sala rattanakosin (ศาลารัตนโกสินทร์) เปลี่ยนวันธรรมดา ให้เป็นวันโรแมนติก

 

sala rattanakosin (ศาลารัตนโกสินทร์)  เปลี่ยนวันธรรมดา ให้เป็นวันโรแมนติก ที่พักกลางกรุง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เมื่อวันสำคัญเดินทางมาถึง

สำหรับหลายคนอาจจะมองข้ามมันไป เพราะไม่มีเวลา งานยุ่งจนหัวฟู และได้แต่หันไปกระซิบบอกคนข้างๆ

ว่า….ยังไงเราก็ยังรักกันเหมือนทุกๆ วัน

แต่เชื่อมั๊ย …นุ้ยว่าจริงๆ แล้วลึกๆ ทุกคนอยากให้วันธรรมดาๆ มันกลายเป็นวันพิเศษขึ้นมาบ้าง

บางครั้งความรักก็ต้องการ  การเติมเต็ม เพิ่มความหวาน ไม่ต้องบ่อย แต่ขอสักหน่อย ให้มันชุ่มฉ่ำหัวใจ

จะชวนทุกคนมาทำให้วันธรรมดา กลายเป็นวันโรแมนติก แบบไม่ต้องเดินทางไกล

เพราะรีวิวนี้นุ้ยจะพาทุกคนไปพักกันที่ sala rattanakosin  โรงแรมหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

โรงแรมที่จะทำให้เราลืมเรื่องวุ่นๆ ของงาน และกรุงเทพไปได้ชั่วขณะ

นอกจากจะเป็นการเอาใจคนข้างๆ แล้ว เรายังได้ชาร์ตแบตไปในตัวด้วยน๊า

ถ้าพร้อมแล้วเราไปกันเลย

 

ศาลารัตนโกสินทร์ เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่นุ้ยหาคำนิยามให้ได้ยากมาก

จะว่าหรูก็หรู จะว่าโมเดิร์นก็โมเดิร์น จะว่าคลาสสิคก็คลาสสิค จะว่าชิลล์ก็ชิลล์

แต่ที่รู้คือ … เมื่อเปลี่ยนที่นอนมาพักที่นี้

มันทำให้วันนธรรมดาเป็นวันที่พิเศษจริงๆ

ตอนไปเช็คอินนุ้ยแทบจะนึกภาพโรงแรมไม่ออกเลยด้วยซ้ำ

เพราะเป็นโรงแรมี่ซ่อนตัวอยู่ซอยเล็กๆ ตรงกันข้ามกับวัดโพธิ์  ทั้งรถและผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน

แต่เมื่อตอนที่เราก้าวผ่านประตูโรงแรมเข้าไป …. มันดูเป็นโลกที่แตกต่าง

 

สิ่งแรกที่รู้สึกคือ …ที่นี้ดูโมเดิร์นจัง ดูน่าค้นหา ดูมีมิติ

ทุกสัดส่วนทุกการดีไซน์ล้วนดูมีรายละเอียด ถ้าดูผิวเผิน นี่คืองานที่ดูหยาบ

แต่จริงๆ แล้ว นี่คือความตั้งใจ คือรายละเอียด คือเสน่ห์

เริ่มเวิ้นเว่อนิดหน่อยเมื่อเจอสิ่งที่ชอบ  ….

นุ้ยเดินทางไปถึงศาลารัตนโกสินทร์ในช่วงเที่ยง

เพราะตั้งใจจะไปทานอาหารเที่ยงที่นั่น  เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าที่นี้อาหารอร่อย

ห้องอาหารของศาลารัตนโกสินทร์ จะแบ่งเป็น 2 โซน คือ อินดอว์และเอ้าท์ดอร์

ในส่วนเอ้าท์ดอร์ จะเหมาะมากในช่วงเช้าและเย็น  ในช่วงเที่ยงอาจจะร้อนไปสักหน่อย เพราะอยู่ริมแม่น้ำ

นุ้ยจึงเลือกในนั่งห้อง ซึ่งอยู่ชั้น 2  เห็นวิวแม่น้ำเหมือนกัน เที่ยง  ๆ แบบนี้ขอวิวสวย แต่แอร์เย็นฉ่ำไว้ก่อ่น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

