ะ เป็นรสชาติที่ไม่เคยลิ้มลองที่ไหนมาก่อน

เป็นน้ำเสาวรส มะนาว และสัปรด ผสมได้อย่างลงด้วย และเคลือบปากแก้วด้วยน้ำตาล

แนะนำว่าถ้าไปทำสปาที่นี้ อย่าลืมหยิบขึ้นมาดื่มนะค่ะ เพราะมันทำให้เราสดชื่นมาก ที่สำคัญคืออร่อย

 

มาพูดถึงตัวสปาของที่นี้กันบ้าง มีหลายโปรแกรมมากๆ มีความหลากหลาย น่าสนใจเกือบทุกตัว

แต่สำหรับตัวที่นี้เลือกทำคือ ซิคเนเจอร์ ทรีทเม้นท์ ชื่อว่า หัวหินทรอปิคาน่า เป็นการกกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5

เพียงแค่ชื่อก็บ่งบอกความเป็นหัวหินแล้วคะ เพราะแพคเกจตัวนี้เป็นการนำเรื่องราวของหัวหินเข้ามาเกี่่ยวข้อง

ไม่ว่าจะเป็นตัวทรีทเม้นต์ ที่มีส่วนผสมจากท้องทะเล น้ำมันหอมระเหยจากกลิ่นผลไม้ในหัวหิน อย่างมะม่วง  ส้ม

และผสมกับกลิ่นของหญ้าแฝงหอม  ที่สำคัญมีมีการนำหอยมาเบี้ยมาใช้ในการนวด ด้วย

ภายในห้องสปา ยังคงตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค

และในห้องยังมีที่ให้เรานั่งพักหลังจากการทำทรีทเม้นต์เสร็จ แบบส่วนตั๊ว ส่วนตัวอีกด้วย

พร้อมกับเสิร์ฟชากลิ่นวนิลาหอมๆ ยิ่งที่ให้สดชื่น

นุ้ยว่าเรื่องในสปา บอกเล่ายังไงก็ไม่เท่าสัมผัสกับตัวเองนะ

หลายคนอาจจะยังไม่เคยลองทำสปา  นุ้ยแนะนำเลยคะ เมื่อไหร่ที่เหนื่อยจากงาน

ร่างกายอ่อนเพลีย การทำสปาเป็นการชาร์ตพลังงานได้เป็นอย่างดีเลย

ออกจากสปามาในช่วงบ่าย ท้องเริ่มหิวหน่อย แต่ไม่ได้ต้องการอะไรที่หนักมาก 

เลยเลือกที่จะไปหาอะไรทานเล่นที่ อควา พูล บาร์ 

ตั้งอยู่ริมสระว่ายน้ำ เป็นช่วงเวลาที่ปล่อยให้ต้นไปแอบส่องสาวๆ ในบิกินี่บ้าง 

 

สระว่ายน้ำของอมารี หัวหิน ถือเป็นอีกสระว่ายน้ำที่สวยมาก และค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว 

มีการไล่โทนสี และระดับน้ำ เป็นการจำลองคล้ายๆ จากผืนทราย ลงสู่น้ำทะเล 

นุ้ยเลือกมานั่งอยู่มุมนนี้ อควา พูล บาร์ จะเน้นขายเครื่องดื่ม และอาหารทานเล่น  รวมถึงพิซซา พาสต้า 

นุ้ยก็เลยจัดหนักด้วยเมนูนี้

พิซซ่ากระเพราไก่  

ใครบอกว่ากระเพราไก่เป็นอาหารสิ้นคิด …เดี๋ยวนี้กระเพราไก่ นำมาดัดแปลงอาหารได้หลายรูปแบบ 

และอร่อยซะด้วย 

 

จำชื่อเมนูไม่ได้ เป็นผัก และ ปลาหมึก ชุปแป้งทอดกรอบ 

ริมสระทั้งทีต้องมีเครื่องดื่มเรียกความสดชื่น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สำหรับแก้วนี้เป็นซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาดเลยนะ  

แต่นุ้ยดันลืมชื่อ อนุญาติให้ตีได้เลย  

จะเป็นคล้ายๆ มาการิต้า และมีส่วนผสมของมะกรูด มะน้ำ 

แต่ทีเด็ดจะอยู่ตรงบริเวณขอบแก้ว ที่ถูกเคลือบด้วยพริก เกลือ ตอนจิบจะรู้สึกซาบซ่ามาก 

เป็นเมนูที่โดนสุดๆ 

 

 

 

 

 

 

 

กินอิ่มไปเดินให้ย่อยกันด้วยเดินสำรวจห้องอื่นๆ กันบ้างดีกว่า

จริงๆ แล้วห้องของอมารีหัวหิน มี 3 แบบหลักๆ คือห้องDeluxe , Family และ One bed room 

 

เรามาเริ่มกันที่ Deluxe กันก่อน 

Deluxe จะมีการแบ่งออกตามวิวของห้อง ไม่ว่าจะเป็นวิวทะเล วิวภูเขา หรือวิวสระว่ายน้ำ 

ซึ่งขนาดของห้อง และการตกแต่ง จะคล้ายกัน ต่างกันที่วิว 

มีทั้งแบบเตียงเดี่ยว และเตียงคู่ 

ต่อมาเป็นห้องแบบ Family Suite 

ภายในห้องจะมี 2 ห้องนอน  2 ห้องน้ำ โทนสีห้องจะคล้ายกับ ห้องที่นุ้ยพักคือ

One bed room suite แต่จะแตกต่างกันตรงที่ลวดลายของผ้า 

ห้องหนึ่งจะเป็นเตียงเดี่ยว และอีกห้องจะเป็นเตียงคู่ 

.

