Kiroro Resort เป็นสถานที่ที่เราสองคนเคยพูดกันว่า
สักครั้งหนึ่งต้องไปให้ได้
แต่หลังจากไปมาแล้ว 💗💗
เรากลับพูดว่า เราต้องไปให้ได้อีกครั้ง

Kiroro Resort.. คงเป็นชื่อที่คุ้นหูของหลายๆ คน ที่เคยดูภาพยนต์เรื่องแฟนเดย์ เพราะเป็นสถานที่ถ่ายทำ จะว่าเราตามรอยหรือเปล่า มันก็ใช่แต่มันจะต่างกัน ในเรื่องเขาเป็นแฟนกันแค่วันเดียวไง
แต่สองคนเป็นแฟนกันตลอดไป ฮิ้ววววววววว

………มาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ …………..

รีวิวนี้นุ้ยกับต้นจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวกันที่ Hokkaido ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปลายทางหลักเลยค่ะ Kiroro Resort
เราเคยเห็น Kiroro Resort ในฤดูกาลที่หิมะขาวโพลน และคิดว่านั่นคงสวยแน่ๆ แต่ทริปนี้เรากลับเลือกช่วงเวลาที่ต่างออกไปนั่นคือฤดูใบไม้ร่วง แต่เราคำนวณวันพลาดไปนิดหน่อยทำให้ช่วงนั่นใบไม้ยังคงเปลี่ยนสีไม่มากนัก และถึงแม้ว่าเราจะไปไม่ได้ตรง กับฤดูที่เราตั้งใจไว้ แต่ Kiroro Resort ก็ยังทำให้เราประทับ ใจ จนอยากกลับไปอีกครั้ง และอยากกลับไปทุกฤดู
เพราะ Kiroro Resort ไม่ได้เป็นเพียงรีสอร์ทที่มีความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมมากมายให้ทำ ให้เราได้สนุก อาหารอร่อย ออนเซ็นสุดผ่อนคลาย นั่ง Gondola ดูวิวสวยๆ เป็นสถานที่โรแมนติคในทุกฤดู เป็นสถานที่ ที่สักครั้งต้องพาแฟนไปให้ได้

……………🌸🌸……………………

Location : The Kiroro a Tribute Portfolio Hotel

FB : Kiroro Resort

ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย
จะมีบินตรง ดอนเมือง – ซัปโปโร ทุกวัน

 

การเดินทางจากสนาบิน New Chitose Airport ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เดินทางได้หลายแบบ

เพื่อนๆ เช็ควิธีการเดินทางได้จากลิงค์นี้เลยค่ะ
http://www.kiroro.co.jp/access/

 

บริเวณล็อบบี้ บอกเลยว่าไฟอลังการงานสร้างมาก  ที่นี้เช็คอินได้ตอนบ่าย 3 นะคะคุณ

แต่ถ้ามาถึงก่อน ก็สามารถฝากกระเป๋าไว้ และไปเดินเล่นส่วนต่างๆ

 

นุ้ยกับต้นเดินทางไปถึง kiroro ตอนบ่ายโมงกว่า ซึ่งยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน

เราจะไม่ปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปเปล่าๆ ค่ะ เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้เราทำมากมายเลย นุ้ยเริ่มที่ Segway tour
บอกเลยว่าดูง่ายๆ แบบนี้ แต่โคตรตื่นเต้น และสนุกมาก จะมีไกด์สอนเราให้เล่นจนเป็

และพาเราไปทัวร์ ในป่า ในเขตพื้นที่ของ kiroro นี่ถ้าหากใบไม้เปลี่ยนสีหมดแล้ว คงสวยมากแน่ ๆ
ปล. บอกเลยว่าต้องเล่นนะคะ มันสนุก ตื่นเต้นมากด้วย

 

ได้เวลาเข้าห้องพักกันแล้วค่ะ
เริ่มกันที่วิวจากห้องพักก่อนแล้วกันเนอะ

บรรยากาศห้องพัก เป็นแบบเตียงคู่ เตียงใหญ่ และนุ่มมาก

พื้นที่ภายในห้องถือว่ากว้างเลยทีเดียวค่ะ ชอบมุมเก้าอี้โซฟาเล็กๆ ริมหน้าต่าง

 