มาถึงเมนูอาหารกันบ้าง

ขอนำเสนอเมนูนี้เลยคะ เลอค่ามากในเรื่องของหน้าตาและความอร่อย

ข้าวผัดต้มยำกุ้ง  เสิร์ฟมาพร้อมกุ้งแม่น้ำทอดกรอบ ผัดด้วยเครื่องต้มยำ และไข่ต้มยางมะตูม

เมนูนี้ นุ้ยแนะนำคะ รับรองไม่ผิดหวัง

จานต่อมาเป็นลาบเป็ด … เอาซี้..โรงแรมหรูก็มีอาหารแบบนี้เสิร์ฟน๊า

เพื่อให้เข้ากัน ตามมาด้วยเซ็ตส้มตำ ไก่ยาง รสชาติดีเลยดีทีเดียว

แต่ขอปิดท้ายด้วยของหวานที่การันตีความอร่อยโดยนุ้ย แฟนพาเที่ยวคะ

ทารามิสสุ อร่อยมาก เนื้อนุ่มละมุนลิ้นเป็นที่สุด ตักเข้าปากไปหนึ่งความ จะมีรสชาติหลากหลาย

ถ้าใครไปต้องห้ามลืม  สั่งเมนูนี้นะ

ทานจนอิ่มก็ได้เวลาเช็คอินกันแล้วคะ

ปกติเราจะสามารถเช็คอินได้ประมาณ 4 โมงเย็น แต่ถ้าห้องว่าง ก็สามารถเช็คอินเร็วได้นะค่ะ ประมาณ บ่ายสองบ่ายสาม

แนะนำว่าให้ลองสอบถามดูก่อนนะคะ

ห้องที่นุ้ยพักเป็นห้อง 301  เป็นห้องแบบดีลักซ์ริเวอร์วิว

แล้วไปถ่ายเลขหน้าห้องใครมาละนี่  หรือแฟนตัวดี ไปแอบส่องสาวห้องอื่นมา

เข้าไปดูในห้องก่อนค่ะ ชื่อห้องก็บอกเราอยู่แล้วว่า เป็นห้องริเวอร์วิว

เปิดประตูห้องเข้ามาคือเจอเลยค๊า วิวแม่น้ำเจ้าพระยา

ฝั่งตรงกันข้ามคือวัดอรุณ

มันเป็นความชอบส่วนตัวของนุ้ยนะ สำหรับการพักริมแม่น้ำ

ทุกครั้งที่นั่งมองออกไป ทำให้รู้สึกเหมือนชีวิตเราช้าลง ทำให้ผ่อนคลาย

มาดูภายในห้องกันบ้าง

โทนสีห้องจะเป็นสีขาว และดำ  มีการแบ่งสัดส่วนของห้องนอน และโซนห้องน้ำห้องแต่งตัว

ด้วยเคาร์ตอร์เล็กๆ กลางห้อง และโซฟาแสนนุ่ม

 

ในห้องจะมี น้ำดื่มให้ 2 ขวด เราสามารถขอเพิ่มได้นะคะ

โปรดปรานกับผลไม้อบแห้ง คอมพลีเม้นทารีให้เราได้ทานเล่นกัน

น้ำสมุนไพรไทย ส่งตรงถึงห้องทุกๆ ตอนเย็น

 

.

.

เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกที

เห้ย !! ฝนตก แล้วการนั่งชิล หวานซึ้งบน Rooftop หล่ะ  นั่งเศร้าอยู่พักใหญ่ แต่จู่ๆ ฝนก็ซา

และที่สำคัญ พระอาทิตย์โผล่มายิ้มทักทายกันด้วย

 

แค่มีเห็นพระอาทิตย์เท่านั้นหละ

รีบวิ่งออกไปชิลที่ roof top bar  เลยคะ

บรรยากาศนี่ชิลมาก  ลมพัดเบาๆ ริมแม่น้ำ แสงอ่อน ๆ ที่กำลังจะลับขอบฟ้า

เครื่องดื่มดีๆ สักแก้ว แค่นี้ก็ฟิน หรือถ้าแบบไม่มีเวลามาพัก

นุ้ยว่าแค่มานั่งจุดนี้ ก็โคตรโรแมนติกแล้วอะ

อากาศดีๆ เครื่องดื่มดีๆ ….มันก็คือคำตอบของทุกอย่างนะ

สำหรับแก้วนี้นุ้ยจำชื่อไม่ได้จริงๆ เพราะต้นเป็นสั่ง แถมต้นกินหมด ไม่ให้นุ้ยชิมด้วย