ที่นี้ยังมี ฟิตเนส และคิดส์คลับสำหรับเด็กๆ อีกด้วย 

ฟิตเนสของที่นี้ค่อนข้าง กว้าง และโล่งพอสมควร มองเห็นวิวสวยด้านนอก 

 

คิดส์คลับห้องสีสันสดใสมาก มีของเล่นต่างๆ รวมถึงเกมส์ การ์ตูน และคอมพิวเตอร์ ให้เด็กๆ ได้ใช้

และไม่ต้องเป็นห่วงเลยคะ แอบเห็นมีพี่เลี้ยงเด็กหลายคนเลย 

สิ่งที่นุ้ยอยากนำเสนอมากๆ เลยสำหรับคนที่มาพักอมารีหัวหิน  หรือใครที่มาเที่ยวหัวหิน

แล้วมองหา ร้านนั่งโรแมนติค พาแฟนดินเนอร์ 

ต้องไม่พลาดร้านนี้ Shore line เป็นร้านอาหารริมทะเลของโรงแรมอมารีหัวหินนี่แหละค่ะ 

ที่นี้เปิดให้บริการตั้ง 11.00 น จนถึง 23.00 น. 

นุ้ยก็เลยไปนั่งชิลที่นี้ตั้งแต่เย็น ไหนๆ ก็มาทะเลทั้งที่จะเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง มันใช่ซะที่ไหน 

จุดเด่นอีกอย่างที่ Shore line คือมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง 

และสามารถลงว่ายน้ำได้ด้วย  ช่วงกลางวันเป็นช่วงที่อากาศสดใส

บรรยากาศสดชื่นมากๆ  เจอสระว่ายน้ำริมทะเล  กับโซฟาสีสันสดใสอีก 

 

ก่อนมื้อดินเนอร์มาถึง เครื่องดื่ม เบาๆ สักแก้ว 2 แก้ว รอเวลา กันก่อน 

หรือจะลงไปเดินเล่นริมทะเล ฟินสุดๆ 

สำหรับอาหารก็มีหลากแบบนะคะ ทั้งปิ้ง ย่าง บาร์บีคิว ซีฟู๊ด  อาหารไทย อาหารฟิวชั่น ต่างๆ 

สำหรับจางนี้ชื่อว่า “สมอเรียง” ฟังชื่อแล้วอาจจะงง ๆ สมอเรียงคือชื่อเดิมของหัวหิน 

อาหารจานนี้เป็นเหมือนการนำของดังของหัวหินมาใช้เป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง หรือกุ้งที่มาจากทะเล

ด้านล่างจะเป็นยำมะม่วงสุกหวาน ด้านบนจะเป็นกุ้งที่ย่างมากำลังดี ราดด้วยซอส อร่อยมากๆ 

 

จานนี้เป็นสปาเก็ตตี้ผัดหอยลาย

 

ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน 

เมนูเพื่อสุขภาพก็มา Gravlax 

และที่ขาดไม่ได้เลยคือซีฟู้ดปิ้งย่าง กับน้ำจิ้มแซ่บๆ 

มาดูบรรยากาศยามค่ำคืนกันว่าที่นี้โรแมนติคขนาดไหน 

เลือกจับจองที่นั่งกันได้ตามใจชอบเลย 

สำหรับนุ้ยขอเลือกริมขอบสระน้ำ นั่งดูทะเลแล้วกันเนอะ 

ใครชอบมุมแบบนี้ตามมาเลย 

เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนแสนโรแมนติค เป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่เราได้เติมเต็มความสุขให้กันและกัน 

ความรักยังคงต้องการ การดูแล และการเอาใจใส่เสมอ  ช่วงเวลาดีๆ จะเป็นเครื่องที่ช่วยหล่อหลอม 

ให้ความรักยังคงอยู่ 

 

ช่วงเวลาของความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ 

แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก  เสาร์หน้า อาทิตย์หน้า วันหยุดหน้า วันเกิดปีหน้า 

หรือโอกาสไหนๆ ก็แล้วแต่ ทำให้วันนั่นเป็นวันสำคัญของกันและกันเสมอ  

 

วันกลับเช็คเอ้าท์จากโรงแรมตอนสายๆ ใกล้เที่ยง  นุ้ยขับรถตรงดิ่งไปที่สถานีรถไฟ เพื่อจะไปถ่ายรูปเล่น

และหาร้านกาแฟสักร้าน เพื่อยืดเวลาของความสุขออกไป 

 

 

 

 

ข้อมูลที่พัก 

โรงแรมอมารี หัวหิน 

https://www.facebook.com/HertzCarRental.th

http://www.hertzthailand.com/