เช้าวันที่ 2 วันนี้เรามีอะไรที่อยากทำเยอะแยะมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นขับรถ Buggy , นั่ง Gondola ไปสั่นกระดิ่ง lover’bell

 

ขับรถ Buggy ซึ่งเหมือน ATV บ้านเรา
แต่ต่างกันที่อากาศและวิวที่สวยมาก ชอบ ๆ

บอกเลยว่ามันคือกิจกรรมที่โคตรตื่นเต้นสำหรับนุ้ย

นานๆ จะทำกิจกรรมแบบนี้สักที ส่วนต้นนั้นนางชอบใหญ่เลย

 

กิจกรรมแรกของวันนี้คือ ขับ Buggy

เอาจริงๆ นุ้ยว่าเหมือน ATV บ้านเรา แต่วิวสวยกว่า อากาศดีกว่า ให้ทำฟินกว่า และสนุกได้มากกว่า
ก่อนเล่นจะมีสตาฟคอยสอนที่ละขั้น ฝึกขึ้นเนิน ลงหลุม ก่อนจะไปขึ้นเขากันจริงๆ

บอกเลยว่าตื่นเต้นมาก และมันสนุกมาก นายต้นชอบสุดๆ เฟี้ยวฟ้าวเลย

เราขับขึ้นมาบนเขา ถ่ายรูปย้อนกลับลงไป

บรรยากาศริมบึงที่เราขับ buggy ไป

 

ก่อนทำอย่างอื่นมาเติมพลังกันก่อนค่ะ
กับเซ็ต Sky Tea ซึ่งเซ็ตนี้จะมีเสิร์ฟบน Gondola ด้วยค่ะ

 

และก็ได้เวลา ขี้น Gondola กันจริงๆ แล้วค่ะ

 

นี่สินะ lover’s bell
ระฆังแห่งความรัก ที่เขาว่ากันว่าให้มาอธิฐานขอพรเรื่องความรัก

เมื่อมาถึงด่านบน อากาศจะหนาวกว่าด้านล่างอยู่หลายองศาเลยค่ะ

 

 

 

 

อากาศหนาวๆ ต้องมานั่งจิบชากับขนมอร่อย
กับเซ็ต Afternoon tea รับประกันความอร่อยของขนมค่ะ ดีต่อใจ ละมุนสุด ๆ

 

 

 

มาพูดถึงเรื่องอาหารกันสักนิด มีห้องอาหารอยู่หลายห้องเลยที่เดียวค่ะ
นุ้ยได้ลองทานอาหารมื้อเที่ยวที่ห้องอาหาร Alpine Brasserie ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่มื้อเที่ยงจนถึงมื้อดินเนอร์เลยค่ะ

 

 

 

 

 

 

เมื่อถึงมื้อดินเนอร์ นุ้ยยังคงทานที่ห้องอาหาร Alpine Brasserie
เป็นเซ็ตซูชิ ในเช็ตจะมีหลายอย่างเลยค่ะ

 

 

 

แต่ถ้าหากใครอยากทานแนวอาหารอิตาเลี่ยนแนะนำที่ห้องอาหาร Alla Moda
บรรยากาศดี โรแมนติคสุด แนะนำให้จองโต๊ะริมระเบียงนะคะ และในส่วนของอาหารนั่นอร่อย ฟิน

ในพื้นที่รีสอร์ทจะมีโบสถ์ด้วยนะคะ
สำหรับจัดพิธีแต่งงาน อยากเห็นจังเลยว่าพิธีของชาวญีปุ่นเป็นยังไง

 

รอบๆ ที่พัก ในพื้นที่มีทั้ง Onsen , Pool และกิจกรรมมากมาย และมีมินิมาร์ทด้วยนะคะ

 

 

 

 

และมีมินิมาร์ทด้วยจ้า

 

 

 

My Life My Travel

View Comments