แต่สำหรับแก้วนี้นุ้ยสั่ง ซึ่งเป็น Signature แต่ the roof จะมีเครื่องดื่มที่เป็น signature หลายแก้วเลย

แต่นุ้ยเลือกแก้วนี้เพราะมีส่วนผสมของมะม่วง ถ้าจำชื่อไม่ผิดคือ sala sunset (ถ้าจำผิดขออภัย)

เป็นค็อกเทลที่อร่อย ไม้เข้มจนเกิน กินแล้ว นี่แหละรสที่ชอบ

วิวบน roof top bar จะมีมี 2 แบบ คือ

ฝั่งหนึ่งจะเป็นวิวแม่น้ำ และพระปรางค์วัดอรุณ และอีกฝั่งจะเป็นวัดโพธ์

ยิ่งเย็น อากาศยิ่งดี ฟ้ายิ่งสวย

เจอแบบนี้นั่งยาวๆ  … เชื่อนุ้ยเหอะว่าเป็น roof top bar ที่ไม่ควรพลาด

เป็น roof top bar ที่ต้องมาชิลล์

แอบเสียดายนิด ๆ ที่ตอนนี้กำลังมีการบูรณะพระปรางค์ และไม่ได้เปิดไฟ

นุ้ยเคยเห็นนรูปก่อนบูรณะเปิดไฟแสงสีทองอร่ามมาก

….ขอฟินต่อตรงนี้อีกสักแปบก่อนไปกินข้าว……

มื้ออาหารดินเนอร์วันแรกของเรา 

ได้โต๊ะนี้ มุมนี้ ตรงชั้น 2 ถามว่าอยากได้ตรงริมแม่น้ำมั๊ยบอกเลยว่าอยากได้มาก 

แต่จองไม่ทัน.. 

นุ้ยไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า จะมีคนมาดินเนอร์ที่ศาลารัตนโกสินทร์ เยอะขนาดนี้ 

ไม่ดีจริง ไม่มากันหรอกใช่มั๊ย 

ห้องอาหารของศาลารัตนโกสินทร์ ชื่อว่า SALA RATTANAKOSIN  EATERY AND BAR

เป็นห้องอาหารที่ให้บริการทั้งอาหารเช้า เที่ยง และเย็น

เวลาตามนี้

Operation hours:
Breakfast: 07.00 am – 10.30 am
Lunch: 11.00 am – 04.30 pm
Dinner: 05.30 pm – last order 10.00pm

 

แม้เราจะไม่ได้นั่งริมแม่น้ำ แต่เราก็ได้มุมที่สุดจะโรแมนติกนะเออ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อาหารที่สั่งวันนี้ค่อนข้างที่จะหลากหลายแนวมาก สั่งตามใจฉันและเมนูที่พนักงานแนะนำ

จานแรกเป็นเหมือนออเดิร์ฟก่อนมื้ออาหารคะ คอมพลีเมนทารีจากห้องอาหาร 

เก๋ แปลก น้ำพริกหนุ่ม แต่มันก็อร่อยดีนะ

จานแรกที่สั่ง..มาเสิร์ฟแล้ว

เป็นลาบแซลม่อน เซลม่อนไม่สุกมากจนเกินไป เนื้อกำลังนุ่ม ความพิเศษคือมีหอมเจียวด้วยนะ 

แต่ที่พิเศษจริงๆ อยู่ที่วิธีการกินค่ะ คือจะกินเหมือนกับเหมี่ยง เพราะมีใบชะพลูมาให้เราห่อด้วย

มันแปลก แตกต่างกัน แต่ลงตัว อร่อย นุ้ยให้ 3 ผ่าน 

ต่อมาจานนี้ดูหรู ดูดี และอร่อยมาก ชื่อว่า Twice cooked crispy pork belly

เป็นเนื้อหมูอบที่เสิร์ฟมาพร้อมฟักทองบด ชั้นตรงกลางมีผัดผักบุ้ง 

เวลาทานนะนุ้ยแนะนำว่าให้ทานทุกอย่างพร้อมกันใน 1 คำ

จะได้รสชาติเนื้อหมูที่แน่นนุ่ม ตัดกับความละมุนหวานๆของฟักทอง เพิ่มความกลมกล่อมด้วยซอส  

โอ๊ยฟิน บรรยาไปน้ำลายก็ไหลไปสิคะคุณ

จานนี้ชื่อเต็มๆ นุ้ยจำไม่แม่น แต่เป็นฉู่ฉี่ซีฟู๊ด 

มีทั้งปลาหมึก เนื้อปลา หอยแมลงภู่ และกุ้ง  

ทุกอย่างจะผ่านการทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน และราดด้วยฉู่ฉี่ อร่อยกลมกล่อมมากๆ

ปิดท้ายด้วย ยำมะม่วงปูนิ่ม อร่อยแซบมาก 

ต้องยอมรับเลยว่าอาหารที่ศาลารัตนโกสินทร์อร่อยจริงๆ ผ่านมา 2 มื้อ นุ้ยขอปรบมือ  

 

พอกลับมาถึงห้อง 

เห้ยแกร๊ !!  แบบมันสวยมาก ไวน์สักแก้วนะฟินเลย

วันแรกของเราเวลาเดินทางผ่านไปอย่างช้าๆ 

หรือเป็นเพราะว่าเราไม่เร่งรีบกันแน่ 

แต่ที่รู้…การได้พักผ่อนบ้าง กินบ้าง นอนบ้าง ไม่ต้องคิดอะไรให้มาก 

มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข ..ฝันดีราตรีสวัสดิ์น๊า 

Good morning 

เช้านี้เราตื่นกันตั้งแต่เช้า การหลับพักผ่อนเต็มที่ทำให้ตอนเช้าเป็นเช้าที่สดใส 

นุ้ยลงไปทานอาหารก่อน 8 โมง เป็นช่วงที่อากาศยังไม่ร้อน 

การนั่งทานอาหารตอนเช้าริมแม่น้ำ ดูวิถีริมน้ำไปเรื่อย ๆ มันดีเลยนะ

 

 

 

 

 

 

 

อาหารเช้าของศาลารัตนโกสินทร์จะเป็นแบบ a la carte 

ซึ่งมีเมนูให้เลือกเยอะพอสมควรเลยคะ 

นอกจากเมนูให้เลือกแล้วจะมี เซ็ตขนมปังมาเสิร์ฟ สำหรับเครื่องดื่ม ชา กาแฟ เลือกได้ ทั้งแบบร้อนเย็น 

ของนุ้ยจัดไป ลาเต้เย็น และคาปูร้อนของต้น  

เมนูประจำของต้น ไม่ว่าไปที่ไหนก็กินแต่เมนูนี้

และต้นบอกว่าที่นี้อร่อยมาก ไข่สุกกำลังดี ซอสอร่อยมาก 

และเมนูเดิมที่นุ้ยเคยโปรดปรานมาจาศาลาอยุธยา คือ

เมนูเจ้าพระยา เป็นเมนูข้าวต้มเลือกได้ หมู ไก่ กุ้ง 

เสิร์ฟมาพร้อมผัดผักบุ้ง และยำกุนเชียงไข่เค็ม อร่อยและอิ่ม ยาวถึงเย็นเลยงานนี้


กลับเข้าห้องไปนอนดูหนังสักเรื่อง แล้วค่อยไปไหว้พระวัดโพธ์กัน 

แต่อยากโชว์บันไดของที่นี้มาก มีความเก๋สุดๆ 

พอก้าวขาออกจากโรงแรมในช่วงเที่ยงไป 

เหมือนอยู่คนละโลก ผู้คนเยอะมาก ร้านอาหารก็เยอะมากเช่นกัน 

ไหว้พระเสร็จ หาอาหารเที่ยงทาน เดินเล่นดูโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ตกบ่ายกลับเข้ามาโรงแรม 

โชคดีมีแขกเช็คเอ้าท์ ได้ขอเข้าไปดูห้อง  Arun River View Suite

นุ้ยขอรวมภาพไว้ด้วยกันเลยเนอะ แม้จะถ่ายช่วงค่ำๆ ด้วย 

ห้องอรุณ ริเวอร์วิว เป็นห้องแบบที่สูงที่สุด สวยที่สุด

มาดูห้องกันแบบเต็มๆ

เป็นห้องที่กว้างมาก มี Bathtub ซะด้วย 

แต่ที่นุ้ยชอบสุดๆ สำหรับห้องนี้ คือโซฟาตัวใหญ่ที่แสนนุ่ม นุ่มสุดๆ เลย 

ถ้าพักห้องนี้นะ นั่งตรงนี้ไม่ต้องย้ายไปไหนเลย เพราะวิวสวย ไม่มีอะไรบังเลยแม้แต่นิดเดียว 

 

 

 

 

 

 

 

สำหรับเย็นวันนี้ ในที่สุดนุ้ยก็จองโต๊ะได้สำเร็จ ก็จองไว้ตั้งแต่เมื่อวาน 

มุมนี้ฟินปะละ

เครื่องดื่มสักแก้ว …คำบรรยายไม่ต้อง 

จินตนาการตามดูน๊า

เริ่มกันที่เมนูเบาๆ  จำชื่อไม่ได้อ่า  

แต่เป็นทูน่าชั้นบนจะเป็นอโวคาโด้ บีบมะนาวลงไปอีกนิด 

shrimp bacget  กุ้งสด เนื้อหวานอร่อย 

 

จานนี้ Salt n pepper squid หรือ ปลาหมึกชุบแป้งทอด แป้งกรอบ ปลาหมึกนุ่มมาก 

อาหารเบาๆ ช่วงนั่งเล่นตอนเย็นผ่านไป อาหารหนักๆ สำหรับมื้อค่ำมาถึงแล้ว 

จานนี้เป็นมัสมั่นขาแกะ 

มันดีงามมาก เป็นมัสมั่นที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยก็ว่าได้ 

ความเข้มข้นของเครื่องเทศ ความหวานมันของน้ำแกง เมื่อเจอกับขาแกะที่นุ่มละลายในปาก 

ปกตินุ้ยไม่กินแกะ แต่เชื่อมั๊ย ว่าไม่มีกลิ่นสาปกลิ่นคาว อร่อยแบบลืมไปโลกไปเลย

มาถึงเมนูสุดท้าย จานนี้เด็ดและมีประโยชน์มาก ส่วนผสมหลัก จะเป็นกุ้งลายเสือและควีนัว 

อร่อยแบบนัวๆ มันอธิบายรสชาติได้ยาก แนะนำให้ไปลองชิม 


 

ก่อนกลับ…

วันสุดท้ายของการพักผ่อนมาถึงอีกแล้ว 

ตื่นมาแล้วถอนหายใจยาว …ลงไปกินอาหารเช้ากันดีกว่า 

วันนี้ขอนำเสนอ ข้าวไข่เจียวปู เสิร์ฟมาพร้อมผัดผักบุ้ง 

เรื่องอาหารเช้านุ้ยยอมให้ที่นี้เลยคะ แต่ละเมนูเด็ดจริง เป็นอาหารเช้าที่ตั้งใจจะให้อิ่มกันแบบสุดๆ 

และอีกเมนูวันนี้ขอเป็นของหวานแล้วกัน ของนุ้ยเอง ไม่อยากจัดหนักทุกมื้อ 

เป็นวอฟเฟิล กรอบนอกนุ่มใน กับมะม่วงหวานๆ กับเอสเปรสโซ่เข้ม ๆ สักแก้วเอาอยู่เลย 

ช่วงเวลาของความสุขมากผ่านไปเร็วเสมอ 

อย่าทำให้ทุกวันให้เป็นเพียงวันธรรมดา วันที่เคยชินนะค่ะ 

ลองเปลี่ยนให้เป็นวันที่พิเศษดูบ้าง ….. แล้วคุณจะค้นพบความสุขอีกเยอะเลย

สำหรับคนที่มีเวลาน้อยๆ นุ้ยแนะนำเลยคะ มันจะเป็นวันที่พิเศษจริงๆ 

มองภาพ อ่านคำบรรยาย ยังไงก็ไม่ได้สักครึ่ง เท่าได้สัมผัสด้วยตัวเอง…อย่าลืมแคร์ความรู้สึกคนข้างๆ กันน๊า 

ข้อมูลโรงแรม
sala rattanakosin Bangkok
39 Maharat Road, Rattanakosin Island,
Bangkok 10200 Thailand

RESERVATIONS
T 66-2-622-1388
F 66-2-622-1389
E stay@salarattanakosin.com

 

——————————–

ขอบคุณเพื่อนๆ สำหรับการติดตามกันนะค่ะ 

ทักทายกันได้ที่ช่องทางเล่านี้

Facebook : https://www.facebook.com/MyLifeMyTravels/

Instagram : https://www.instagram.com/mylifemytravel/

Website : http://www.mylifemytravels.com/

YouTube : https://goo.gl/Gync7Y

 

My Life My Travel